การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 337 ไม่ได้ยุให้เกิดความขัดแย้ง
บทที่ 337 ไม่ได้ยุให้เกิดความขัดแย้ง
บทที่ 337 ไม่ได้ยุให้เกิดความขัดแย้ง
โหยวอี้หงอยากรู้ว่าถังซวงเป็นใครกันแน่ แม้แต่ตู้จ้งเหลียนที่อยู่ข้าง ๆ ก็เช่นกัน
“ใช่แล้วพ่อ ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ธรรมดาใช่ไหม พ่อถึงสุภาพกับเธอขนาดนั้น นี่มันผิดปกติจริง ๆ” พูดตามตรง ผู้หญิงคนนั้นดูดีมากต่างหาก แต่เขาไม่ได้พูดความคิดนี้ออกไป
เมื่อเห็นว่าภรรยาและลูกชายคนเล็กของตัวเองสงสัย ตู้หรงหมิงก็ยิ้มและพูดว่า “คุณถังซวงนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ นั่นแหละ เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลจิง”
“อะไรนะ…”
โหยวอี้หงหน้าแดงด้วยความไม่เชื่อ “เป็นไปได้ยังไง ตระกูลจิงไม่มีผู้หญิง…” ในตอนท้าย เธอก็ตระหนักได้ว่า “งั้น… ผู้หญิงเมื่อครู่นี้คือลูกสาวคนโตที่เป็นลูกติดภรรยาของคุณจิงเจ้อหรงใช่ไหม?แล้วลูกสาวคนเล็กก็เป็นหนึ่งในสองคนที่นั่งอยู่เมื่อกี้ใช่หรือเปล่า”
น่าประหลาดใจจริง ๆ ที่จิงเจ้อหรงแต่งงานกับหญิงจากชนบทที่เคยหย่าร้างมาแล้วคนนั้น ผู้คนมากมายในปักกิ่งรู้เรื่องนี้และรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีลูกติดสองคนมาด้วย ก่อนหน้านี้หลายคนต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ตระกูลจิงจะอนุญาตให้เธอเข้ามาในตระกูลเลย
เมื่อเห็นถังซวง ตอนนี้โหยวอี้หงมีปฏิกิริยาบางอย่าง
เธอสวยมาก ดังนั้นเธอจะต้องหน้าตาดีเหมือนแม่ บางทีจิงเจ้อหรงอาจจะแต่งงานกับเธอคนนั้นเพราะหน้าตา น่าเสียดายที่ตระกูลตู้อยู่คนละระดับกับตระกูลจิงเกินไป ตอนจิงเจ้อหรงแต่งงาน พวกเขาก็ไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วม ดังนั้นเธอจึงไม่เคยเห็นว่าภรรยาของจิงเจ้อหรงเป็นผู้หญิงแบบไหน
“ใช่แล้ว”
เมื่อเห็นตู้หรงหมิงพยักหน้า โหยวอี้หงก็รู้สึกไม่ชอบใจเล็กน้อย
“ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของจิงเจ้อหรง ทำไมคุณยังสุภาพกับเธอขนาดนี้ คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีกนะ ถ้าคนอื่นเห็น พวกเขาอาจหัวเราะเยาะคุณ”
ตู้จ้งเหลียนที่อยู่ด้านข้าง แต่เดิมคิดว่าถังซวงนั้นน่าทึ่ง แต่เขาไม่คาดคิดว่าเธอเป็นเพียงลูกสาวที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับตระกูลจิง เด็กหนุ่มจึงเห็นด้วยกับแม่ของเขา “ใช่ครับพ่อ ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าคงจะคิดว่าพ่อประจบเธอแน่ ๆ ยังไงถังซวงก็ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ที่แท้จริงของตระกูลจิงสักหน่อย”
“พวกแกจะไปรู้อะไร?”
