การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 287 ตรุษจีน
บทที่ 287 ตรุษจีน
บทที่ 287 ตรุษจีน
“ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย พวกเรากลับมาแล้วจ้ะ”
ทันทีที่เฮ่อหลานมาถึง เธอเห็นลูกสาวสองคนยืนรออยู่หน้าประตู และวิ่งตรงเข้าไปกอดลูก ๆ อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ได้เจอทั้งสองเพียงแค่สามวัน แต่เธอก็รู้สึกว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน
ส่วนจิงเจ้อหรงก็เดินตามมาพร้อมกับข้าวของเต็มมือ
“ไงซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย สองวันนี้คงจะเหนื่อยมากล่ะสิ”
ถังเซวี่ยยิ้มพร้อมส่ายหัวเมื่อได้ยินอย่างนั้น เธอรีบตอบกลับว่า “ไม่เหนื่อยเลยค่ะ อยู่กับป้าเกอกับคนอื่นที่นี่ พวกเราไม่ต้องทำอะไรเลยค่ะ แต่ว่าคุณลุงกับคนอื่น ๆ จะกลับวันพรุ่งนี้แล้วค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น เฮ่อหลานพูดอย่างเสียดาย “รีบกลับขนาดนั้นเลยหรือ ฉันจะกลับมาพรุ่งนี้แท้ ๆ”
เวลานี้ครอบครัวเฮ่อจื่อกุยบังเอิญเดินเข้ามา และทันทีที่เห็นเฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรง ทั้งหมดรีบทักทายด้วยรอยยิ้ม “เฮ่อหลาน อาเจ้อ มากันแล้วหรือ”
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ เจียรุ่ย สวัสดีครับ”
จิงเจ้อหรงตะโกนออกไปอย่างเป็นกันเอง หลังจากเขาวางของลง เขาหันไปพูดคุยกับเฮ่อจื่อกุย ขณะที่พานลี่ฮวามองเฮ่อหลานด้วยรอยยิ้มแล้วดึงไปกระซิบ “อาหลาน แต่งงานเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อเห็นว่าพานลี่ฮวายักคิ้วขยิบตา เฮ่อหลานก็เข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร ทว่าเธออับอายเกินกว่าจะตอบกลับ ดังนั้นจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับ เพื่อบอกอีกฝ่ายว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
เมื่อเห็นความเขินอายของเฮ่อหลานแล้ว พานลี่ฮวายิ้มก่อนจะพูดต่อว่า “อาหลาน ไม่เห็นต้องอายเลย ยังไงอาเจ้อก็ต้องดูแลเธออย่างดีอยู่แล้ว”
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุย หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นเดินออกมาพร้อมกัน พวกเขามีความสุขมากเมื่อเห็นว่าจิงเจ้อหรงกับเฮ่อหลานกลับมาแล้ว
“ลุงหลี่ อาจารย์ คุ้นเคยกับที่นี่บ้างหรือยังคะ?”
หลี่จงอี้โบกมือพร้อมกับพูดว่า “ไม่ต้องกังวลหรอก พวกเราคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ดี อีกอย่างซวงเอ๋อร์ก็อยู่ที่นี่ ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ต้องกังวลอะไร”
ซูเหนียนอวิ๋นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเฮ่อหลานแดงเรื่อ และมีแววตาเปล่งประกายความสุข เกอชิงเหม่ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสบายใจที่น้องสาวของเธอสบายดี ทำให้ความกังวลในใจหมดสิ้นไป
