การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 237 ลงโทษ
บทที่ 237 ลงโทษ
บทที่ 237 ลงโทษ
“โอ้…”
เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยานอันแล้ว ชาวบ้านที่มาด้วยส่งเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่คิดว่ามันจะเป็นความจริง
“จางหยานอันรับเงินมาแล้วใส่ร้ายอาหลานจริง ๆ แล้วทำให้พวกเราเข้าใจผิดว่าอาหลานมีอะไรกับคุณชายซ่างสินะ”
“ฉันไม่น่าเชื่อข่าวลือพวกนั้นเลย”
ในตอนท้าย หลายคนหันมองจิงเจ้อหรง พวกเขาเผยรอยยิ้มแห้ง ๆ ออกมา นี่คือคนรักตัวจริงของเฮ่อหลาน แล้วทำไมพวกเขาถึงยังเผลอคิดว่าเฮ่อหลานกับซ่างสยงเยี่ยจะมีลับลมคมในกัน ในเมื่อมันเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมขนาดนั้น
ตอนนี้ใบหน้าของจิงเจ้อหรงยิ่งบิดเบี้ยว เขาไม่คิดมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเฮ่อหลานทั้งที่อยู่ในหมู่บ้านเถาฮวา โชคดีที่ครั้งนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นร้ายแรงมาก แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังจะต้องได้รับโทษทั้งหมด
ส่วนถังซวงที่ทำสีหน้าเยือกเย็นมาตลอด เธอไม่คิดปล่อยจางหยานอันไปโดยง่าย
“ผู้ใหญ่บ้านคะ เรื่องนี้ถูกจัดการแล้ว และจางหยานอันก็เป็นคนทำ คุณจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงคะ?”
หลิวเหลียงไคไม่คิดมาก่อนว่าจางหยานอันจะเหลวแหลกมากขนาดนี้ ทุกคนล้วนแต่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกอับอายไม่น้อย และก็ไม่รู้ด้วยว่าจะลงโทษจางหยานอันอย่างไรดี
เมื่อเห็นหลิวเหลียงไคลังเล ถังซวงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว
ทว่าเฮ่อหลานพูดขึ้นมาก่อน “ผู้ใหญ่บ้านคะ ถึงจางหยานอันจะยังเด็ก แต่เธอก็มีจิตใจที่เลวร้ายมาก สามารถทำทุกสิ่งได้เพื่อเงิน ใครจะรู้ว่าอนาคตข้างหน้าเธอจะทำเรื่องเลวร้ายแค่ไหนกับคนอื่นในหมู่บ้านเพื่อเงินอีก”
เมื่อเห็นแม่ของตนพูดออกมาอย่างนั้น ถังซวงก็พูดต่อว่า “ใช่ค่ะ ผู้ใหญ่บ้านคะ แม่ของจางหยานอันก็มักจะต่อว่าพวกเราเสมอ และเวลานี้ลูกสาวของหล่อนยังทำแบบนี้อีก ทั้งสองไม่ใช่คนดีสักนิด เรื่องที่เกิดขึ้นในคราวนี้ เราไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้นะคะ”
ถังซวงโกรธมาก หากพวกเขาคิดจะทำร้ายเธอ มันอาจจะไม่จบลงอย่างนี้ แต่นี่พวกเขาต้องการจะเล่นงานแม่ ซึ่งเธอไม่สามารถอดทนได้ ในเวลาเดียวกันเธอต้องการดูว่าหลิวเหลียงไคจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงเหมือนกัน
ซึ่งเฮ่อหลานเองก็ไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้
“ใช่ เรื่องนี้เราจะปล่อยผ่านไม่ได้ คงมานจูกับจางหยานอันจะต้องได้รับบทเรียน”
