การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 253 ถามตรง ๆ
บทที่ 253 ถามตรง ๆ
บทที่ 253 ถามตรง ๆ
เมื่อเฉินเยว่จือได้ยินอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่เชื่อในทันที
“เป็นไปไม่ได้ เธอมาจากชนบทไม่ใช่หรือ? แล้วจะมีบ้านในเมืองหลวงได้ยังไง? แถมยังเป็นคฤหาสถ์อีก นี่เธอคงจะพูดโอ้อวดใหญ่โตได้จนเคยชินแล้วสินะ” ในตอนท้ายเธอนึกบางอย่างได้ จึงเชิดหน้าขึ้นพร้อมหันมองเฮ่อหลานอย่างเหยียดหยันก่อนจะกล่าวว่า “คงไม่ใช่ว่าอาเจ้อซื้อให้หรอกนะ อย่างนั้นเธอก็ไม่เบาเลยนี่”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาทันที เฮ่อหลานกับถังเซวี่ยก็ทำใบหน้าบึ้งตึงเช่นกัน แต่ก่อนหน้าที่พวกเธอจะตอบโต้ คุณนายจิงพูดขึ้นก่อนว่า “อาหลาน ฉันขอโทษแทนหล่อนด้วยนะจ้ะ น้องสาวของฉันถูกพ่อแม่ตามใจตั้งแต่ยังเด็ก แม้จะอายุปานนี้แล้วแต่หล่อนก็ยังโง่ไม่เปลี่ยน รับคำขอโทษของฉันเถอะนะ”
เมื่อได้ยินคุณนายจิงพูดอย่างนั้นแล้ว เฮ่อหลานรีบโบกมือพลางพูดว่า “คุณป้าคะ อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะมันไม่ใช่ความผิดคุณเลยนะคะ” เธอรู้สึกว่าคุณนายจิงชอบพวกตนมาก ดังนั้นพฤติกรรมของเฉินเยว่จือไม่ได้ส่งผลอะไรต่อความรู้สึกของเธอที่มีต่อคุณนายจิงสักนิด
เมื่อเห็นว่าเฮ่อหลานไม่ได้ตำหนิเรื่องนั้น คุณนายจิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะหันมองจิงไค่หรงและจิงซิวหรงอย่างไม่พอใจ “รีบส่งป้าเล็กของพวกลูกกลับไปได้แล้ว” เธอได้พยายามไล่เฉินเยว่จือออกไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่เพราะลูกชายสองคนนี้เข้ามาขัดจังหวะ เสียก่อน เรื่องราวเลยดำเนินมาถึงจุดนี้ได้
จิงไค่หรงและจิงซิวหรงได้ยินแม่พูดอย่างนั้น ทั้งสองพลันลุกขึ้นยืนทันที
ลูกชายสองคนทั้งจิงเหวินหยวนและจิงเหวินรุ่ยรู้สึกกระดากอายเกินกว่าจะนั่ง ทั้งสองลุกขึ้นยืนเช่นกัน
หากแต่จิงเจ้อหรงกลับเดินไปด้านหน้าก่อนจะหันไปกล่าวกับเฉินเยว่จือด้วยสีหน้าเย็นชา “บ้านที่อาหลานพูดถึงคือบ้านของพวกเธอเอง ไม่เกี่ยวข้องกับผมและตระกูลจิง มันเป็นเพราะเบื้องบนให้รางวัลกับซวงเอ๋อร์ ทว่ารางวัลนั้นมันยังน้อยเกินไปและผู้ใหญ่จึงคิดหาวิธีที่จะชดเชยให้เหมาะสม ดังนั้นคุณช่วยหยุดพูดจาไร้สาระเสียที หากไม่รู้เรื่องอะไรก็ควรจะเงียบปากไว้จะดีกว่า”
จิงซิวหรงพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ ผมก็ได้ยินเรื่องนี้มาเหมือนกัน และรางวัลที่กำลังจะมาถึงก็น่าจะอีกไม่นานนัก เมื่อถึงเวลานั้น ตราบใดที่สหายถังซวงต้องการ ผู้บังคับบัญชาย่อมมอบให้เธอแน่ หลังจากเขาไตร่ตรองแล้ว” เขารู้ดีว่าสูตรยาสองรายการที่ถังซวงมอบให้มีประสิทธิภาพมาก โดยเฉพาะยาถอนพิษ มันเป็นประโยชน์มากต่อกองทัพเวลาออกไปปฏิบัติภารกิจ
“อะ… อะไรนะ…”
เฉินเยว่จือและสื่อจวินอี่หันมองถังซวง พวกเธอไม่เข้าใจว่าทำไมผู้บังคับบัญชาจึงมอบรางวัลเป็นบ้านหลังใหญ่ให้หล่อน แต่พอฟังจากคำพูดของจิงเจ้อหรงและจิงซิวหรง ดูเหมือนว่ารางวัลนี้จะน้อยเกินไปเสียด้วย
“คุณคงจะทราบถึงยาแก้อักเสบชนิดพิเศษบ้างแล้ว ยานั่นถูกพัฒนาขึ้นโดยสหายถังซวง และเธอยังมีส่วนร่วมกับยาอื่น ๆ อีกมากมายด้วย เธอถึงได้รับรางวัลเป็นบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังน้อยไปเมื่อเทียบกับความสามารถของเธอ”
ไม่ว่าเฉินเยว่จือและสื่อจวินอี๋จะโง่เขลาขนาดไหน แต่พวกเธอล้วนเคยได้ยินชื่อของยาแก้อักเสบชนิดพิเศษมาแล้วทั้งนั้น ทั้งสองเลยหันมองถังซวงด้วยความประหลาดใจ พวกเธอไม่อยากจะเชื่อ ถังซวงตรงหน้าเป็นแค่เพียงนักเรียนเท่านั้น แต่กลับมีความสามารถขนาดนี้เลยหรือ?
เมื่อเห็นทั้งสองไม่พูดอะไร จิงซิวหรงส่ายศีรษะก่อนจะพูดอย่างสุภาพว่า “ป้าเล็กครับ พวกเรามีเรื่องต้องทำในวันนี้ ดังนั้นคุณกลับไปก่อนจะดีกว่าครับ”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฉินเยว่จือฟื้นคืนสติกลับมา เธอหันมองคุณนายจิงด้วยใบหน้าบูดบึ้งแล้วพูดว่า “พี่คิดไล่ฉันจริง ๆ หรือคะ? นี่น่ะหรือสิ่งที่พี่น้องเขาทำกัน? จะทำกับฉันอย่างนี้จริง ๆ หรือ?”
“ไค่หรง ซิวหรง มัวทำอะไรอยู่ รีบส่งป้าเล็กของพวกลูกออกไปเร็วเข้า”
“ครับ”
จิงไค่หรงและจิงซิวหรงค่อนข้างมีอายุ แต่ก็ไม่เคยเห็นแม่ของตนโกรธมากเช่นนี้มาก่อน เมื่อพวกเขาถูกเรียกชื่ออีกครั้ง ทั้งสองไม่รอช้า เร่งเร้าให้เฉินเยว่จือและสื่อจวินอี๋ออกไปทันที ขณะที่จิงเหวินหยวนและจิงเหวินรุ่ยเดินตามหลังให้คนเหล่านั้นออกไป
เวลานี้เฉินเยว่จือและสื่อจวินอี๋ถูกรายล้อม พวกเธอถูกบีบให้เดินออกไป
ซึ่งเฉินเยว่จือไม่เคยต้องโดนขับไล่ไสส่งเช่นนี้มาก่อน ทว่าเธอก็รู้ว่าคุณนายจิงพูดคำไหนคำนั้น แต่เพื่อรักษาใบหน้าของตัวเองจึงต้องยอมจากไป ก่อนจะจากไปเธอหันมองเฮ่อหลานด้วยแววตามุ่งร้าย ผู้หญิงคนนี้เป็นตัวการทำให้เธอกับพี่แตกหักกันทั้งที่เพิ่งก้าวเข้ามาในบ้านแท้ ๆ ในอนาคตหล่อนจะกลายเป็นตัวปัญหาแน่
ซึ่งเฮ่อหลานมองกลับด้วยเช่นกัน เวลานี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอเหมือนที่เคยเป็นแล้ว เธอต้องปกป้องตัวเองบ้างเพื่อไม่ให้ใครมารังแกง่าย ๆ
เมื่อเฉินเยว่จือเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งโกรธจัด ทว่าหลานชายทั้งสองก็ไล่เธอจนมาถึงประตู และในที่สุดประตูก็ปิดลงเพื่อคั่นกลางระหว่างพวกเขาโดยสมบูรณ์
“ฮึ่ม… อย่ากลับมาง้อฉันแล้วกัน”
เฉินเยว่จือมองประตูที่ปิดสนิทตรงหน้า ตะโกนด้วยความขุ่นเคือง
