การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 255 มาเยี่ยม
บทที่ 255 มาเยี่ยม
บทที่ 255 มาเยี่ยม
เพราะหลินเหม่ยเจินต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเฮ่อหลาน เธอจึงต้องไปเชิญอีกฝ่ายด้วยตนเอง ทว่าเมื่อเธอมาถึงกู่โหลว เธอกลับหลงทาง
“แปลกจัง ตอนนั้นหมิงซู่บอกว่าบ้านของซวงเอ๋อร์อยู่แถว ๆ นี้ไม่ใช่หรือ”
ขณะที่หลินเหม่ยเจินกำลังเดินไปเดินมา ถังซวงที่ออกมาซื้อของพลันเห็นเธอเข้า
“ป้าหลินคะ มาได้ยังไงคะเนี่ย?”
เมื่อเห็นถังซวง แววตาของหลินเหม่ยเจินพลันเปล่งประกาย เธอยิ้มกว้างแล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ดีใจจังที่ได้พบเธอ ฉันกำลังจะไปหาเธอน่ะ แต่ลืมว่าบ้านของเธออยู่ตรงไหน เดินกลับไปกลับมาหลายรอบก็ยังหาไม่เจอ”
“ป้าหลินคะ บ้านของฉันอยู่ตรงนั้นค่ะ”
ถังซวงชี้ไปทางด้านหลังก่อนจะเดินนำทาง “ป้าหลินคะ เดี๋ยวฉันพาไปค่ะ” แม้เธอจะแปลกใจเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรนัก
เมื่อมาถึงบ้านของถังซวงแล้ว หลินเหม่ยเจินมองเห็นหญิงสาวสองคนที่รูปลักษณ์สง่างามอยู่ในสวน คนหนึ่งอายุน้อยราว ๆ สิบห้าหรือสิบหกปี ซึ่งน่าจะเป็นถังเซวี่ยน้องสาวของถังซวง ส่วนอีกคนมีอายุมากกว่าเล็กน้อย ราว ๆ สักยี่สิบปี เธอเลยสับสนว่าอีกฝ่ายคือใคร เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าถังซวงมีพี่สาวอีกคน
เมื่อเห็นลูกสาวคนโตกลับมาแล้ว เฮ่อหลานตกใจเล็กน้อย “ซวงเอ๋อร์ ทำไมกลับมาเร็วจังล่ะ? ซื้อของเสร็จแล้วหรือจ้ะ เอ่อ… แล้วคนนี้คือ?”
ถังซวงแนะนำด้วยรอยยิ้ม “แม่คะ นี่คือแม่ของพี่โม่ค่ะ ป้าหลิน”
จากนั้นเธอแนะนำหลินเหม่ยเจิน “อ้อ ป้าหลินคะ นี่แม่ของฉันค่ะ เฮ่อหลาน”
เมื่อเฮ่อหลานได้ยินว่าคนตรงหน้าคือแม่ของโม่เจ๋อหยวน เธอยิ้มกว้างพลางยื่นมือออกมาทักทาย “สวัสดีค่ะคุณนายโม่ ฉันเฮ่อหลานเป็นแม่ของถังซวงค่ะ”
“นี่คุณ…”
หลินเหม่ยเจินมองเฮ่อหลานที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง นี่คือแม่ของถังซวงจริง ๆ หรือ? เธอยังดูเด็กและสวยอยู่เลย ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าคนตรงหน้าเป็นพี่สาวของถังซวงด้วยซ้ำ
ไม่นานนักเธอได้สติกลับคืนมา รีบเอื้อมมือไปจับมือของเฮ่อหลานแล้วพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณเฮ่อ ฉันหลินเหม่ยเจิน เป็นแม่ของโม่เจ๋อหยวนค่ะ”
จากนั้นถังซวงแนะนำถังเซวี่ย
หลินเหม่ยเจินตกหลุมรักถังเซวี่ยทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของสาวน้อย “เธอคือน้องสาวของซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ยใช่ไหมจ๊ะ น่ารักจริง ๆ” เวลานี้เธอรู้แล้วว่าสามแม่ลูกสวยเหมือนกัน และเป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ
“สวัสดีค่ะป้าหลิน”
เมื่อถังเซวี่ยได้ยินถังซวงเรียกว่าป้าหลิน เธอจึงเรียกตาม ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกว่าป้าตรงหน้านี้ดูใจดีมาก
หลังทักทายกันแล้ว เฮ่อหลานพาหลินเหม่ยเจินเข้าไปในบ้าน
“คุณนายโม่คะ พวกเราเพิ่งมาถึงเมืองหลวงเมื่อสองวันก่อน เลยไม่มีเวลาไปซื้อชาดี ๆ เรามีแค่น้ำเปล่าเท่านั้น โปรดยกโทษให้พวกเราด้วยนะคะ”
หลินเหม่ยเจินโบกมืออย่างรวดเร็ว “น้ำเปล่าก็พอแล้วค่ะ ฉันแค่คอแห้งนิดหน่อยเอง” หลังกล่าวจบ เธอยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว ใช่ เธอรู้สึกกระหายน้ำมากจริง ๆ
เมื่อเห็นอย่างนั้น เฮ่อหลานรีบรินน้ำเติมให้อย่างรวดเร็ว
หลินเหม่ยเจินดื่มน้ำอีกแก้ว ก่อนจะรีบอธิบายเหตุผลที่มาเยี่ยมในวันนี้
“คุณเฮ่อคะ ขอบคุณมากที่คุณคอยดูแลเจ๋อหยวนเสมอมา วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อเชิญพวกคุณทั้งสามไปที่บ้านของเราน่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฮ่อหลานพยักหน้ารับแล้วพูดว่า “ค่ะ ฉันก็คิดอยากจะไปเยี่ยมผู้เฒ่าโม่เหมือนกัน”
เมื่อได้ยินว่าเฮ่อหลานตอบตกลง หลินเหม่ยเจินพลันรีบพูดขึ้นทันที “ยินดีมากเลยค่ะ”
หลังจากนั้นทั้งสองพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง หลินเหม่ยเจินจึงกลับออกไป แต่ทันทีที่เฮ่อหลานไปส่งเธอที่หน้าประตู จิงเจ้อหรงก็เข้ามา
จิงเจ้อหรงประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นหลินเหม่ยเจินที่นี่ ทว่าสุดท้ายเขาก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับคุณนายโม่”
“สวัสดีค่ะ”
เมื่อหลินเหม่ยเจินเห็นจิงเจ้อหรง เธออดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเฮ่อหลาน และหันกลับไปมองแววตาหวานซึ้งของจิงเจ้อหรงที่มองมายังหญิงสาวด้านข้าง เธอยกยิ้มอย่างรู้ทันก่อนจะพูดว่า “คุณเฮ่อคะ อย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
หลังหลินเหม่ยเจินจากไปแล้ว จิงเจ้อหรงอดไม่ได้ที่จะถาม “คุณนายโม่มาที่นี่ทำไมหรือครับ?”
“เธอมาชวนพวกเราสามคนไปที่บ้านตระกูลโม่น่ะค่ะ”
“แล้วคุณจะไปไหมครับ?”
เฮ่อหลานพยักหน้าก่อนจะตอบว่า “ค่ะ เราจะไปเยี่ยมผู้เฒ่าโม่วันพรุ่งนี้”
หลังได้ยินอย่างนั้น จิงเจ้อหรงพูดออกมาด้วยความเสียดาย “ผมตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะพาคุณไปเดินเล่นแท้ ๆ”
เฮ่อหลานยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นพรุ่งนี้เราไปเดินซื้อของกันก็ได้ค่ะ”
“ครับ เอาอย่างนั้นก็ได้ พรุ่งนี้เราไปเดินซื้อของกัน”
“ค่ะ”
ถังซวงและถังเซวี่ยรู้สึกว่าทั้งสองเริ่มสร้างบรรยากาศหวานเลี่ยนอีกครั้ง จึงปลีกตัวออกไปอย่างเงียบ ๆ เดิมทีถังซวงกำลังจะไปซื้อของแต่ถูกหลินเหม่ยเจินขัดจังหวะเสียก่อน เวลานี้เธอจึงพาถังเซวี่ยออกไปอย่างรวดเร็ว