หลังจากที่จิงเจ้อหรงทราบว่าครอบครัวของเฮ่อจื่อกุยกำลังจะกลับ เขาบอกกล่าวกับเฮ่อหลานว่าไม่ต้องทำอาหาร และมื้อเที่ยงนี้ทุกคนควรจะออกไปรับประทานอาหารข้างนอกแทน เป็นการเลี้ยงส่งครอบครัวเฮ่อจื่อกุย
หลังจากมื้ออาหาร จิงเจ้อหรงมาส่งพวกเขาที่บ้าน
เฮ่อหลานอยากจะอยู่ที่นี่ต่อ แต่ซูเหนียนอวิ๋นตบหลังมือของเธอแผ่วเบาก่อนจะพูดว่า “ไม่เป็นไรอาหลาน พรุ่งนี้ก็ได้กลับมาแล้ว วันนี้กลับไปก่อนเถอะ”
แม้พานลี่ฮวายังกล่าวเสริม “ใช่อาหลาน กลับไปกับอาเจ้อก่อนเถอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องของพวกเราหรอก”
วันนี้เธอจำเป็นต้องกลับจริง ๆ แต่ว่าเฮ่อหลานก็อยู่ที่บ้านจนบ่ายแก่จึงจะตามจิงเจ้อหรงกลับไปที่บ้านตระกูลจิง
เช้าวันรุ่งขึ้น เฮ่อหลานและจิงเจ้อหรงมาหาครอบครัวเฮ่อจื่อกุย
โม่เจ๋อหยวนเองก็มาด้วยเช่นกัน เพราะทั้งเขาและเฮ่อเจียรุ่ยได้พูดคุยกันมากขึ้น คนหนุ่มสาวทั้งหมดก็สนทนากันอย่างออกรส
จนเฮ่อจื่อกุยมองเฮ่อหลาน ถังซวง และถังเซวี่ยอย่างโศกเศร้า “อาหลาน ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย เราต้องกลับก่างเฉิงก่อน ถ้าพวกเธอว่าง สามารถกลับไปเยี่ยมพวกเราได้ทุกเมื่อเลยนะ”
“พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะกลับไปเยี่ยมคุณลุงกับคุณป้าแน่นอนค่ะ”
“ค่ะ พวกเราเองก็คิดถึงคุณตากับคุณยายมากเลย”
เมื่อนึกถึงอาวุโสทั้งสอง ทั้งถังซวงและถังเซวี่ยก็รู้สึกคิดถึงพวกเขามากเช่นกัน
เฮ่อจื่อกุยยิ้มก่อนจะตอบว่า “อื้ม พวกเราจะรอนะ” จากนั้นเขาหันมองจิงเจ้อหรง “อาเจ้อ ต่อจากนี้อาหลานกับคนอื่น ๆ จะไปอยู่กับคุณ คุณต้องดูแลพวกเขาให้ดีนะ และถ้าฉันรู้ว่าคุณทำอะไรพวกเขาแม้แต่นิดเดียว ผมจะพาพวกเขากลับก่างเฉิงทันที”
จิงเจ้อหรงกล่าวจริงจัง “ไม่ต้องกังวลครับพี่ใหญ่ ผมจะดูแลพวกเธออย่างดีแน่นอน”
เห็นจิงเจ้อหรงตอบอย่างนี้แล้ว เฮ่อจื่อกุยสบายใจ
เวลานี้ โม่เจ๋อหยวนก้าวไปด้านหน้าเพื่อกล่าวลาเช่นกัน “คุณลุงเฮ่อ ในอนาคตถ้ามีเวลาว่าง ก็แวะมาได้เสมอนะครับ เพราะคราวนี้คุณลุงรีบมารีบกลับ เลยไม่มีเวลาออกไปเที่ยวเล่นกันเลย”
“ได้สิเสี่ยวโม่ ถ้าพวกเราว่าง เราจะมาอีกแน่นอน”
เฮ่อเจียรุ่ยก้าวไปด้านหน้าก่อนจะตบไหล่โม่เจ๋อหยวน “ว่าง ๆ นายก็ไปก่างเฉิงบ้างนะ”
“แน่นอน”
หลังจากที่ครอบครัวของเฮ่อจื่อกุยจากไปแล้ว เฮ่อหลานและจิงเจ้อหรงมาพักที่นี่ชั่วคราว
ซูเหนียนอวิ๋นไม่อยากจะให้เฮ่อหลานต้องกังวลใจเกี่ยวกับตน “อาหลาน จะดีกว่าถ้าเธอไปอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลจิง ไม่จำเป็นต้องมาพักที่นี่หรอก พวกเราอยู่ได้ อีกอย่างพี่สาวของเธอก็อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ”
“อาจารย์คะ อาเจ้อกับฉันตกลงกันแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ ส่วนเรื่องอื่น ปีหน้าค่อยคิดกันค่ะ”
เมื่อเห็นว่าลูกศิษย์ยืนยันอย่างนั้น ซูเหนียนอวิ๋นพยักหน้าพร้อมตอบว่า “เอาล่ะ ถ้าเธออยู่ที่นี่ก็ดี บรรยากาศมันจะได้คึกครื้นหน่อย”
ถ้ามีเฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรงอยู่ด้วย บรรยากาศโดยรอบพลันมีชีวิตชีวาขึ้นทันที อีกอย่างเทศกาลตรุษจีนกำลังจะมาถึง และปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าปีก่อน ๆ มาก ทั้งในห้องและนอกห้องต่างถูกตกแต่งอย่างเต็มที่ เผยให้เห็นถึงความรื่นเริงในทุกย่างก้าว
ปกติแล้ว หลังจากครอบครัวเฮ่อจื่อกุยกลับไป โม่เจ๋อหยวนก็ไม่ได้มาที่นี่อีกเลย จนเฮ่อหลานเลยถามไถ่เรื่องของเขากับถังซวง และได้ทราบว่าเวลานี้เขากำลังยุ่งอยู่กับบางสิ่งเลยไม่มีเวลา
“เจ๋อหยวนนี่ยุ่งตลอดเลย ทั้งที่คนส่วนใหญ่จะว่างช่วงตรุษจีนแท้ ๆ แต่กลับยุ่งจนหายหน้าหายตาไปเลย เขาคงจะมีบางอย่างที่จะทำให้เสร็จล่ะมั้ง”
ในวันส่งท้ายปีเก่า เฮ่อหลานและเกอชิงเหม่ยตระเตรียมมื้ออาหารสุดหรูวางเต็มโต๊ะ
เป็นเรื่องยากที่หลี่จงอี้จะรินไวน์ วันนี้เขาขอให้จิงเจ้อหรงดื่มกับตนด้วย “เอาล่ะ เรามาดื่มอวยพรกันเถอะ แม้เราจะไม่ได้ฉลองตรุษจีนที่มณฑลเจียง แต่อย่างไรมันก็คือเทศกาล ต่อให้เป็นเมืองหลวงก็ไม่แตกต่างกันหรอก สวัสดีปีใหม่นะ!”
“สวัสดีปีใหม่”
ซูเหนียนอวิ๋นชูแก้วขึ้นด้วยเช่นกัน คนอื่น ๆ ที่ร่วมดื่มก็ชูแก้วขึ้นมาเช่นกัน “สวัสดีปีใหม่”
หลังจากผ่านพ้นมื้อค่ำในวันส่งท้ายปีเก่า เฮ่อหลานก็ยังนั่งอยู่ แต่ซูเหนียนอวิ๋นสะกิดเธอพร้อมกับพูดว่า “อาหลาน วันนี้เธออยู่ทานมื้อเย็นวันส่งท้ายปีกับพวกเราแล้ว เธอกลับไปกับอาเจ้อเถอะ”
เกอชิงเหม่ยก็ผลักหลังของเฮ่อหลานด้วยเช่นกัน “อาหลานกลับไปกับอาเจ้อเถอะ เดี๋ยวซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยอยู่กับพวกฉันที่นี่”
ท้ายที่สุด เฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรงจึงต้องกลับไปยังบ้านตระกูลจิง
เมื่อวันส่งท้ายปีเก่าผ่านไป ปีใหม่ก็มาถึง
ในเช้าวันแรกของปีใหม่ ถังซวงตื่นแต่เช้าและยังคงนิสัยเดิมเอาไว้ เธอจะไปวิ่งออกกำลังกายตั้งแต่เช้า และวันนี้โม่เจ๋อหยวนก็มาหาหลังจากหายไปนาน เมื่อชายหนุ่มเห็นถังซวง เขารีบกล่าวทักทาย “ซวงเอ๋อร์ ฉันขอโทษนะที่ไม่มีเวลามาเยี่ยมนานเลย”
ส่วนถังซวงดีใจเมื่อได้เห็นโม่เจ๋อหยวน
“พี่โม่ ทำไมมาแต่เช้าล่ะคะ? นี่วันปีใหม่นะ”
“ฉันไม่รู้ว่าเธอมีอะไรกินตอนเช้าไหม ฉันเลยแวะมาหาน่ะ” ขณะพูดอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนวางถุงขนาดใหญ่ทั้งสองถุงที่ในครัว
ถังซวงเดินไปด้านหน้าพร้อมกับเปิดดูสิ่งที่โม่เจ๋อหยวนนำมาด้วยรอยยิ้ม
“พี่โม่ซื้อของมาอีกแล้ว”