การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 235 นินทา
บทที่ 235 นินทา
บทที่ 235 นินทา
ซ่างสยงเยี่ยคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าคนฉลาดอย่างเขาจะติดกับดักง่าย ๆ แบบนี้
เขาคิดว่าชาวบ้านในหมู่บ้านเถาฮวานั้นเรียบง่ายและเป็นกันเองมาก พวกเขาย่อมไม่มีทางโกหก เพราะอย่างนั้นตอนที่มีคนมาบอกว่าเฮ่อหลานกำลังรอเขาอยู่ที่นี่ เขาจึงรีบมาทันที แต่หลังจากที่มาถึง เขาจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก
“บ้าจริง ผมต้องหาตัวคนทำเรื่องนี้ให้ได้ ผมไม่ปล่อยมันไปแน่”
เฮ่อหลานได้ยินอย่างนั้นก็พูดขึ้นว่า “ใช่ค่ะ เราจะไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่ โชคดีที่วันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้น ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เฮ่อหลานรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
เป็นเพราะตอนนั้นเธอเห็นท่อนไม้อยู่ใกล้ ๆ เธอจึงหยิบมันพร้อมกับฟาดซ่างสยงเยี่ยอย่างแรงจนหมดสติ
ทว่าสุดท้ายแล้วเธอก็เป็นเพียงผู้หญิง หากสู้กันจริง ๆ คงไม่สามารถสู้แรงซ่างสยงเยี่ยได้แน่
เมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจของเฮ่อหลาน จิงเจ้อหรงจับมือเธอไว้พร้อมกับพูดว่า “อาหลาน ผมจะสืบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เราต้องหาให้พบว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
ตอนนี้ถังซวงหันมองเฮ่อหลานแล้วถามว่า “แม่คะ ใครบอกให้แม่ไปที่นั่น?”
หลังได้ยินอย่างนั้น เฮ่อหลานรีบพูดว่า “จางหยานอันน่ะ แม่ไปที่นั่นกับหมิงซวี่”
ซ่างหมิงซวี่พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ตอนแรกผมคิดว่าจะไปหาลุง แต่หายังไงก็ไม่เจอ จนสุดท้ายจางหยานอันเป็นคนบอกว่าลุงอยู่ที่โรงงานเย็บปัก แล้วก็บอกผมว่าลุงต้องการคุยกับคุณเฮ่อ หล่อนยังบอกผมอีกว่าให้กลับมาที่บ้านเพื่อเรียกคุณเฮ่อไปหาลุง”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงขมวดคิ้ว
“จางหยานอัน? ลูกสาวของคงมานจู”
เฮ่อหลานพยักหน้าก่อนจะตอบว่า “ใช่ เธอเป็นลูกสาวของคงมานจู แม่ไม่คิดเลยว่าสองแม่ลูกนั่นจะเลวร้ายได้ขนาดนี้ จางหยานอันเป็นคนแบบนี้ได้ยังไงกัน”
“แม่คะ เราไปหาพวกนั้นกันเถอะค่ะ”
เฮ่อหลานพยักหน้าอย่างรีบร้อนก่อนจะตอบว่า “ใช่ เราต้องไปหาจางหยานอันก่อน เธอจะต้องรู้เรื่องแน่”
ซ่างหมิงซวี่ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ผมจะไปด้วย อย่างที่คิดเลย ผู้หญิงคนนั้นมีพิรุธตั้งแต่ต้น ถ้าผมรู้ว่าเธอวางแผนชั่ว ๆ แบบนี้ ผมน่าจะจัดการกับเธอซะตั้งแต่ตอนนั้น”
เวลานี้โม่เจ๋อหยวนได้ยินเสียงดัง เขาเลยเดินเข้ามา และต้องตกใจเมื่อพบท่าทีของทุกคนที่ผิดแปลกไป
ทว่าหลังจากทราบรายละเอียดแล้ว ใบหน้าของเขายิ่งมืดมน “ฉันรู้จักบ้านของตระกูลจาง เดี๋ยวฉันจะไปพาเขามา”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ซ่างหมิงซวี่นึกขึ้นได้ว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าจางหยานอันอยู่ที่ไหน แต่ถ้าโม่เจ๋อหยวนรู้แล้ว มันก็ไม่ยากอะไร “งั้นเรารีบไปที่นั่นกันเถอะ”
โม่เจ๋อหยวนเดินนำโดยไม่พูดอะไร
ส่วนถังซวงยืนขึ้นและคิดจะไปด้วย
ทว่าซ่างหมิงซวี่รีบโบกมือแล้วพูดว่า “คุณถัง คุณควรจะอยู่ที่นี่ดูแลลุงของผมก่อน เราสองคนเป็นผู้ชาย แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นั่นพวกเราสามารถจัดการได้อยู่แล้ว”
ถังซวงกลัวจริง ๆ ว่าพวกเขาจะไม่สามารถจัดการกับจางหยานอันได้ เพราะนี่คือหมู่บ้านเถาฮวา พวกชาวบ้านค่อนข้างสามัคคีกันมาก
ดังนั้นเธอจึงกังวลว่าทั้งสองจะไม่สามารถพาตัวหล่อนมาได้
เวลานี้หลี่จงอี้ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “เดี๋ยวฉันจะไปด้วย แล้วต้องบอกเรื่องนี้กับผู้ใหญ่บ้านหลิวด้วย ให้เขามาจัดการเรื่องนี้ ส่วนพวกเธอมีหน้าที่พาจางหยานอันมาที่นี่”
“งั้นไปกันเถอะครับ”
โม่เจ๋อหยวนเดินนำหลี่จงอี้และซ่างหมิงซวี่ออกไป ทว่าก่อนที่ทั้งสามจะไปถึงบ้านของหลิวเหลียงไค พวกเขาได้ยินเสียงซุบซิบบางอย่าง
“ชายหนุ่มคนนั้นคือหลานชายของคุณชายซ่างงั้นหรือ หล่อมากเลยนะ ลุงของเขาก็หล่อด้วยเหมือนกัน ตอนเขายืนข้างอาหลานน่ะเหมาะสมกันอย่างกับอะไร”
“ใช่ เธอก็รู้ ฉันเคยมองใครที่ไหนกัน แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าอาหลานกับคุณชายซ่างเหมาะสมกันมากเลยนะ”
“นี่… ฉันไม่คิดเลยว่าอาหลานที่ทำตัวไร้เดียงสาและสูงส่งมากคนนั้นจะทำตัวแบบนี้ คงรอไม่ไหวแล้วละมั้ง”
อีกคนพูดออกมาอย่างไม่ลังเล “แต่… อาหลานก็มีคนรักอยู่แล้วนี่ ทำไมหล่อนยังไปยุ่งกับคุณชายซ่างอีกล่ะ? อย่างนี้ก็ไม่ดีเลยนะ”
“อ่า… เธอนี่หัวโบราณจริง ๆ ตอนนี้อาหลานยังไม่ได้แต่งงานกับคู่นอนของตัวเองด้วยซ้ำ เป็นเรื่องปกติที่หล่อนจะหาคู่นอนใหม่ได้”
ผู้หญิงคนนั้นเม้มปากก่อนจะพูดว่า “แต่ฉันว่าคนรักของอาหลานก็หล่อไม่เบานะ อีกทั้งอายุยังน้อยกว่าด้วย แถมเขาก็ดีกับอาหลานมาก”
“แต่… คนคนนั้นอาจจะไม่ได้ร่ำรวยเท่ากับคุณชายซ่างหรือเปล่า?”