ตู้หรงหมิงมองไปที่ภรรยาและลูกชายคนเล็กด้วยสีหน้าไม่พอใจ และพูดว่า “พวกแกไม่เคยเห็นท่าทีของคุณชายสามที่มีต่อถังซวงนี่ ถ้าเห็น พวกแกก็คงไม่พูดแบบนี้”
เมื่อได้ยินว่าสามีของเธอพูดแบบนั้น โหยวอี้หงก็ถามด้วยความสงสัย “เป็นไปได้ไหมว่าตระกูลจิงจะถือว่าเธอเป็นคุณหนูใหญ่จริง ๆ”
“แน่นอน คุณชายสามสนิทกับคุณถังซวงมาก และได้ยินมาว่าตระกูลจิงนั้นก็รักถังซวงและน้องสาวมาก ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้อีก ถ้าคนอื่นได้ยินเข้า คนที่ถูกนินทาจะกลายเป็นคุณเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โหยวอี้หงก็รู้สึกอายเล็กน้อย
แต่แววตาของตู้จ้งเหลียนฉายแววประหลาดใจ และพูดอย่างครุ่นคิด “ในเมื่อพี่ชายกับคุณถังซวงสนิทกัน คราวหน้าผมจะขอให้พี่ชายชวนเธอมาที่บ้านครับ”
ตู้หรงหมิงตาเป็นประกายเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “ดี คราวหน้าให้จ้งเหว่ยเชิญเธอมาที่บ้าน เมื่อถึงเวลานั้นก็ขอให้เธอช่วยดูแลเขาด้วย” เมื่อมองไปที่โหยวอี้หง เขาก็พูดว่า “อี้หง หลังจากนี้คุณก็จัดการให้ดี”
ดวงตาของโหยวอี้หงเป็นประกาย แต่เธอไม่ได้พูดอะไรมาก แค่พยักหน้าและยกยิ้มเห็นด้วย “ตกลงค่ะ ฉันจะจัดการให้”
อีกด้านหนึ่ง ถังซวงและคนอื่น ๆ ก็ไปที่ถนนเก่าแก่ โดยมีตู้จ้งเหว่ยเป็นคนนำ
“ที่จริงมีที่เที่ยวมากมายในปักกิ่งที่เหมาะแก่การไปเดินเล่น ซึ่งถนนสายเก่าแห่งนี้ก็ไม่เลว”
เมื่อมองไปที่อาคารเก่ารอบ ๆ ถังชุนหยานจึงพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ค่ะ มันสวยมาก บรรยากาศก็ดี”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า “ดีที่เธอชอบ วันนี้ฉันตั้งใจพาเธอออกมาเดินเล่นเลยนะ”
ตู้จ้งเหว่ยมองถังชุนหยานอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “วันนี้สหายถังซวงตั้งใจพาเธอออกมานี่เอง งั้นเธอลองบอกมาสิว่าอยากไปไหนเป็นพิเศษไหม”
ถังชุนหยานส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่มาปักกิ่ง ไม่รู้หรอกว่าควรไปที่ไหน”
“เพิ่งมาถึงปักกิ่งหรือ?”
“ใช่ค่ะ”
ถังชุนหยานพยักหน้า ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับทุกสิ่งรอบตัว
“งั้นเดินเล่นที่นี่กันต่อ แล้วฉันจะพาเธอไปที่อื่นอีก”
“ตกลง”
หลังจากนั้นตู้จ้งเหว่ยก็พาถังซวงและคนอื่นไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของปักกิ่ง
เมื่อเห็นว่าเริ่มเย็นแล้ว ถังซวงจึงมองไปที่ตู้จ้งเหว่ยและเอ่ยชวน “ไปกันเถอะ ไปที่ร้านอาหารของรัฐกัน วันนี้ฉันเลี้ยงเอง”
ตู้จ้งเหว่ยก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน และพูดอย่างอารมณ์ดี “ดีเลย ถ้าปฏิเสธก็คงจะไม่สุภาพกับเธอล่ะนะ”
เมื่อทุกคนมาถึงร้านอาหารของรัฐ ถังซวงก็สั่งอาหารหลายอย่างรวมถึงเกี๊ยวชามใหญ่ “วันนี้เราเดินกันมาเยอะแล้ว ต้องเติมพลังกันหน่อย”
ตู้จ้งเหว่ยก็ไม่เกรงใจเช่นกัน แค่เขาคนเดียวก็กินเกี๊ยวไปตั้งหลายตัว
“วันนี้สหายถังซวงเลี้ยงฉันทั้งวัน ขอบคุณมากนะ ไม่อย่างนั้นหลังจากกลับถึงบ้านฉันคงไม่มีอารมณ์กินข้าวแล้วต้องทนหิวแน่”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงจึงชำเลืองมองตู้จ้งเหว่ยและพูดว่า “ฉันไม่คิดเหมือนกันว่านายจะเป็นลูกชายของผู้อำนวยการตู้ แต่… นายกับน้องชายหน้าไม่เหมือนกันเลย”
“ฉันหน้าเหมือนแม่ แต่แม่ตายไปแล้ว และตู้จ้งเหลียนดูเหมือนแม่ของเขา”
