การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 241 มันเป็นใคร
บทที่ 241 มันเป็นใคร
บทที่ 241 มันเป็นใคร
จูหมิงฟูนึกถึงข่าวที่เขาได้รับ ใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด แต่เขาจะไม่พูดในสิ่งที่ยังไม่ชัดเจนเด็ดขาด เช่นนั้นจึงพูดเบา ๆ ว่า “มีคนขอให้เราสองคนมาที่นี่ ผมเลยพาคุณมาด้วย”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เหม่ยหยิงเต๋อยิ่งทวีความสงสัย
“ใครกัน? แล้วเขานัดเรามาที่นี่หรือครับ?”
“เข้าไปก็รู้เอง”
จูหมิงฟูเดินนำหน้า ตอนนี้เขาสงสัยว่าเหม่ยหยิงตงอยู่ที่ไหน แต่เมื่อเขายิ่งเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงหอบอย่างหนักหน่วงจากห้องด้านหน้า
เมื่อได้ยินเสียงนั้น ใบหน้าของจูหมิงฟูชาวาบ
ส่วนเหม่ยหยิงเต๋อไม่คิดว่าจะเป็นเสียงของน้องสาวตนเอง เขารู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำเรื่องนี้ในเวลากลางวันแสก ๆ
“นี่… ใครกันที่นัดพวกเรามาที่นี่ ทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้”
จูหมิงฟูหันศีรษะกลับมามองเหม่ยหยิงเต๋อด้วยแววตาฉงนก่อนจะถามเบา ๆ ว่า “คุณชายเหม่ย คุณคิดว่าเป็นเสียงของคุณเหม่ยไหมครับ?”
นับตั้งแต่เขาทราบข่าว เวลานี้เขาลองถามออกไปอย่างระมัดระวัง และเขารู้สึกว่านี่เป็นเสียงของเหม่ยหยิงตงที่เขาเคยพบเจอมาก่อนหน้านี้
“อะ… อะไรนะ…”
เมื่อเหม่ยหยิงเต๋อได้ยินอย่างนั้น ร่างกายของเขาชะงักค้างก่อนจะส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงครับ หยิงตงอยู่ที่บ้าน คนที่อยู่ด้านในไม่ใช่เธอแน่”
ยังไงซะ ทันทีที่เหม่ยหยิงเต๋อพูดจบ ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นจากด้านใน
“คุณเหม่ยครับ ผมไม่นึกเลยว่าผู้หญิงที่ดูสูงส่งอย่างคุณจะทำได้ขนาดนี้ รสชาติของคุณยอดเยี่ยมจริง ๆ ผมชอบมาก”
“อ๊ะ…”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เหม่ยหยิงเต๋อรู้สึกว่ามีบางอย่างระเบิดขึ้นในใจ เป็นไปได้ไหมว่าคนที่อยู่ด้านในคือเหม่ยหยิงตงน้องสาวของเขาจริง ๆ? แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ในห้องนี้กับผู้ชายแปลกหน้า? นี่มันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อนึกคิดไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเหม่ยหยิงเต๋อก็ฟื้นคืนสติ เขาส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
“หมิงฟู นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ครับ อาจมีคนได้ยินเรื่องที่ครอบครัวของเราสองคนกำลังจะแต่งงาน ดังนั้นเลยสร้างเรื่องเพื่อทำลายงานแต่ง น้องสาวของผมไม่มีวันทำเรื่องอย่างนี้เด็ดขาด เธอเกิดในเมืองหลวง ทุกคนล้วนแต่รู้ว่าเธอสง่างาม ใจกว้าง อ่อนโยน และยังสุภาพ เธอย่อมไม่มีวันทำเรื่องน่าอับอายอย่างนี้แน่”
“อืม… คุณชายเหม่ยอย่าเพิ่งปฏิเสธเลยครับ เราเข้าไปดูกันเถอะ”
เมื่อได้ยินจูหมิงฟูพูดอย่างนั้น เหม่ยหยิงเต๋อรีบขวางทางเพื่อหยุดเขา
“หมิงฟู อย่าเข้าไปขัดจังหวะคนที่อยู่ด้านในเลยครับ”
อย่างไรก็ตาม จูหมิงฟูมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อสืบทราบความจริง ดังนั้นเขาจึงไม่จากไปพร้อมชำเลืองมองชายที่ตามมา และก้าวไปด้านหน้าพร้อมกับเตะประตูที่ปิดอยู่ให้เปิดออก
ชายที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านในตกใจพร้อมตะโกนเสียงดัง “พวกแกเป็นใคร เข้ามาที่นี่โดยไม่ได้รับอนุญาตงั้นหรือ?”
เวลานี้ยาในร่างกายของเหม่ยหยิงตงหมดฤทธิ์แล้ว เธอกำลังผลักผู้ชายตรงหน้าออก แต่ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก และเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หลังประตู เธอกรี๊ดลั่นพร้อมกับรีบดึงผ้านวมมาคลุมร่างกายไว้ ในขณะเดียวกันก็ผลักชายตรงหน้าออก
ชายคนนั้นตกใจเพราะเห็นว่ามีคนมากมาย เขาถอยออกพร้อมกับรีบหาอะไรมาคลุมตัว
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ก็เพียงพอแล้วที่ผู้ยืนหลังประตูจะเห็นสถานการณ์ด้านใน
ส่วนเหม่ยหยิงเต๋อที่เห็นน้องสาวของตนกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับชายคนอื่นในเวลากลางวันแสก ๆ และถูกจับได้โดยจูหมิงฟู เขาก็รู้สึกหน้ามืดจนแทบจะเป็นลม ตระกูลเหม่ยของเขาไม่เคยมีเรื่องไหนที่น่าอับอายเช่นนี้มาก่อน
จูหมิงฟูที่อยู่ด้านข้างเห็นเหม่ยหยิงตงชัดเจน
แม้ว่าเขาจะได้รับข่าวนี้ในตอนเช้า แต่เมื่อเขาเห็นเหม่ยหยิงตงหลับนอนกับชายอัปลักษณ์ เขากลับรู้สึกโกรธอย่างน่าประหลาดใจ เขาเกือบจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้แล้ว หากรอจนกระทั่งแต่งงานแล้วได้เห็นนิสัยที่แท้จริงของเธอ วันนั้นเขาจะต้องขยะแขยงขนาดไหน แล้วเวลานั้นมันสายเกินไปแล้วที่จะรู้ความจริง
“ไม่คิดจริง ๆ ว่าคุณเหม่ยจะเป็นคนอย่างนี้ ดังนั้นลืมเรื่องงานแต่งงานของเราไปได้เลย”
เหม่ยหยิงตงไม่ได้สนใจจูหมิงฟูมากนัก และรู้สึกว่าเขาด้อยกว่าจิงเจ้อหรงในทุกอย่าง
ทว่าเวลานี้เธอถูกจิงเจ้อหรงปฏิเสธอย่างไม่ไยดี ถ้าเธอถูกจูหมิงฟูปฏิเสธอีก เธอคงจะรู้สึกอัปยศเกินกว่าที่จะไปเชิดหน้าชูตาสู้ใครได้
“คุณชายสามเข้าใจผิดแล้วค่ะ ผู้ชายคนนี้หลอกให้ฉันมาที่นี่ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น รีบจับเขาเร็วเข้า เขาหลอกฉันมา”
หลังได้ยินอย่างนั้น ชายอัปลักษณ์ถึงกับไม่พอใจ
“หลอกอะไร? เธอเป็นคนขอให้ฉันมาแท้ ๆ? ทำไมถึงโกหกหน้าด้าน ๆ อย่างนี้ล่ะ แล้วดูที่เธอทำลงไปสิ กล้าพูดไหมว่านั่นคือการขัดขืน? อย่ามาโกหกหน้าด้าน ๆ แบบนี้เลย ฉันจะไปหลอกเธอได้ยังไง”
“แกโกหก!”
เหม่ยหยิงตงมองชายตรงหน้าด้วยแววตาเคียดแค้น เธอต้องการฉีกร่างของเขาเป็นชิ้น ๆ
“หืม… ก็เธอเป็นคนขอให้ฉันมาที่นี่ แต่ตอนนี้กลับไม่ยอมรับซะอย่างนั้น ทำไมไม่พูดความจริงออกมาล่ะ”
ชายอัปลักษณ์ยังคงใช้สายตาเหยียดหยามและดูถูกเหม่ยหยิงตง
“แก…”
เหม่ยหยิงตงอยากจะบอกเกี่ยวกับเปาลี่ผิง แต่ถ้าเธอพูดถึงเขา อีกฝ่ายก็จะพูดเรื่องของเธอ และเมื่อนั้นทุกคนก็จะรู้ว่าเธอเคยทำอะไรลงไปบ้าง
หลังชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง เหม่ยหยิงตงก็ไม่พูดอะไรต่อ
เมื่อเห็นเหม่ยหยิงตงไม่อธิบายอะไรต่อ เหม่ยหยิงเต๋อก็ยิ่งรู้สึกกังวลใจ
“หยิงตง บอกฉันมาให้หมดว่ามันเกิดอะไรขึ้น รีบอธิบายให้หมิงฟูเข้าใจเดี๋ยวนี้”
อย่างไรเสียเวลานี้จูหมิงฟูไม่ต้องการฟังคำแก้ตัวของเหม่ยหยิงตงอีกแล้ว ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม เหม่ยหยิงตงได้กระทำเรื่องเสื่อมเสียเกียรติลงไปแล้ว มันจึงไม่สำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
“คุณชายเหม่ย ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรแล้วครับ งานหมั้นระหว่างครอบครัวเราจะถูกยกเลิก ผมจะกลับไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่เอง”
หลังพูดจบ คุณชายจูออกไปทันที
“หมิงฟู… คุณชายสาม…”
เหม่ยหยิงเต๋อตะโกนเรียก แต่เมื่อเห็นจูหมิงฟูไม่หยุดฝีเท้า เขาจึงตระหนักได้ว่าตนไม่สามารถรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ได้
หลังจูหมิงฟูจากไป สุดท้ายเหม่ยหยิงเต๋อหันมองเหม่ยหยิงตงด้วยความโกรธ
“หยิงตง นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงทำตัวแบบนี้!”
เหม่ยหยิงตงค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลง ขณะเดียวกันก็ตระหนักได้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นกลอุบายเพื่อให้ตระกูลเหม่ยไม่ได้สานสัมพันธ์กับตระกูลจู
“พี่รอง มีคนวางแผนไม่ให้ครอบครัวของเราแต่งงานกับตระกูลจูค่ะ”
เมื่อเหม่ยหยิงเต๋อได้ยินอย่างนั้น เขาก็รู้สึกตัว ก่อนจะเผยความโกรธผ่านสีหน้า
“ใครกันที่มันต้องการทำลายการแต่งงานของตระกูลเรากับตระกูลจู?”
——————————————