ขณะนั้นจางหยานอันก็เข้าใจบางอย่าง เธอหันมองถังซวงอย่างหวาดกลัวก่อนจะพูดเสียงแข็ง “เธอ… เธอจะทำอะไรกับฉัน” เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ต้องการจะพูดความจริง แต่เวลานี้เธอพูดทุกอย่างออกไปหมดแล้ว
“ไม่มีอะไร ฉันแค่ต้องการฟังความจริง”
คงมานจูเพิ่งมาถึงพูดไม่ออก เวลานี้เธอรีบชี้นิ้วไปทางถังซวงแล้วสาปแช่ง “ถังซวง เธอทำอะไรกับหยานอันของฉัน ยานั่นทำให้หยานอันต้องพูดพล่ามไร้สาระ หยานอันไม่เคยรับเงินจากใครหรือทำเรื่องเลวทรามพวกนี้ ที่พูดเมื่อครู่ต้องเป็นเธอที่ตั้งใจทำให้หล่อนพูดมันออกมาแน่”
ในตอนท้าย คงมานจูชี้นิ้วไปที่เฮ่อหลานแล้วพูดว่า “และเธอ เฮ่อหลาน ฉันคิดจะไปทำร้ายเธอเมื่อไหร่กัน? อย่าคิดว่าตอนนี้พวกเธอแม่ลูกจะมีอำนาจจนสามารถบิดเบือนความจริงได้นะ หยานอันของฉันไม่เคยคิดร้ายกับพวกเธอ”
สิ่งที่จางหยานอันสารภาพออกมาก่อนหน้า คงมานจูเองก็ตกตะลึง นั่นคือสาเหตุที่เธอยังไม่พูดอะไรในคราวแรก แต่สุดท้ายเธอก็นึกได้ว่าจางหยานอันไม่น่าจะสารภาพโดยง่ายดายแบบนี้จึงรีบต่อว่าทั้งเฮ่อหลานและถังซวงแทน
ยิ่งไปกว่านั้น ในใจของเธอยังคาดหวังให้เฮ่อหลานและคุณชายซ่างมีความสัมพันธ์กัน ถ้าเป็นเช่นนั้นจิงเจ้อหรงก็ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเฮ่อหลานอีก ทำไมคนอย่างเฮ่อหลานจะต้องได้ลงเอยกับผู้ชายที่ดีพร้อมอย่างจิงเจ้อหรงด้วย
เวลานี้ถังซวงไม่คิดทนกับคงมานจูอีกต่อไป เธอหันมองหลิวเหลียงไคแล้วถามว่า “ผู้ใหญ่บ้านคะ คุณรู้จักผู้เฒ่าเหลียงที่จางหยานอันพูดถึงหรือคะ?”
หลังได้ยินอย่างนั้น หลิวเหลียงไคพยักหน้ารับทันที
เมื่อเห็นว่าถังซวงไม่สนใจตน คงมานจูคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกถังซวงขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
“หลังจากเราได้พบกับผู้เฒ่าเหลียงแล้ว เราก็จะได้รู้ว่าจางหยานอันรับเงินมาจริงหรือเปล่า”
เมื่อคงมานจูได้ยินอย่างนั้น เธอรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเป็ดที่ถูกรัดคอจนไม่สามารถพูดคำใดได้
และคนอื่น ๆ ก็เริ่มพูดคุยกัน
“ใช่ เราต้องไปหาผู้เฒ่าเหลียงก่อน”
คนอื่น ๆ ในหมู่บ้านรู้จักผู้เฒ่าเหลียงในหมู่บ้านข้าง ๆ เป็นอย่างดี
จากนั้นหลิวเหลียงไคพูดขึ้นมาว่า “ฉันจะนำทางเอง พวกเราจะไปพบผู้เฒ่าเหลียง ตราบใดที่ได้คุยกับเขา ทุกอย่างก็น่าจะจบ”
คราวนี้จิงเจ้อหรงยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ผมจะไปด้วย”
หลังได้ยินอย่างนั้น หลิวเหลียงไครีบพูดว่า “ครับ อย่างนั้นไปกันเถอะ”
เขารู้สถานะของจิงเจ้อหรงดี ดังนั้นจึงสุภาพกับอีกฝ่ายเป็นธรรมดา
ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกว่าพฤติกรรมของตัวเองในวันนี้ไม่เหมาะสมเล็กน้อย เมื่อเขาถูกถามว่าจะจัดการกับจางหยานอันอย่างไร เขาควรจะเข้มงวดและจริงจังมากกว่านี้ ทำไมเขาจึงลืมเรื่องนั้นไปได้ แล้วจิงเจ้อหรงจะมองเขาอย่างไรต่อจากนี้ล่ะ?
ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาห่วงเรื่องอื่น หลิวเหลียงไคคิดว่าควรไปพบผู้เฒ่าเหลียงโดยเร็วจะดีที่สุด
แต่น่าเสียดายเมื่อพวกเขาไปยังหมู่บ้านข้าง ๆ ผู้เฒ่าเหลียงก็หายตัวไป
“กำลังมองหาผู้เฒ่าเหลียงงั้นหรือ? ก่อนหน้านี้มีคนมาตามหาเขาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาออกไปจากหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกเราเองก็ไม่เคยพบกับเขาอีกเลย”
หลังได้ยินอย่างนั้น หัวใจของหลิวเหลียงไคเย็นวูบ
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของจิงเจ้อหรงยังไม่แปรเปลี่ยน เขาถามเกี่ยวกับเรื่องราวของผู้เฒ่าเหลียงทันที ก่อนจะรีบเข้าเมืองและติดต่อทุกฝ่ายให้ออกตามหาผู้เฒ่าเหลียงคนนั้น
ด้วยความกว้างขวางของจิงเจ้อหรง ทำให้ผู้เฒ่าเหลียงถูกค้นพบอย่างรวดเร็ว
“ท่านครับ ชายคนนี้กำลังจะขึ้นรถออกจากเมือง โชคดีที่รถมาช้า เขาเลยยังไม่ได้ออกไปครับ”
เหรินอวี่นำคนมาติดตามเป็นการส่วนตัว
ผู้เฒ่าเหลียงมองทุกคนตรงหน้าอย่างหวาดกลัว เขาเป็นเพียงชาวนา ไม่เคยเห็นคนที่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
ดังนั้นก่อนที่จิงเจ้อหรงจะทันได้ซักถาม เขารีบอธิบายเรื่องราวทั้งหมดทันที
“มีคนให้เงินกับฉันแล้วให้ฉันไปพบจางหยานอันในหมู่บ้านเถาฮวา และบอกให้เธอทำอย่างนั้น ฉันไม่รู้อะไรอีกแล้ว”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว จิงเจ้อหรงมองเหรินอวี่แล้วพูดว่า “รีบไปตรวจสอบให้ดี ฉันอยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
“ครับ”
หลังผู้เฒ่าเหลียงสารภาพเรื่องจางหยานอัน เขาก็ถูกเหรินอวี่พาตัวไป
เวลานี้ความจริงที่ว่าจางหยานอันรับเงินเพื่อใส่ความเฮ่อหลานถูกยืนยันแล้ว และในที่สุดหลิวเหลียงไคจึงคิดบทลงโทษได้
“ต่อไป คงมานจูกับจางหยานอันจะต้องไปทำความสะอาดเล้าหมู และหากมีการเปิดรับสมัครงานใด ๆ ในโรงงานเย้บปัก ทั้งสองคนนั้นจะไม่ได้โอกาสนั้นเด็ดขาด แม้ว่าจะมีผลประโยชน์ภายในหมู่บ้าน แต่ตระกูลจางจะไม่ได้รับมัน!”
การลงโทษเช่นนี้นับว่ารุนแรงมาก นี่คือการตัดขาดครอบครัวจางหยานอันกับหมู่บ้านเถาฮวา ชีวิตของพวกเขาตกที่นั่งลำบากแล้ว
ส่วนผู้เฒ่าเหลียง เหรินอวี่ถามบางอย่างเกี่ยวกับเขาแล้วกลับมารายงานว่า
“ท่านครับ จากคำสารภาพของผู้เฒ่าเหลียง ดูเหมือน… เหม่ยหยิงตงกับลูกสาวของหล่อนจะอยู่เบื้องหลังครับ”