ถังซวงไม่แปลกใจเลยเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เธอมองไปที่ตู้จ้งเหว่ยและพูดว่า “เทียบกันแล้ว นายดูดีกว่าอีก”
ตู้จ้งเหว่ยรู้สึกเขินอายขึ้นมาในทันที
“สหายถังซวง เธอก็พูดตรงเกินไป ฉันเขินนะ”
แต่ถังชุนหยานชำเลืองมองตู้จ้งเหว่ยและพูดว่า “พี่ซวงกำลังชมว่าพี่หน้าตาดี พี่จะเขินทำไม มันเป็นความจริงนี่ พี่ดูดีกว่าน้องชายตั้งเยอะ แต่พี่ดูไม่ค่อยฉลาด เห็น ๆ กันอยู่ว่าแม่เลี้ยงของพี่มีความสุขมากที่พี่ทะเลาะกับพ่อวันนี้ คราวหน้าอย่าทำอีกนะ”
วันนี้ ตู้จ้งเหว่ยเกือบจะตัดขาดกับพ่อของเขา แต่โหยวอี้หงกลับยกยิ้ม และมีความสุขมาก
ตู้จ้งเหว่ยไม่คาดคิดว่าถังชุนหยานจะพูดเรื่องนั้น เขาจึงชะงักไปเล็กน้อย
และนึกย้อนไป คนอื่น ๆ มักจะบอกให้เขาเชื่อฟัง อย่าสร้างปัญหาและเรียนรู้จากน้องชาย และพยายามเป็นคนที่ดีเลิศเสมอ
เมื่อเห็นท่าทางสับสนของตู้จ้งเหว่ย ถังชุนหยานก็ตระหนักว่าสิ่งที่เธอเพิ่งพูดอาจไม่เหมาะสม แต่เธอแน่ใจว่าตัวเองมองไม่ผิด ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเตือนว่า “วันนี้ฉันเห็นแม่เลี้ยงของพี่แอบมีความสุข ดังนั้นอย่าคิดว่าฉันกำลังยุให้เกิดความขัดแย้งในครับครัวพี่เลยนะ”
ถังซวงไม่คาดคิดว่าถังชุนหยานจะสังเกตเหมือนกัน จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ชุนหยานพูดถูก แม่เลี้ยงของนายต้องการให้นายตัดความสัมพันธ์กับครอบครัว” นั่นเป็นเหตุผลที่เธอขัดจังหวะตู้จ้งเหว่ย ก่อนที่เขาจะพูดจบ
แม้แต่ถังเซวี่ยที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว แม่เลี้ยงและน้องชายของพี่ดูเหมือนจะไม่ชอบพี่เลย”
เห็นถังซวง ถังเซวี่ย และถังชุนหยานพูดเช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของตู้จ้งเหว่ยก็กว้างขึ้นเรื่อย ๆ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ……”
และนึกย้อนไป คนอื่น ๆ มักจะบอกให้เขาเชื่อฟัง อย่าสร้างปัญหาและเรียนรู้จากน้องชาย และพยายามเป็นคนที่ดีเลิศเสมอ
เมื่อเห็นท่าทางสับสนของตู้จ้งเหว่ย ถังชุนหยานก็ตระหนักว่าสิ่งที่เธอเพิ่งพูดอาจไม่เหมาะสม แต่เธอแน่ใจว่าตัวเองมองไม่ผิด ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะเตือนว่า “วันนี้ฉันเห็นแม่เลี้ยงของพี่แอบมีความสุข ดังนั้นอย่าคิดว่าฉันกำลังยุให้เกิดความขัดแย้งในครับครัวพี่เลยนะ”
ถังซวงไม่คาดคิดว่าถังชุนหยานจะสังเกตเหมือนกัน จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ชุนหยานพูดถูก แม่เลี้ยงของนายต้องการให้นายตัดความสัมพันธ์กับครอบครัว” นั่นเป็นเหตุผลที่เธอขัดจังหวะตู้จ้งเหว่ย ก่อนที่เขาจะพูดจบ
แม้แต่ถังเซวี่ยที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าและพูดว่า “ใช่แล้ว แม่เลี้ยงและน้องชายของพี่ดูเหมือนจะไม่ชอบพี่เลย”
เห็นถังซวง ถังเซวี่ย และถังชุนหยานพูดเช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของตู้จ้งเหว่ยก็กว้างขึ้นเรื่อย ๆ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ……”
ในตอนท้ายของการหัวเราะ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยการประชดประชัน “ทุกคนคงเห็นแล้ว แต่พ่อที่ดีของฉันกลับคิดว่าโหยวอี้หงใจดีกับฉันมาก ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะมองออกเหมือนกัน”