การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 30 ไปที่ตระกูลถัง(รีไรท์)
บทที่ 30 ไปที่ตระกูลถัง(รีไรท์)
บทที่ 30 ไปที่ตระกูลถัง(รีไรท์)
เมื่อถังซวงได้ยินคำพูดของหลี่จงอี้ เธอพยักหน้าและพูดว่า “ตกลงค่ะคุณปู่ งั้นหนูจะกลับไปก่อนนะ”
เมื่อมองดูหลี่จงอี้และคนอื่น ๆ เดินออกไป ถังซวงก็กลับบ้านเช่นกัน
“พี่สาว ในที่สุดพี่ก็กลับมา ทำไมถึงหายไปนานจัง ถ้าพี่ไม่กลับมา หนูเกือบจะไปที่ภูเขาเพื่อตามหาพี่แล้วนะ” ถังเซวี่ยเห็นถังซวงกลับมา เลยรีบวิ่งไปหาพี่สาวและช่วยถือตะกร้าทันที
ถังซวงเห็นน้องสาวของเธอพยายามเรียนอย่างหนัก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “อ่านหนังสือเป็นยังไงบ้าง?”
“อย่ากังวลไปเลยพี่สาว หนูตั้งใจอ่านทั้งเช้าเลย และไม่ได้ขี้เกียจด้วย แต่หนูเจอสองอย่างที่ไม่เข้าใจ หนูจะถามทีหลังนะ”
“ได้สิ”
สองพี่น้องเข้าไปในบ้านในขณะที่คุยกัน
เฮ่อหลานที่เตรียมอาหารกลางวันไว้แล้ว และเมื่อเห็นลูกสาวสองคนเข้ามาก็รีบบอกให้พวกเธอล้างมือและมาทานอาหาร
ในตอนเที่ยง เฮ่อหลานนึ่งข้าว ทำไข่กวน มันฝรั่งทอดรสเผ็ด และซุปเต้าหู้ปลา สามแม่ลูกหิวมาก พวกเขากินอาหารที่ทำทั้งหมด
“อา… อิ่มจัง”
ถังเซวี่ยลูบหน้าท้องอย่างพอใจ เด็กสาวรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นเล็กน้อยในช่วงนี้ และอีกอย่างตอนนี้เธอก็ไม่ผอมแห้งอีกต่อไป
ถังซวงชอบฝีมือทำอาหารของเฮ่อหลานมาก เธอกินทุกอย่างอย่างเต็มที่ทุกมื้อ
เมื่อเห็นว่าเฮ่อหลานกำลังจะล้างจาน ถังซวงจึงหยุดเธอทันที “แม่คะ เดี๋ยวก่อน หนูมีอะไรจะบอก”
เมื่อหลี่เต๋อซินและคนอื่น ๆ ถูกนำตัวไป เรื่องก็เกือบจะยุติลงแล้ว ดังนั้นถังซวงจึงไม่คิดจะปิดบัง เธอเล่าเรื่องทั้งหมดรวมถึงเรื่องที่ว่าหลี่เต๋อซินและพวกมารังแกเธอในเช้าวันนี้ เธอเล่าทั้งหมดและก็พูดเรื่องสำคัญที่สุดให้แม่ได้ฟัง “เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลถังแล้ว แต่แม่เฒ่าถังกับถังเจี้ยนกั๋วก็ยังคิดจะขายหนู หนูจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่าย ๆ แน่”
เมื่อพูดจบถังซวงมองไปที่เฮ่อหลานโดยสงสัยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ใบหน้าของเฮ่อหลานแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอบีบขอบชามข้าวแน่น เป็นครั้งแรกที่เธอมีความคิดที่อยากจะฆ่าใครสักคน เธอไม่คิดเลยว่าตระกูลถังจะไร้ยางอายขนาดนี้ แต่เมื่อเธอนึกถึงบางอย่างขึ้นได้เธอดึงถังซวงมาหมุนตัวแล้วสำรวจตามร่างกาย
“ซวงเอ๋อร์คนพวกนั้นมันทำอะไรลูกหรือเปล่า?”
