การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 286 กลับบ้าน
บทที่ 286 กลับบ้าน
บทที่ 286 กลับบ้าน
เมื่อได้ยินถ้อยคำของเฮ่อจื่อกุยแล้ว ถังซวงรีบถามว่า “คุณลุงจะกลับแล้วหรือคะ?”
พานลี่ฮวากล่าวขึ้นจากด้านข้าง “ซวงเอ๋อร์ ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้หรอกจ้ะ อีกสองวันกว่าแม่ของเธอจะกลับมา เวลานั้นก็จะถึงตรุษจีนแล้ว อีกอย่างเมืองหลวงก็ไกลจากก่างเฉิงไม่น้อย เราเลยต้องรีบกลับให้ทันวันจ่ายน่ะจ้ะ”
“จริงด้วยค่ะ ใกล้จะถึงตรุษจีนแล้ว”
ถังซวงทราบดีว่าครอบครัวของเฮ่อจื่อกุยจะต้องกลับให้ทันช่วงตรุษจีนด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อได้ “ค่ะ อย่างนั้นฉันจะไปส่งที่สถานีรถไฟนะคะ”
“จ้ะ”
พานลี่ฮวาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เวลานี้ซ่างสยงเยี่ยที่กำลังกินอย่างเงียบ ๆ เงยหน้าขึ้นเพื่อพูดถึงวันกลับของเขาด้วยเช่นกัน “ผมเองก็ต้องกลับก่อน เพราะมีธุระต้องไปจัดการพรุ่งนี้เช้าน่ะ”
เฮ่อจื่อกุยมองซ่างสยงเยี่ยด้วยความประหลาดใจก่อนจะถามว่า “คุณชายซ่างไม่กลับพร้อมพวกเราหรือครับ?”
ซ่างสยงเยี่ยส่ายศีรษะพร้อมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ ผมอยู่ต่อไม่ได้แล้วครับ มีหลายอย่างที่ผมต้องไปทำ หมิงซู่เองก็ยังเด็กเกินกว่าจะจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฮ่อจื่อกุยจึงไม่คัดค้านอะไร
ถังซวงกล่าวตอบ “คุณชายซ่างคะ อย่างนั้นฉันจะไปส่งนะคะ”
“ครับ รบกวนด้วยนะ”
หลังจากมื้อเย็น ซ่างสยงเยี่ยเดินไปหาเกอชิงเหม่ย
“คุณชายซ่าง คุณมีเรื่องงานเย็บปักบอกกล่าวกับฉันหรือเปล่าคะ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ซ่างสยงเยี่ยยิ้มกว้างก่อนจะพูดว่า “ครับ หลังจากส่งไปที่เมืองก่างเฉิงแล้ว ยอดขายของมันดีมาก ๆ ผมเลยหวังว่าจะมีการเร่งผลิตเพิ่มขึ้นในปีหน้า”
“คุณชายซ่างไม่ต้องห่วงนะคะ หลังจากฉันกลับไป ฉันจะเปิดรับสมัครช่างเย็บปักเพิ่ม แล้วจะทำงานล่วงเวลาเพื่อผลิตเพิ่มด้วยค่ะ”
ซ่างสยงเยี่ยโบกมือทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น “คุณเกอควรจะพักผ่อนให้มากนะครับ คุณไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเลย ของคุณภาพดีก็ต้องใช้เวลาอยู่แล้วครับ” ซ่างสยงเยี่ยมองเกอชิงเหม่ยพร้อมกับชี้ไปที่บนร่างกายของเธอ “คุณเกอปักมันเองหรือครับ?”
ได้ยินอย่างนั้น เกอชิงเหม่ยมองตามพร้อมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ใช่ค่ะ ฉันปักเอง ฉันชอบพกซองเล็ก ๆ ติดตัวในฤดูร้อน แล้วในฤดูหนาวก็สามารถนำสมุนไพรมาใส่เพื่อไล่ยุงก็ได้นะคะ หรือจะใส่ดอกไม้แห้งไว้ก็ได้ หอมดีค่ะ”
ซ่างสยงเยี่ยพยักหน้ารับพร้อมตอบว่า “ครับ ผมว่ากลิ่นของมันหอมกว่าน้ำหอมบางตัวเสียอีก ผมขอเอาซองนี้กลับไปด้วยได้ไหมครับ ผมคิดว่ามันน่าจะขายได้”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เกอชิงเหมยถอดซองบนร่างกายออกแล้วตอบกลับว่า “คุณชายซ่างคะ ฉันไม่ได้ปักซองใหม่ไว้เลยค่ะ ฉันมีแค่ซองนี้เท่านั้น จะมีใครซื้อไหมคะ?”
“ต้องมีคนซื้อแน่นอนครับ”
ซ่างสยงเยี่ยมองดอกหลิงหลันบนซองก่อนจะสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว ทว่าเขากลับเขินอายเล็กน้อยเมื่อคิดว่าก่อนหน้านี้เป็นเกอชิงเหม่ยที่สวมมันไว้ตลอดเวลา
ส่วนเกอชิงเหม่ยไม่คิดอะไรมาก เธอแค่คิดว่ามันสามารถทำเงินได้เท่านั้น เพราะยังไง การเย็บซองเหล่านี้ก็ง่ายดายยิ่งกว่าทำงานชิ้นใหญ่ “คุณชายซ่างลองนำมันกลับไปที่เมืองก่างเฉิงเพื่อทดลองตลาดก่อนก็ได้ค่ะ ถ้ามันสามารถขายได้ ฉันจะให้โรงงานเร่งผลิตทันที”
ซ่างสยงเยี่ยพยักหน้าทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ครับ งั้นผมขอเอาซองนี้กลับไปก่อนนะ”
หลังจากทั้งสองพูดคุยกันอีกเล็กน้อย และแยกย้ายกันไปพักผ่อน
วันรุ่งขึ้น ถังซวงและเกอชิงเหม่ยมาส่งซ่างสยงเยี่ยที่สถานีรถไฟ “คุณเกอ คุณถัง ผมกลับก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่”
“เดินทางปลอดภัยนะคะคุณชายซ่าง”
“เดินทางปลอดภัยค่ะ”
ซ่างสยงเยี่ยโบกมือให้เกอชิงเหม่ย และถังซวง ก่อนจะมอง เกอชิงเหม่ยแล้วพูดขึ้นว่า “คุณเกอ ถ้ามีโอกาสผมหวังว่าคุณจะไปเที่ยวที่เมืองก่างเฉิงบ้างนะครับ”
ความจริงแล้วเกอชิงเหม่ยก็อยากจะไปเมืองก่างเฉิงเช่นกัน เธอจึงพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ ถ้ามีโอกาสฉันจะไปเที่ยว เมืองก่างเฉิงนะคะ”
“ครับ แล้วผมจะพาคุณเที่ยวรอบเมืองเอง”
ซ่างสยงเยี่ยตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะโบกมือให้กับทั้งสองแล้วเดินขึ้นรถไฟ
หลังจากรถไฟของซ่างสยงเยี่ยออกไปแล้ว ถังซวงและเกอชิงเหม่ยเดินกลับออกมา “ซวงเอ๋อร์ ไม่รู้เลยว่าแม่ของเธอจะเป็นยังไงบ้าง แล้วเธอกับเสี่ยวเซวี่ยจะไปอยู่ที่บ้านตระกูลจิงด้วยไหมจ้ะ?”