ผู้หญิงหลายคนจับกลุ่มกันซุบซิบนินทา พวกเธอคิดว่าตนเองพูดเบาแล้ว แต่ความจริงหลี่จงอี้ โม่เจ๋อหยวน และซ่างหมิงซวี่ได้ยินทั้งหมด
ตอนนี้ใบหน้าของโม่เจ๋อหยวนเผยความโกรธออกมาจนแทบจะทนไม่ไหว เขาหันมองคนเหล่านั้นแล้วพูดว่า “พวกคุณพูดเรื่องบ้าอะไรกัน? ป้าหลานกับคุณชายซ่างไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันสักนิด และมันไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณจะสามารถใส่ร้ายเธอได้”
เมื่อคนเหล่านั้นได้ยินคำพูดของโม่เจ๋อหยวน ทั้งหมดก็กระอักกระอ่วน แต่ไม่ช้าพวกเขาก็รู้สึกตัวแล้วพูดด้วยความไม่พอใจออกไป
“อาหลานกับคุณชายซ่างนอนด้วยกันแล้วจะไม่เกี่ยวข้องกันได้ยังไง ไม่ต้องมาปิดบังเราหรอก”
“หยุดพล่ามไร้สาระได้แล้ว ป้าหลานกับลุงจิงยังคบกันอยู่ อย่ามาปล่อยข่าวลือมั่ว ๆ แบบนี้”
“พวกเราไม่ได้ปล่อยข่าวลือ ตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านรู้เรื่องของอาหลานกับคุณชายซ่างกันหมดแล้ว”
ซ่างหมิงซวี่ขมวดคิ้วพร้อมกับพูดว่า “คุณเฮ่อกับลุงของผมไม่ได้มีอะไรกัน พวกคุณไม่รู้หรือว่าผมเป็นหลานชายของเขา? แล้วนี่พวกคุณไม่มีการมีงานทำกันหรือไง ถึงเอาแต่สุมหัวนินทาคนอื่นอย่างนี้”
“นี่… ไอ้หนุ่ม ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ ถึงจะเป็นหลานชายแต่เธอคงไม่ได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับลุงของตัวเองหรอกมั้ง เราเพิ่งได้ยินมาว่าอาหลานเข้าไปในห้องกับคุณชายซ่าง ด้านหลังของโรงงานเย็บปักด้วยกัน คงเรียบร้อยกันแล้วแหละ อย่ามาถือสาพวกเราเลย รีบกลับไปถามไถ่ญาติของตัวเองจะดีกว่า”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ใบหน้าของโม่เจ๋อหยวนยิ่งเย็นชา
เมื่อนึกย้อนเหตุการณ์ทั้งหมด เขาจึงทราบทันทีว่านี่เป็นกลอุบายของใครบางคน
“คนที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้มันจงใจให้คุณชายซ่างกับป้าหลานต้องลงเอยกันจริง ๆ งั้นหรือ… นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”
ใบหน้าของหลี่จงอี้บิดเบี้ยวด้วยเช่นกัน ชายชราอายุมากกว่าและคำพูดของเขาย่อมรุนแรงกว่าชายหนุ่มทั้งสอง เวลานี้เขาพูดออกไปตามตรง
“ถ้าไม่มีหลักฐาน ก็หยุดพูดพล่าม พวกเราทุกคนอยู่กับอาหลานและคุณซ่างตลอด แล้วเราจะไม่รู้เรื่องของพวกเขาได้ยังไง? นี่ยังไม่นับรวมกับคนรักของอาหลานที่มาหาเธอบ่อยครั้ง เขากับอาหลานยังคบหากันและมีสัมพันธ์ที่ดีอยู่ หยุดพล่ามไร้สาระได้แล้ว ส่วนเรื่องทั้งหมดที่พวกเธอได้ยินน่ะไปฟังจากใครมา?”
“เรื่องนั้น…”
ทั้งหมดมองหน้ากัน พวกเธอยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นต้นตอของเรื่องราวทั้งหมดนี้