ขณะที่เธอพูด น้ำตาของเฮ่อหลานก็ไหลลงมา เธอกลัวว่าถังซวงจะโกหกเพื่อไม่ให้เธอกังวล เธอกลัวว่าถังซวงจะถูกทำร้ายจริง ๆ และเธอก็กลัวว่าชีวิตของถังซวงจะมืดมนในอนาคต
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ตอนนี้เธอหวังว่าเธอจะฆ่าถังเจี้ยนกั๋วได้จริง ๆ
เมื่อเห็นความเกลียดชังในดวงตาของเฮ่อหลาน ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า “แม่คะ หนูเคยไล่ถังเจี้ยนกั๋วและจัดการเขามาก่อนนะ แล้วหนูจะโดนคนเลวอย่างหลี่เต๋อซินจับได้ยังไง หนูสบายดีค่ะ”
ถังเซวี่ยกังวลว่าพี่สาวของเธอถูกรังแก แต่เมื่อเธอเห็นใบหน้าแดงก่ำของพี่สาวที่ยิ้มแย้ม เธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายสบายดีจริง ๆ “พี่สาว ดีแล้วที่พี่สบายดี แต่คนพวกนั้นสมควรตาย” ในตอนท้ายดวงตาของเธอมีประกายของความโกรธและเธอก็เห็นด้วยกับคำพูดของถังซวง “แม่เฒ่าถังกับถังเจี้ยนกั๋วก็สมควรตายเช่นกัน”
เมื่อเธอเห็นว่าน้องสาวของเธอเลิกเรียกคนพวกนั้นว่าคุณย่าและพ่อ เธอเองก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรและตอนนี้น้องสาวเธอมีแต่ความเกลียดชังต่อตระกูลถัง
เมื่อเห็นความขุ่นเคืองในสายตาของแม่และน้องสาว ถังซวงจึงพูดไปตรง ๆ ว่า “เราจะไปที่ตระกูลถังหลังจากมีการประกาศความผิดทางอาชญากรรมของหลี่เต๋อซิน จากนั้นให้ชาวบ้านเห็นว่าแม่เฒ่าถังและถังเจี้ยนกั๋วนั้นโหดร้ายแค่ไหน ในเมื่อพวกเขาเป็นคนผลักฉันเข้าไปในกองไฟ*[1] นับประสาอะไรกับตระกูลถังของพวกเขาที่จะรอดไปได้”
เฮ่อหลานได้หย่ากับถังเจี้ยนกั๋วแล้ว และทั้งเธอกับเสี่ยวเซวี่ยก็ไม่เกี่ยวข้องกับถังเจี้ยนกั๋วอีก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของถังเจี้ยนกั๋วที่จะตัดสินใจอะไรแทนเธอ
เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกสาวคนโตพูด เฮ่อหลานพยายามอย่างมากที่จะระงับความเกลียดชังในใจของเธอ พยักหน้าและพูดว่า “ตกลง แม่จะเชื่อในสิ่งที่ลูกพูด”
เธอรู้ด้วยว่าหลังจากที่มีการประกาศอาชญากรรมที่ก่อโดยหลี่เต๋อซิน และคนอื่น ๆ ผู้คนจะเห็นความชั่วร้ายของตระกูลถัง และสิ่งที่ที่รออยู่สำหรับพวกเขามันคือความตาย คราวนี้เธอต้องให้ทุกคนเห็นธาตุแท้ของตระกูลถังให้ได้
แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่ลูกสาวของเธอพูด เธอรู้ว่าครั้งนี้เธอต้องขอบคุณหลี่จงอี้จริง ๆ
“ซวงเอ๋อร์ เมื่อเรามาพบญาติคนนั้นอย่างเป็นทางการแล้ว เราต้องขอบคุณลุงหลี่อย่างดีเลย นะ”
“ตกลงค่ะ”
หลังจากที่แม่และลูกสาวพูดคุยกันสักพัก ถังซวงก็ปล่อยให้แม่และน้องสาวของเธอไปทำธุระ
หัวใจของเฮ่อหลานเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความโกรธ แต่ตอนนี้พวกเขาทำอะไรไม่ได้ เธอทำได้เพียงพยายามสงบสติอารมณ์และตั้งสติ
ถังเซวี่ยโน้มตัวเข้าไปใกล้ถังซวง แล้วกระซิบว่า “พี่สาว เราควรทำอย่างไรดีเมื่อไปถึงตระกูลถังเพื่อขอคำอธิบายล่ะ?”
แม้ว่าเธอจะอยากให้แม่เฒ่าถังและถังเจี้ยนกั๋วตาย แต่สองคนนี้ก็คือย่ากับพ่อของเธอ หากพวกเขาทำอะไรบางอย่างลงไป คนในหมู่บ้านต้องพูดถึงพวกเขาไม่ดีแน่ ๆ แถมเธอกับพี่สาวต้องเรียนหนังสือ หากเรื่องพวกนี้ใหญ่โตขึ้นมาอนาคตของพวกเธอที่มีชื่อตระกูลถังติดตัวไป
ถังซวงไม่อยากให้ถังเซวี่ยคิดมาก เธอลูบหัวของถังเซวี่ยและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันคิดวิธีไว้แล้ว และเราจะไม่ถูกนินทาอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินคำพูดของพี่สาว ถังเซวี่ยก็ไม่กังวลอีกต่อไป
ในทางกลับกัน หลังจากที่หลี่จงอี้ส่งหลี่เต๋อซินและพวก ไปที่สถานีตำรวจ เขาก็เล่าความชั่วร้ายทั้งหมดของคนเหล่านั้น และในขณะเดียวกันก็หยิบหลักฐานอาชญากรรมของหลี่เต๋อซินออกมา และส่งพวกเขาทั้งหมดเข้าคุก
แม้ว่าหลี่จงอี้จะเกษียณไปแล้ว แต่เขาเคยอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ธรรมดา เขาจึงรู้จักคนมากมาย แม้แต่หัวหน้าของสำนักงานในตำบลนี้ก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ ดังนั้นคดีของหลี่เต๋อซินจึงรวดเร็วมากและมีคำตัดสินออกมาทันที
เมื่อข่าวไปถึงหมู่บ้านตระกูลหลี่ ทุกคนในหมู่บ้านก็ตกใจมาก
“อะไรนะ… กลายเป็นว่าภรรยาสองคนแรกของหลี่เต๋อซินถูกเขาฆ่าจริง ๆ ให้ตายเถอะ เราอยู่กับฆาตกรมาหลายปีแล้วเหรอเนี่ย!”
“ใช่ ใช่ พอคิดแล้วก็น่ากลัวนะ โชคดีที่ตอนนี้เขาถูกจับได้แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันไม่รู้ว่าเขาจะทำร้ายคนอีกกี่คนในอนาคต”
ทุกคนรู้สึกมีความสุข แต่คนอื่น ๆ รู้สึกงุนงง
“ภรรยาสองคนที่อยู่กับหลี่เต๋อซินก็หายไปหลายปีแล้ว ทำไมเขาถึงเพิ่งมาโดนจับในเวลานี้ล่ะ?”
“ฉันก็ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่เราไปหาคำตอบกันเถอะ”
บางคนที่รู้รายละเอียด เรียกคนมามุงกันและพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าครั้งนี้หลี่เต๋อซินถูกสอบสวนอย่างละเอียดเพราะเขาไปทำให้ใครบางคนไม่พอใจน่ะ”
“หื้ม… เขาทำร้ายใคร?”
“ฉันก็ไม่รู้เรื่องนั้น แต่ฉันได้ยินมาว่าเขาทำให้บางคนไม่พอใจ”
ในเวลานี้ จู่ ๆ ก็มีใครไม่รู้พูดขึ้นมา
“อ่อ… ไม่ใช่ว่าเคยมีเด็กสาวจากหมู่บ้านหลู่ฮวาคนหนึ่งต้องแต่งงานกับเขาเหรอ แต่ตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วล่ะ เพราะหลี่เต๋อซินถูกจับไปแล้ว ถือว่าเด็กสาวคนนั้นโชคดีนะเนี่ย”
“จริงด้วยๆ ฉันก็จำได้เหมือนกัน”
ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกัน เฮ่อหลานก็พาถังซวงและถังเซวี่ยไปที่ตระกูลถัง