“ค่ะ ฉันกับเสี่ยวเซวียจะไปอยู่กับแม่ที่บ้านตระกูลจิง”
เกอชิงเหม่ยพยักหน้าเมื่อได้ยินอย่างนั้น เธอพูดต่อว่า “จ้ะ ดีแล้ว ไม่อย่างนั้นอาหลานคงต้องอยู่คนเดียว มันคงดีกว่าถ้าเธอสองคนอยู่กับอาหลานด้วย”
ทั้งสองเดินพูดคุยกันมาตลอดทาง และเมื่อกลับมาถึงกู่โหลว จึงเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนมาถึงแล้ว
ทันทีที่เห็นโม่เจ๋อหยวน เกอชิงเหม่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เจ๋อหยวน เธอมาหาซวงเอ๋อร์หรือจ๊ะ”
โม่เจ๋อหยวนเห็นถังซวงเดินเข้ามา มุมปากของเขายกยิ้มโดยไม่รู้ตัว แต่ยังไม่ลืมที่จะทักทายเกอชิงเหม่ย “ป้าเกอครับผมมาหาพี่เจียรุ่ย ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ยกับคุณป้าน่ะครับ ว่าจะชวนทุกคนไปเดินเล่นสักหน่อย”
“โอ้ เอาเถอะ ให้คนหนุ่มสาวไปเดินเล่นดีกว่าจ้ะ”
จากนั้นโม่เจ๋อหยวนพาถังซวง เสี่ยวเซวี่ย และเฮ่อเจียรุ่ยออกไปเดินเล่น
อีกฟากหนึ่ง เฮ่อหลานลืมตาขึ้นในตอนเช้า ร่างกายของเธอปวดร้าวและอ่อนปวกเปียกเมื่อขยับตัว
หลังจากเห็นว่าเฮ่อหลานตื่นแล้ว จิงเจ้อหรงก็ยิ้มก่อนจะเอนตัวไปจูบแก้มของเธอ “อาหลาน อาหารเช้าพร้อมแล้วนะครับ ไปทานข้าวกันเถอะ”
เฮ่อหลานยังคงงัวเงียเล็กน้อย และเมื่อมาถึงห้องอาหาร เธอหยิบตะเกียบหนึ่งคู่แล้วเริ่มกิน ขณะนั้นเธอหันมองเวลาและพูดขึ้นว่า “เราไปทานมื้อเช้ากันที่บ้านไม่ทันแล้วนะคะ ฉันตื่นสายมากเลย นี่ก็เกือบสิบโมงแล้ว” เพราะเธอสัญญาไว้ว่าจะไปทานมื้อเช้าที่บ้านตระกูลจิง
จิงเจ้อหรงยิ้มแล้วตอบว่า “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมบอกคุณพ่อคุณแม่แล้วว่าเราจะไปทานมื้อเที่ยงด้วย”
“เพราะฉัน… ฉันตื่นสายสินะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกเราคนกันเองทั้งนั้น อีกอย่างถ้าเรากลับไปแล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องมีความสุขมากแน่นอน คราวแรกผมคิดว่าเราจะอยู่ที่นี่กันสองคนโดยไม่กลับบ้านด้วยซ้ำ”
เฮ่อหลานรู้สึกว่าครอบครัวจะต้องมาก่อนเป็นอันดับหนึ่ง และเธอรู้สึกว่าพี่ชายทั้งสองก็ยังอยู่ในบ้านหลังเก่า และหากทั้งสองคนแยกตัวออกมาตั้งแต่แรก มันจะไม่ค่อยดีนัก “อาเจ้อ จริง ๆ แล้วมันจะดีกว่าถ้าเราอยู่กับคุณพ่อคุณแม่นะคะ”
“ครับ อย่างนั้นก็ได้ คุณรีบกินข้าวเถอะ เดี๋ยวเราจะกลับกันแล้ว”
เมื่อจิงเจ้อหรงและเฮ่อหลานมาถึงบ้านตระกูลจิงแล้ว คุณนาย จิงดึงเฮ่อหลานเข้ามาใกล้พร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม “อาหลาน เมื่อคืนนอนหลับสบายไหมจ๊ะ?”
ได้ยินอย่างนั้นเฮ่อหลานเผยสีหน้าแดงเรื่อขึ้นมา ก่อนจะพยักหน้า “อาเจ้อตกแต่งบ้านสวยมากเลยค่ะ ฉันหลับสบายมากค่ะ”
“ดีแล้วจ้ะ”
คุณนายจิงลูบหลังมือของเฮ่อหลานด้วยรอยยิ้มก่อนจะพาเธอไปที่ห้องด้านหลัง “อาหลาน พรุ่งนี้เธอต้องกลับบ้านแล้ว ฉันเตรียมนี่ไว้ เธอเอากลับไปด้วยนะจ๊ะ”
“คุณแม่คะ มันมากไปหรือเปล่า?”
“ไม่มากไปหรอก พี่สาวเธอเองก็อยู่ที่นั่นด้วย ยังมีอาจารย์ของเธอ ลุงหลี่ และคนอื่น ๆ อีก”
เฮ่อหลานไม่ปฏิเสธเมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว “ขอบคุณค่ะคุณแม่” เพราะสิ่งเหล่านี้จะถูกเตรียมไว้ให้เธอ เมื่อถึงวันกลับบ้าน เฮ่อหลานจึงไม่ต้องกังวลอะไร และหยิบเอาของที่คุณนายจิงเตรียมไว้ให้ก่อนจะกลับไปที่บ้าน