การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 236 สารภาพ
บทที่ 236 สารภาพ
บทที่ 236 สารภาพ
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตอบได้ หลี่จงอี้จึงเหลือบมองแล้วพูดขึ้นว่า “รีบแยกย้ายกันไปได้แล้ว อย่ามัวมานั่งนินทาลับหลังให้เกะกะสายตา”
หลังได้ยินอย่างแล้ว ผู้หญิงที่เป็นตัวตั้งตัวตีของกลุ่มชำเลืองมองทั้งสาม แต่ก็ยอมจากไปโดยดีไม่ตอบโต้อะไร
“รีบไปที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านกันเถอะ”
หลี่จงอี้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงรีบเร่งฝีเท้าทันที
โม่เจ๋อหยวนและซ่างหมิงซวี่ก็คิดเหมือนกัน พวกเขารีบเร่งฝีเท้าตามไป
เมื่อทั้งสามมาถึงบ้านของหลิวเหลียงไค และเห็นว่าเขาอยู่ที่บ้าน หลี่จงอี้รีบบอกเล่าเรื่องทั้งหมดของเฮ่อหลานกับคุณชายซ่างทันที สุดท้ายจึงพูดขึ้นว่า “มีคนจงใจจัดฉากให้คุณชายซ่างกับอาหลาน และนี่เป็นเรื่องร้ายแรงมาก มันจะทำลายกิจการระหว่างคุณชายซ่างกับโรงงานเย็บปัก”
หลิวเหลียงไคเหงื่อไหลเย็นเฉียบ
เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่หลังจากได้ยินคำพูดของหลี่จงอี้แล้ว เขาจึงตระหนักได้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับโรงงานเย็บปักเถาฮวาด้วย เขาหันกลับมาสนใจเรื่องราวทั้งหมดทันที
“ลุงหลี่ อย่างนั้นผมจะไปที่บ้านตระกูลจางด้วย ให้จางหยานอันไปกับพวกเราก่อนเพื่อสอบถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นผมค่อยตรวจสอบข่าวลือในหมู่บ้านว่าแพร่กระจายมาจากใครกันแน่”
“อืม งั้นไปที่บ้านตระกูลจางกัน”
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านตระกูลจาง เวลานี้จางหยานอันกำลังพูดคุยกับคงมานจูอยู่ที่ลานบ้าน
หลิวเหลียงไคกล่าวขึ้นทันที “จางหยานอันรีบตามลุงหลี่กับคนอื่น ๆ ไปเร็วเข้า”
จางหยานอันและคงมานจูงุนงงเมื่อเห็นว่าหลี่จงอี้และคนอื่น ๆ มาที่นี่
หลังได้ยินคำพูดของหลิวเหลียงไคแล้ว เธอจึงตระหนักบางอย่างได้ คงมานจูเลยยืนบังลูกสาวของตนไว้พร้อมถามว่า “ผู้ใหญ่บ้าน หมายความว่ายังไงที่จะให้ลูกสาวของฉันตามพวกเขาไป?”
“ใช่ ทำไมฉันต้องตามพวกเขาไปด้วย”
เดิมทีจางหยานอันตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อเห็นซ่างหมิงซวี่ แต่เมื่อเห็นท่าทีของคนที่มากับเขาแล้ว ใบหน้าของเธอกลายเป็นย่ำแย่และหดหู่ทันที
เวลานี้จางเป่ยซานกลับมาพอดี และเมื่อเห็นสถานการณ์ที่บ้าน เขาก็เอ่ยถามทันที
“ผู้ใหญ่บ้าน มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เป่ยซาน กลับมาแล้วหรือ ถ้าอย่างนั้นก็รีบหยุดครอบครัวของคุณไว้ซะ เราต้องการสอบถามหยานอัน ให้เธอตามพวกเราไป”
ก่อนที่จางเป่ยซานจะพูดอะไร จางหยานอันพูดขึ้นว่า “ไม่… ฉันจะไม่ไปกับพวกคุณเด็ดขาด พวกคุณจะพาฉันไปไหน ไปทำอะไร ฉันไม่ไป!”
