การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 296 สายตาเฉียบคม
บทที่ 296 สายตาเฉียบคม
บทที่ 296 สายตาเฉียบคม
หลังจากโม่ถิงฮวาพูดจบ เขาหันมองโม่เจ๋อหยวนแล้วกล่าวให้เชื่อมั่น “เจ๋อหยวน ลูกไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก ผู้บังคับบัญชาจะจัดการเรื่องนี้เอง เดี๋ยวถ้าลูกหายดีแล้ว จะมีคนมาคอยคุ้มกัน” ท้ายที่สุดเขาหันมองถังซวงแล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ จะมีคนคอยคุ้มกันเธอด้วย”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงประหลาดใจ พร้อมโบกมือทันทีว่า “ฉันไม่ต้องการค่ะ”
“ซวงเอ๋อร์ ตอนนี้ให้คนมาคอยคุ้มกันเธอจะดีกว่า เพราะเรื่องทั้งหมดยังไม่คลี่คลายดี อาจมีคนร้ายอยู่รอบตัว เธอต้องระวังตัวให้มาก”
ได้ยินโม่ถิงฮวาพูดอย่างนั้นแล้ว ถังซวงจึงเข้าใจว่าอีกฝ่ายทำเพื่อเธอ เธอจึงไม่ปฏิเสธแล้วตอบกลับว่า “ตกลงค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”
“ไม่ต้องกังวล คนที่คุ้มกันเธอจะไม่มาทำให้กวนใจหรอก พวกเขาจะลอบติดตามอย่างลับ ๆ น่ะ”
หลังจากโม่ถิงฮวาพูดจบ ในที่สุดหลินเหม่ยเจินก็มีโอกาสพูดบ้าง
“ถิงฮวา ให้เจ๋อหยวนดื่มยาก่อน มีอะไรค่อยคุยกันทีหลัง”
วันนี้โม่เจ๋อหยวนรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก และเขาต้องการจะดื่มยาด้วยตนเอง แต่ถังซวงห้ามเอาไว้ “พี่โม่ อย่าเพิ่งลุกค่ะ ฉันจะเอาหมอนดันหลังให้” ขณะพูดอย่างนั้นถังซวงยัดหมอนไว้ด้านหลังศีรษะของโม่เจ๋อหยวน
เมื่อเห็นความใส่ใจของถังซวง โม่เจ๋อหยวนยิ้มกว้าง “ขอบคุณนะ”
พอได้เห็นความสัมพันธ์อบอุ่นระหว่างทั้งสอง หลินเหม่ยเจินเองก็ยกยิ้ม แล้วยื่นยาให้ถังซวง
ถังซวงไม่ได้คิดอะไรนัก เธอเริ่มป้อนยาโม่เจ๋อหยวนทีละช้อน
จากนั้นหลินเหม่ยเจินดึงโม่ถิงฮวาออกมา ทำให้โม่ถิงฮวาไม่เข้าใจพฤติกรรมของภรรยาเลยสักนิด
“คุณดึงผมออกมาทำไม ผมยังมีเรื่องคุยกับเจ๋อหยวนและซวงเอ๋อร์อยู่นะ”
หลินเหม่ยเจินมองสามีอย่างขัดใจก่อนจะพูดว่า “คุณนี่ไม่เข้าใจอะไรเลยนะ ไม่เห็นหรอว่าลูกชายของคุณกับถังซวงกำลังใช้เวลาด้วยกัน อย่าไปรบกวนพวกเขาสิ”
“อะไรนะ…”
ตอนนี้เองที่โม่ถิงฮวาเริ่มตระหนักได้ถึงบางอย่าง “คุณหมายถึง…?”