จิงเจ้อหรงเองก็รู้ดีว่าถังซวงและถังเซวี่ยอยากให้พวกเขาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง และแน่นอนว่าเขามีบางอย่างจะพูดกับเฮ่อหลานเหมือนกัน
“อาหลาน วันแต่งงานของเราถูกกำหนดแล้วครับ คุณแม่กำลังจ้างให้นักออกแบบ ทำการ์ดเชิญแล้วจัดการทุกอย่างอยู่ น่าจะส่งไปให้แขกในอีกสองสามวัน วันนี้ผมเอามันติดตัวมาด้วย คุณลองดูก่อนว่าชอบไหม”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เฮ่อหลานมองจิงเจ้อหรงด้วยความสงสัยก่อนจะพูดว่า “เสร็จเร็วขนาดนั้นเลยหรือคะ? อย่างนั้นฉันขอดูหน่อยค่ะ”
จิงเจ้อหรงหยิบการ์ดเชิญออกมาพลางพูดต่อว่า “เพราะมันเรียบมาก ผมเลยทำออกมาแค่สองสามใบก่อน ถ้าคุณไม่ชอบ เราแก้ไขมันได้นะ”
หลังเห็นการ์ดเชิญที่เรียบง่ายและดูสง่างามตรงหน้า เฮ่อหลานพยักหน้าอย่างรวดเร็วแล้วตอบว่า “มันสวยมากแล้วค่ะ”
พอเห็นว่าเฮ่อหลานชอบ จิงเจ้อหรงก็โล่งใจ เขามอบการ์ดทั้งสองใบไว้ให้เฮ่อหลาน “อย่างนั้นคุณเก็บสองใบนี้ไว้เลยนะครับ แล้วผมจะส่งให้อีกหลังจากทำเสร็จแล้ว”
“ค่ะ”
เฮ่อหลานรู้สึกว่าการ์ดเชิญนั้นสะดวกมาก และเมื่อเธอกลับไปมณฑลเจียง เธอจะแจกมันให้กับญาติและเพื่อนบางคนได้
ในทางกลับกัน หลังจากที่หลินเหม่ยเจินกลับมาถึงบ้าน เธอบอกกล่าวกับผู้เฒ่าโม่ว่าสามแม่ลูกจะมาเยี่ยมในวันพรุ่งนี้
เมื่อผู้เฒ่าโม่ได้ยินอย่างนั้น เขาพยักหน้าอย่างยินดีแล้วตอบว่า “อืม อย่างนั้นก็เตรียมตัวให้ดี พรุ่งนี้เธอต้องดูแลทั้งสามให้เต็มที่เลยนะ”
“ค่ะ คุณพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะเตรียมทุกอย่างให้ดีค่ะ”
เมื่อเจิ้งหงรู้ว่าสามแม่ลูกกำลังจะมาเยี่ยม เธออดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “แล้วทำไมจู่ ๆ พวกเขาจึงจะมาเยี่ยมพวกเราได้ล่ะ? ทั้งสามแค่มาเที่ยวที่เมืองหลวงไม่ใช่หรือ?”
หลังฟังคำของสะใภ้เล็กแล้ว ผู้เฒ่าโม่ชำเลืองมองก่อนจะตอบกลับ “เป็นเพราะฉันไปเชิญพวกเขามาที่บ้านของเราเป็นการส่วนตัวยังไงล่ะ ซวงเอ๋อร์และคนอื่น ๆ มาที่เมืองหลวงได้เสมอหากต้องการ แล้วทำไมเธอจึงมีคำถามมากมายซะเหลือเกิน?”
เจิ้งหงถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินอย่างนั้น อย่างไรแล้วเธอก็อยากรู้ว่าแม่ของถังซวงจะเป็นยังไง เธอได้ยินมาว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงม่ายจากชนบท หลังจากหย่าร้างก็พาลูกสาวทั้งสองออกมาอยู่ด้วย “คุณพ่อคะ พี่สะใภ้ เดี๋ยวฉันจะช่วยเตรียมตัวในวันพรุ่งนี้ด้วยค่ะ มันจะต้องออกมาดีมากแน่”
เมื่อได้ยินเจิ้งหงพูดอย่างนั้น ผู้เฒ่าโม่กล่าวตอบ “อืม ไปช่วยกันเถอะ”
วันรุ่งขึ้น เฮ่อหลานพาถังซวงและถังเซวี่ยไปที่บ้านตระกูลโม่หลังจากที่เลือกซื้อของฝากเสร็จแล้ว
เมื่อเห็นทั้งสามมาถึง หลินเหม่ยเจินรีบกล่าวทักทายอย่างอบอุ่น
“คุณเฮ่อ ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย มาแล้วหรือคะ เข้ามาด้านในก่อนค่ะ”