ส่วนสื่อจวินอี๋ที่ถูกครอบครัวข่มเหงตั้งแต่เด็ก ก็ไม่เคยต้องโกรธขนาดนี้มาก่อน เวลานี้เธอมองเฉินเยว่จือแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้ ไปเถอะค่ะ ฉันจะไม่มาที่บ้านตระกูลจิงอีกเด็ดขาด”
“ใช่ ไปกันเถอะ”
ทั้งพี่สะใภ้และน้องสามีต่างเข้าขากันได้ดี เพราะนิสัยของพวกเธอคล้ายกันถึงอยู่ร่วมกันได้
อีกด้านหนึ่ง คุณนายจิงกล่าวขอโทษอีกครั้ง “อาหลาน ฉันขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ต้องให้เธอได้พบกับน้องสาวโง่เง่าของฉัน ในอนาคตฉันจะไม่ให้หล่อนเข้าใกล้เธอได้เป็นอันขาดเลยจ้ะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฮ่อหลานตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “คุณป้าคะ ไม่เป็นไรเลยค่ะ คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย ไม่อย่างนั้นฉันคงลำบากใจมากเพราะคุณป้าไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“จ้ะ ๆ เอาเถอะ เราอย่าพูดเรื่องนี้กันอีกเลย นี่ก็สายมากแล้วไปที่ห้องอาหารกันดีกว่าจ้ะ มื้อเที่ยงพร้อมแล้ว”
หลังทุกคนมาถึงห้องอาหาร คุณชายจิงเชิญชวนให้เฮ่อหลาน ถังซวง และถังเซวี่ยนั่งลง
“อาหลาน อาหารพวกนี้พ่อครัวของเราตั้งใจปรุงอย่างสุดความสามารถ หวังว่าเธอจะชอบนะ”
“ขอบคุณค่ะคุณลุง”
เฮ่อหลานรีบตอบกลับทันที
ระหว่างรับประทานอาหาร จิงเจ้อหรงกังวลว่าเฮ่อหลานและลูก ๆ ของเธอจะประหม่า เขาจึงใช้ตะเกียบคู่ใหม่คีบอาหารให้อย่างระมัดระวัง
คุณนายจิงที่อยู่ด้านข้างเห็นจิงเจ้อหรง ก็รู้ได้ทันทีว่าลูกชายคนเล็กของตนตกหลุมรักอีกฝ่ายเข้าเต็มเปา เธอไม่เคยเห็นเขาทำอย่างนี้ให้ใครมาก่อน ดูเหมือนว่าเฮ่อหลานคนนี้จะครอบครองหัวใจของเเจ้าลูกชายโดยสมบูรณ์
เมื่อเห็นอย่างนั้น คุณนายจิงก็ชอบเฮ่อหลานและหลาน ๆ มากขึ้นไปอีก เธอตักผักให้กับถังซวงและถังเซวี่ย
“ขอบคุณคุณย่าจิงมากค่ะ ฉันคงต้องกินเยอะ ๆ แล้วเพราะฉันไม่เคยกินอาหารในเมืองหลวงเลย วันนี้โชคดีจังค่ะ” ถังเซวี่ยมองอาหารจานใหญ่บนโต๊ะ เธอไม่คิดเขินอายเเล้ว
เมื่อเห็นว่าถังเซวี่ยคิดอย่างนั้น คุณนายจิงยิ่งมีความสุข “จ้ะ เอาเถอะ เสี่ยวเซวี่ย กินให้เยอะ ๆ นะจ๊ะ”
อวี๋มินและเมิ่งผิงที่เห็นท่าทีของจิงเจ้อหรง พวกหล่อนจึงหันมองสามีของตนเองบ้าง แล้วอดไม่ได้ที่จะนึกเปรียบเทียบในใจ แม้แต่ตอนที่พวกเขาแต่งงานกันใหม่ ๆ สามีของพวกหล่อนก็ไม่เคยทำแบบนี้เลย
เมื่อนึกได้อย่างนั้น ทั้งคู่ลอบส่ายศีรษะด้วยความหงุดหงิด
ส่วนจิงไค่หรงและจิงซิวหรงไม่ทันได้สังเกตเห็นท่าทีของภรรยา พวกเขายังคงมีความสุขกับน้องชายคนเล็กของตนเองอยู่
ขณะที่ใกล้จะรับประทานอาหารเสร็จแล้ว คุณนายจิงหันมองเฮ่อหลานแล้วถามว่า “อาหลาน เธอกับอาเจ้อวางแผนแต่งงานกันหรือยังจ๊ะ?”