การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 277 เข้าเมืองหลวงด้วยกัน
บทที่ 277 เข้าเมืองหลวงด้วยกัน
บทที่ 277 เข้าเมืองหลวงด้วยกัน
เมื่อได้ยินหลี่จงอี้พูดอย่างนั้นแล้ว จิงเจ้อหรงก็ยกยิ้มแล้วตอบกลับ “ลุงหลี่ครับ เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า ทุกคนเก็บข้าวของเตรียมตัวไปเมืองหลวงกันได้เลย”
“ดี ๆ เราจะได้นั่งพูดคุยกัน แต่ว่าตอนนี้น่าจะซื้อตั๋วไม่ทันแล้วนะ ให้พวกเราซื้อตั๋วพิเศษดีไหม?”
จิงเจ้อหรงยิ้มกว้างก่อนจะตอบว่า “ลุงหลี่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว”
หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลี่จงอี้ยิ้ม “อาเจ้อนี่รอบคอบเหมือนเคย เอาเถอะ เราจะออกเดินทางทันทีเมื่อถึงเวลาละกัน”
หลังจากเลือกวันเดินทางแล้ว เฮ่อหลานบอกกล่าวให้ซูเหนียนอวิ๋นและเกอชิงเหม่ยทราบเรื่องเช่นกัน
“อาจารย์ พี่คะ ทั้งสองคนไปพักที่เมืองหลวงกันสักระยะนะคะ เดี๋ยวซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยจะพาเดินเที่ยวในเมืองค่ะ”
ทว่าซูเหนียนอวิ๋นก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
“อืม ฉันยังไม่เคยไปเมืองหลวงเลย ไปเที่ยวสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน”
แม้เกอชิงเหม่ยกำลังยุ่งมาก แต่เธอก็อยากจะไปพักผ่อนเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายอย่างที่โรงงานเย็บปักต้องจัดการ แต่พอได้ยินอาจารย์ซูพูดออกมาอย่างนั้น เธอจึงพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง จิงเจ้อหรงเรียกรถให้มารับทุกคนออกจากหมู่บ้านมุ่งหน้าสู่สถานีรถไฟประจำเมือง “ลุงหลี่ อาจารย์ ทางนี้ครับ”
จิงเจ้อหรงเดินนำทางทุกคน และดูแลพวกเขาไม่ห่าง
พอเห็นจิงเจ้อหรงปฏิบัติตัวดีขนาดนี้ ซูเหนียนอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เกอชิงเหม่ยเองก็เช่นกัน
“ห้องนี้นะครับ สองห้องนี้ติดกัน ทั้งหมดแปดคน” จิงเจ้อหรงแกะหมอนสองใบให้กับหลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋น ทั้งสองนอนบนที่นอนชั้นล่าง พวกเขาจะได้ไปไหนมาไหนสะดวก
“งั้นฉันนอนตรงนี้แล้วกัน”
หลี่จงอี้เลือกที่นอนด้านล่าง ส่วนซูเหนียนอวิ๋นเลือกที่นอนอีกฝั่งหนึ่ง
เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว เกอชิงเหม่ยพูดขึ้นว่า “อย่างนั้นฉันจะนอนด้านบนของอาจารย์นะคะ”
ส่วนโม่เจ๋อหยวนต้องดูแลหลี่จงอี้ตลอดเส้นทาง เขาจึงนอนด้านบนของหลี่จงอี้
พอเห็นอย่างนั้นแล้ว หลี่จงอี้มองจิงเจ้อหรงด้วยรอยยิ้มก่อนจะพูดว่า “พอแล้วล่ะอาเจ้อ คุณกลับไปหาครอบครัวได้แล้ว”
“ครับลุงหลี่ เดี๋ยวผมไปเก็บข้าวของก่อนนะครับ”
เมื่อได้ยินคำว่าครอบครัว จิงเจ้อหรงอดกลั้นที่จะยิ้มไม่ได้