เมื่อมีความวุ่นวายเกิดขึ้นในตระกูลจาง ชาวบ้านก็เริ่มเข้ามามุงดูอย่างอยากรู้อยากเห็น
ผู้ที่ไม่ทราบสถานการณ์ถามผู้ที่เห็นก่อนหน้า จึงได้ทราบว่าผู้ใหญ่บ้านให้จางหยานอันกลับไปพร้อมกับหลี่จงอี้และคนอื่น ๆ ทั้งหมดต่างก็สงสัยทันที
“ผู้ใหญ่บ้าน เกิดอะไรขึ้น บอกฉันก่อนว่าทำไมหยานอันจะต้องไปกับพวกเขา?”
“ใช่ หยานอันเป็นเด็กหญิงนะ เธอจะกลัวก็ไม่แปลก”
เวลานี้ บางคนที่พอจะคิดได้ก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเฮ่อหลานและซ่างสยงเยี่ย
“ผู้ใหญ่บ้าน หรือว่าเรื่องของอาหลานกับคุณชายซ่างจะเกี่ยวข้องกับหยานอันด้วย?”
ทันทีที่คำพูดนี้ดังขึ้น คนรอบข้างรีบคัดค้านทันที “จะเป็นไปได้ยังไง สาวน้อยอย่างหยานอันจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นได้ยังไง?”
ทว่ากลุ่มผู้หญิงที่หลี่จงอี้พบเจอเมื่อครู่ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน
เมื่อเห็นหลี่จงอี้และคนอื่น ๆ กำลังจะพาตัวจางหยานอันออกไป พวกเธอก็นึกถึงสิ่งที่หลี่จงอี้ถามก่อนหน้าได้ว่าใครเป็นคนบอกกล่าวกับพวกตน พวกเธอเลยชี้ไปที่จางหยานอันแล้วพูดว่า “อ้อ… ฉันจำได้แล้ว หยานอันเป็นคนบอกพวกเราเกี่ยวกับเรื่องนั้น”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น คนโดยรอบก็เริ่มนึกตาม สีหน้าของพวกเขาแปรเปลี่ยนไปทันที
“อืม เป็นหยานอันที่บอกพวกเราเรื่องนั้นจริง ๆ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าของหลิวเหลียงไคยิ่งบิดเบี้ยว
“เอาเถอะ จางหยานอัน รีบกลับไปพร้อมกับลุงหลี่และคนอื่น ๆ เดี๋ยวนี้ ถ้าพวกเขาถามอะไร เธอก็แค่ตอบตามความจริง”
คงมานจูมองลูกสาวของตนอย่างสงสัย แม้ว่าหล่อนจะอิจฉาเฮ่อหลานเสมอมา แต่เธอก็ไม่เคยลงมือทำอะไร
เวลานี้เธอไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าลูกของเธอจะไปทำอะไรไม่ดีเข้า
ส่วนจางเป่ยซานก็ตกใจเช่นกัน จางหยานอันเป็นลูกสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทนเห็นได้หากผู้ใหญ่บ้านจะพาลูกสาวของเขาออกไป
“ผู้ใหญ่บ้าน ถ้ามีคำถามอะไรก็ถามที่นี่ก็ได้ หยานอันของพวกเราไม่ทำสิ่งเลวทรามขนาดนั้นแน่ นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด”
“ไม่มีความเข้าใจผิดอะไรทั้งนั้น เธอเป็นคนพาพวกเราไปที่ด้านหลังของโรงงานเย็บปักเอง เธอต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้!”
ซ่างหมิงซวี่มองจางหยานอันอย่างโกรธเกรี้ยว ก่อนจะคว้าตัวหญิงสาวทันที
เมื่อเห็นจางเป่ยซานคิดจะพูดอะไรต่อ หลิวเหลียงไคก็พูดแทรกขึ้น “อย่าลืมว่าคุณชายซ่างมาที่นี่เพื่อร่วมค้าขายกับหมู่บ้านของเรา หากเหตุการณ์นี้ทำลายเขา พวกเราจะต้องกลับไปยากลำบากเหมือนเมื่อก่อนแน่ เพราะนี่คือเรื่องของหมู่บ้าน!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว บางคนในหมู่บ้านจึงเริ่มเปลี่ยนท่าที
ใช่แล้ว ถ้าซ่างสยงเยี่ยไม่พอใจและหยุดการร่วมมือทั้งหมดกับหมู่บ้านเถาฮวา คนที่ลำบากที่สุดก็หนีไม่พ้นพวกเรา พวกเราไม่ควรจะหลงเชื่อไปกับการซุบซิบนินทาก่อนหน้า
เวลานี้ทุกคนรีบพูดให้จางหยานอันไปกับหลี่จงอี้โดยเร็ว
เมื่อเห็นว่าทุกคนเข้าข้างหลี่จงอี้กับคนอื่น ๆ จางหยานอันก็ขุ่นเคือง
ยังไงเสีย ตอนนี้เธอทำได้เพียงสิ้นหวังเพราะไม่มีใครช่วยเหลือเธอได้ แต่ถึงอย่างไรหากเธอไม่คิดจะไปซะอย่าง พวกเขาจะทำอะไรเธอได้?
ท้ายที่สุด มีผู้หญิงสองสามคนดึงจางหยานอันออกมาโดยตรง “เอาเถอะ หยานอัน อาหลานก็แค่ต้องการถามอะไรเธอสักหน่อย รีบไปเร็วเข้า”
ด้วยความช่วยเหลือจากผู้หญิงหลายคน จางหยานอันจึงถูกพาตัวไปที่บ้านของเฮ่อหลาน
เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว คงมานจูมองลูกสาวของตนด้วยความหนักใจก่อนจะรีบตามไป
“ปล่อย ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
จางหยานอันยังคงดิ้นรน แต่เธอก็ไม่สามารถต่อต้านคนโดยรอบได้
เมื่อมาถึง ถังซวงมองจางหยานอันพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใครบอกให้เธอพาแม่ของฉันกับคุณชายซ่างไปที่หลังโรงงานเย็บปัก?”
จางหยานอันมองถังซวงอย่างนิ่งเงียบ ไม่ตอบอะไร
ถังซวงแค่นเสียงหัวเราะเย็นชาเมื่อเห็นอย่างนั้น แต่บังเอิญว่าเธอมีบางสิ่งที่เพิ่งทำก่อนหน้านี้ เธอจึงใช้มันกับจางหยานอัน และเมื่อเธอถามอีกครั้ง อีกฝ่ายก็ตอบกลับตามตรง
“มีคนให้เงินฉันบอกให้ฉันพาป้าหลานไปที่หลังโรงงานเย็บปัก”
ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นเปล่งออกมา จางหยานอันตกตะลึง เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดมันออกไป
ถังซวงได้ยินอย่างนั้นจึงถามต่อว่า “ใคร?”
จางหยานอันส่ายศีรษะ “ฉันไม่รู้”
“หน้าตาเป็นยังไง?”
เมื่อเห็นว่าจางหยานอันไม่รู้ ถังซวงจึงเปลี่ยนคำถาม
จากนั้นจางหยานอันก็เริ่มอธิบายรูปร่างหน้าตาของคนคนนั้น
เมื่อเสร็จสิ้นคำถาม หลิวเหลียงไคพูดขึ้นด้วยความสงสัย “อืม… ตามที่จางหยานอันพูด ทำไมคนคนนี้ถึงคล้ายกับผู้เฒ่าเหลียงที่อยู่ในหมู่บ้านถัดไปนักล่ะ?”
ทว่าถังซวงไม่รู้จักผู้เฒ่าเหลียงคนนั้น
“เธอเป็นคนกระจายข่าวลือในหมู่บ้านใช่ไหม?”
ก่อนหน้านี้เธอได้ยินหลี่จงอี้พูดถึงเรื่องนี้ ถังซวงจึงชำเลืองมองจางหยานอันด้วยสายตาเย็นชา
“ใช่”