หลินเหม่ยเจินพยักหน้า “ฉันรู้สึกว่าหลังจากลูกชายเราบาดเจ็บคราวนี้ บรรยากาศระหว่างเขากับซวงเอ๋อร์ดูจะเปลี่ยนไป เหมือนทั้งสองคนจะสนิทกันมากขึ้น พวกเขาคงพูดคุยกันแล้วแหละ”
“ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็คงดีอยู่หรอก”
โม่ถิงฮวาเองก็ชอบถังซวงมาก ไม่เพียงแต่เธอจะดูดี แต่เธอยังมีความสามารถ แล้วยังช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้อีกด้วย ผู้หญิงแบบนี้จะหาได้ที่ไหน
หลังจากถังซวงป้อนยาเสร็จ หลินเหม่ยเจินและโม่ถิงฮวาเดินเข้ามา
“ซวงเอ๋อร์ ฉันฝากดูแลเจ๋อหยวนก่อนนะ ยังมีเรื่องต้องทำอีกมากเลยล่ะ”
ถังซวงพยักหน้าก่อนจะตอบกลับว่า “ค่ะลุงโม่ ฉันจะดูแลพี่โม่เอง คุณลุงไปทำธุระเถอะค่ะ”
หลินเหม่ยเจินออกไปส่งโม่ถิงฮวา ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง เธอรู้ดีว่าเมื่อคืนถังซวงนอนหลับไม่สบาย จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ กลับไปนอนที่บ้านดีไหมจ๊ะ ฉันอยู่ที่นี่แล้ว เธอไม่ต้องกังวลหรอก”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าก่อนจะตอบกลับว่า “ใช่ซวงเอ๋อร์ กลับไปพักผ่อนที่บ้านเถอะ”
แต่ซวงเอ๋อร์ไม่อยากทำแบบนั้น เธอปฏิเสธ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เหนื่อยอะไร ไว้ค่อยคุยกันหลังจากที่อาการบาดเจ็บของพี่เริ่มดีขึ้นกว่านี้เถอะ” ขณะพูดอย่างนั้น เธอหันมองโม่เจ๋อหยวนก่อนจะกล่าวเสริมว่า “กินยาเสร็จแล้วก็นอนพักเถอะค่ะ”
“อื้อ”
โม่เจ๋อหยวนหลับตาพักผ่อนอย่างเชื่อฟัง
หลินเหม่ยเจินเห็นอย่างนี้แล้วเธอรู้สึกขบขันเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าลูกชายพักผ่อนแล้ว เธอก็อยากจะกลับไปหาอะไรกินที่บ้านบ้าง “ซวงเอ๋อร์ งั้นเธอพักผ่อนนะจ๊ะ ฉันจะกลับบ้านไปหาอะไรกินสักหน่อยนะ”
“ค่ะป้าหลิน เดินทางดี ๆ นะคะ”
หลังจากหลินเหม่ยเจินออกไปแล้ว โม่เจ๋อหยวนลืมตาขึ้นก่อนจะหันมองถังซวงแล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ไปนอนเตียงเล็ก ๆ นั่นสิ”
“ไม่ค่ะ ฉันจะอยู่ตรงนี้ พี่นอนไปเถอะ”
โม่เจ๋อหยวนมองถังซวงที่ไม่ยอมพักผ่อน เขาเองไม่หลับเช่นกัน
เมื่อเห็นโม่เจ๋อหยวนดื้อดึงอย่างนี้ ถังซวงยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เอาล่ะ งั้นฉันก็จะพักผ่อนด้วย”
ว่าจบถังซวงไปนอนที่เตียงเล็กด้านข้าง พอเห็นอย่างนั้นโม่เจ๋อหยวนยอมหลับตาลงพักผ่อนทันที
หลังจากหลินเหม่ยเจินกลับมา เธอเห็นว่าทั้งสองกำลังหลับอยู่ จึงเธอยิ้มเอ็นดูแล้ววางของจำเป็นเอาไว้ก่อนจะออกไปอีกครั้ง
ถังซวงตื่นแล้ว แต่โม่เจ๋อหยวนยังไม่ตื่น แต่ทันทีที่เธอตรวจสอบชีพจรของเขา เขารู้สึกตัวทันที “ซวงเอ๋อร์ ตื่นเร็วไปรึเปล่า?”
ถังซวงจับชีพจรของโม่เจ๋อหยวนเสร็จแล้ว ก็ยิ้มก่อนจะตอบว่า “ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ ถ้ายังฟื้นตัวดีอย่างนี้ต่อไป อีกไม่นานพี่ก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
หลินเหม่ยเจินเดินเข้ามาและได้ยินสิ่งที่เธอพูดเมื่อครู่ เลยหันมองถังซวงด้วยความประหลาดใจก่อนจะถามว่า “ซวงเอ๋อร์ เจ๋อหยวนจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วหรือ? เขาหายดีแล้วหรือจ๊ะ?”
“ค่ะ การฟื้นตัวของพี่โม่ดีมากเลย”
“อย่างนั้นก็ดีแล้วจ้ะ”
หลินเหม่ยเจินมีความสุข และดึงถังซวงมาพูดคุยด้วย ขณะที่เธอกำลังจะทำอาหาร ผู้เฒ่าโม่และเจิ้งหงเดินเข้ามาพร้อมกับอาหารมากมาย
“พี่สะใภ้ ฉันกับพ่อมาเยี่ยมเจ๋อหยวนค่ะ”
หลินเหม่ยเจินหันไปหาผู้เฒ่าโม่ทันที “คุณพ่อคะ มาทำไมเนี่ย เจ๋อหยวนไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ พ่อไม่จำเป็นต้องมาที่นี่หรอก”
“ถึงเจ๋อหยวนจะสบายดี แต่ฉันอยากจะเห็นด้วยตาตัวเองมากกว่าน่ะ”
เมื่อเห็นโม่เจ๋อหยวนสบายดี ผู้เฒ่าโม่ก็สบายใจขึ้นมาก เขาหันมองถังซวงแล้วพูดว่า “ขอบคุณซวงเอ๋อร์ที่ช่วยเจ๋อหยวนไว้นะ” เขาได้ยินจากลูกชายคนโตแล้ว ถ้าซวงเอ๋อร์ไม่รักษาบาดแผลและให้ยากับโม่เจ๋อหยวนก่อน การรักษาคงจะไม่ราบรื่นอย่างนี้
ถังซวงโบกมืออย่างรวดเร็วก่อนจะตอบกลับว่า “คุณปู่คะ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ที่พี่โม่ต้องเจ็บตัวคราวนี้ก็เพราะช่วยฉันเอาไว้ ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ”
เมื่อเห็นทั้งสองขอบคุณกันและกัน หลินเหม่ยเจินพูดขึ้นจากด้านข้างว่า “คุณพ่อคะ เดี๋ยวกินข้าวกันก่อนเถอะค่ะ เจ๋อหยวนน่าจะหิวแล้ว”
“อ้อ ใช่ ๆ”
เจิ้งหงยิ้มก่อนจะวางอาหารไว้ด้านข้าง ขณะนี้เฮ่อหลานเข้ามาพร้อมกับถังเซวี่ย และเห็นว่ามีคนนำอาหารมาส่งแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีอาหารมากเลยนะคะ”
หลินเหม่ยเจินรีบตอบ “อาหลาน พวกเรากินกันนิดหน่อยเอง เอามาทำไมตั้งเยอะแยะ”
พอเห็นเฮ่อหลาน เจิ้งหงพยักหน้าก่อนจะทักทายด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะคุณจิง”
“สวัสดีค่ะ”
หลังจากทุกคนรับประทานอาหารแล้ว เจิ้งหงกับผู้เฒ่าโม่ขอตัวกลับก่อน “เจ๋อหยวน หลานรักษาตัวให้ดีนะ ไว้พรุ่งนี้ปู่จะมาเยี่ยมใหม่”
“คุณปู่ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาหรอกครับ ผมไม่เป็นไร อีกอย่างซวงเอ๋อร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย”
เมื่อผู้เฒ่าโม่เห็นหลานชายจับมือกับถังซวงแน่น เขาหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “เอาล่ะ ๆ งั้นรักษาตัวให้ดีล่ะ”