ส่วนเฮ่อหลานรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เธอมองจิงเจ้อหรงที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้ม เรากำลังจะแต่งงานกันในเร็ว ๆ นี้และจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันโดยสมบูรณ์แล้ว
หลังถังซวงและคนอื่น ๆ เก็บข้าวของเสร็จแล้ว จิงเจ้อหรงก็มองโม่เจ๋อหยวนแล้วพูดว่า “เจ๋อหยวน เดี๋ยวไปที่ตู้เสบียงกับฉันหน่อย ให้ลุงหลี่กับคนอื่น ๆ พักผ่อนก่อน”
พวกเขาออกเดินทางตั้งแต่เช้า ทว่าจากหมู่บ้านเถาฮวามาถึงสถานีรถไฟก็ใช้เวลากว่าวันครึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็เที่ยงกว่าแล้ว
“ครับ ลุงจิง”
ถังซวงกลัวว่าทั้งสองจะถือของไม่ไหว เธอจึงพาเสี่ยวเซวี่ยไปที่ตู้เสบียงด้วย
วันนี้บนตู้เสบียงไม่มีอะไรให้ซื้อนัก พวกเขาได้ข้าวกลับมาคนละกล่อง
พวกเขาพูดคุยกันสักพักหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน
ในช่วงบ่ายของวันถัดมา ทุกคนมาถึงเมืองหลวงแล้ว
“อาเจ้อ ทางนี้”
ทั้งจิงไค่หรงและจิงซิวหรงต่างมารอรับน้องชายหัวแก้วหัวแหวน เพราะพวกเขารู้ว่าเฮ่อหลานและลูก ๆ จะมาด้วย จึงมารออยู่ด้านนอกสถานีรถไฟก่อนเวลาเล็กน้อย
เมื่อจิงเจ้อหรงเห็นพี่ใหญ่กับพี่รองมารอรับ เขาแย้มยิ้มแล้วตอบว่า “พี่ใหญ่ พี่รอง เดี๋ยวเราไปส่งลุงหลี่กับอาจารย์ซูที่กู่โหลวก่อนนะครับ” ขณะพูดอย่างนั้น เขาได้แนะนำหลี่จงอี้ ซูเหนียนอวิ๋น และเกอชิงเหม่ยตามลำดับ
พอเห็นอย่างนั้นจิงไค่หรงและจิงซิวหรงรีบทักทายครอบครัวของเฮ่อหลานทันที “สวัสดีครับลุงหลี่ สวัสดีครับอาจารย์ซู สวัสดีครับสหายเกอ”
“สวัสดี ๆ”
หลี่จงอี้ และซูเหนียนอวิ๋นพร้อมด้วยเกอชิงเหม่ยทักทายสองพี่น้องด้วยรอยยิ้ม
หลังจากนั้นจิงไค่หรงและจิงซิวหรงรีบเข้าไปช่วยถือกระเป๋า “ลุงหลี่ อาจารย์ซู ไปกันเถอะครับ”
เวลานี้เฮ่อหลานและลูกสาวทั้งสองเห็นพวกเขา ทั้งสามก็ยิ้มกว้างก่อนจะทักทาย
จิงซิวหรงเองก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นถังซวง เขาตอบกลับทันทีว่า “ซวงเอ๋อร์ เธอมาเมืองหลวงสักที เธอคงไม่รู้ว่าเจียงหงเหลียงถามหาเธอตั้งกี่ครั้ง เดี๋ยวฉันจะบอกให้เขาไปหาเธอนะ”
หลังจากได้รับสูตรยาทั้งสองนั้น เขาก็รู้สึกดีใจมากที่เด็กหญิงตรงหน้ากำลังจะกลายเป็นหลานสาวของตน
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ถังซวงยิ้มพลางตอบว่า “อย่างนั้นให้รองเจียงมาหาฉันได้เลยนะคะ”
ทั้งกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนานขณะเดินขึ้นรถมุ่งหน้าสู่กู่โหลว
“อาจารย์คะ ลุงหลี่ ถึงแล้วค่ะ”
เมื่อเห็นลานด้านหน้าแล้ว หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า “เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมมาก สวยจริง ๆ”
ทั้งสองกล่าวด้วยน้ำเสียงภูมิใจ “ซวงเอ๋อร์ของเราเก่งมาก ทำให้พวกเราพลอยสะดวกสบายไปด้วย”
ถังเซวี่ยพยักหน้าก่อนจะกล่าวเสริม “ใช่ค่ะ พี่เก่งมากเลย”
ถังซวงรู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำชมเหล่านั้น “คุณปู่ คุณย่าซู เข้าไปด้านในกันดีกว่าค่ะ”
แม้พวกเขาจะเดินทางด้วยรถไฟตู้นอน แต่หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นต่างก็อายุมากแล้ว จึงรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย ถังซวง โม่เจ๋อหยวน และคนอื่น ๆ จึงเร่งรีบจัดสัมภาระทั้งหมด ก่อนจะเตรียมที่พักผ่อนให้กับทั้งสอง
“พี่โม่ ฝากขอบคุณป้าหลินด้วยนะคะ”
ก่อนหน้านี้ถังซวงต้องการให้คนเข้ามาช่วยทำความสะอาดบ้านนี้ให้เรียบร้อย เพราะถ้าพวกเธอมาถึงจะได้สามารถเข้าพักได้ทันที
แต่พอโม่เจ๋อหยวนรู้เรื่องนี้ เขาก็บอกกับหลินเหม่ยเจินทันที และเธอได้จัดแจงให้คนเข้ามาทำความสะอาดลานบ้านทั้งหมดจนเป็นระเบียบเรียบร้อยเช่นนี้
โม่เจ๋อหยวนส่ายศีรษะพลางยิ้มกว้าง “ซวงเอ๋อร์ แม่ไม่ว่าอะไรหรอก เธอไม่ต้องขอบคุณอะไร ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณพวกเธอที่ดูแลฉันอย่างดี”
“ฉันไม่ได้ดูแลอะไรพี่สักหน่อย”
ทั้งสองรีบจัดการทุกอย่างโดยเร็ว ไม่นานนักห้องก็ถูกจัดวางเสร็จสิ้น หลี่จงอี้กับซูเหนียนอวิ๋นจะได้พักผ่อนเสียที
ส่วนจิงเจ้อหรง หลังจากเขาช่วยเฮ่อหลานเก็บข้าวของเสร็จแล้ว เขาก็หันกลับมาเชิญทุกคนไปรับประทานมื้อเย็นที่บ้านตระกูลจิงด้วยกัน
ทว่าเฮ่อหลานกลับส่ายศีรษะ “อาเจ้อ วันนี้พวกเราจะไม่ไปหรอกค่ะ เราจะไปพรุ่งนี้”
เกอชิงเหม่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างยิ้มพลางกล่าวเสริมว่า “แบบนั้นดีกว่านะอาเจ้อ คุณกับพี่ชายใหญ่และพี่ชายรอง ควรกลับไปก่อน ฉันไปดูในครัวมาแล้ว มีวัตถุดิบเต็มไปหมด วันนี้พวกเราทำอาหารเย็นเองดีกว่า ส่วนคุณก็รีบกลับไปพักผ่อนเร็วเข้า”
จิงเจ้อหรงพอจะเข้าใจว่านี่เย็นมากแล้ว ทุกคนจึงเหนื่อยและอยากพักผ่อน ชายหนุ่มเลยไม่ดื้อดึง
“ครับ อย่างนั้นพวกผมจะกลับก่อน” หลังจากพูดคุยกับเฮ่อหลานอีกนิดหน่อย เขาก็เดินตามจิงไค่หรงและจิงซิวหรงออกไป
ส่วนโม่เจ๋อหยวนก็คอยช่วยเหลือถังซวงอยู่ไม่ห่าง
แต่เมื่อเห็นว่าเริ่มมืดแล้ว ถังซวงเลยบอกให้โม่เจ๋อหยวนกลับบ้าน
“พี่โม่ กลับบ้านไปก่อนเถอะค่ะ ไม่อย่างนั้นคุณปู่กับคนอื่น ๆ จะเป็นห่วงเอานะ”
“ไม่เป็นไรซวงเอ๋อร์ พวกเขารู้ว่าฉันจะอยู่กินข้าวเย็นกับเธอก่อน ไม่ต้องห่วง”
หลังรับประทานมื้อเย็นเสร็จ โม่เจ๋อหยวนจึงกลับไป
ทำให้เฮ่อหลานและคนอื่น ๆ ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน