การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 342 เตรียมการมาอย่างดี
บทที่ 342 เตรียมการมาอย่างดี
บทที่ 342 เตรียมการมาอย่างดี
ทันทีที่ตู้จ้งเหว่ยกลับมาถึงบ้าน เขาเห็นตู้หรงหมิงผู้เป็นพ่อนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น
ส่วนตู้หรงหมิงที่เห็นลูกชายคนโตกลับมา เขารีบเอ่ยถามทันที “แกได้กินข้าวที่บ้านตระกูลจิงไหม?”
“ครับ”
เวลานี้ตู้หรงหมิงถึงกับเผยสีหน้าตื่นเต้น รีบถามต่อ “แล้วได้เจอคุณชายจิงกับคนอื่น ๆ ด้วยไหม?”
“ไม่ครับ เจอแค่คุณนายจิงกับลูกสะใภ้สามเท่านั้น”
ได้ยินอย่างนี้ ตู้หรงหมิงอดไม่ได้ที่จะเผยความผิดหวังผ่านแววตา แต่เขาก็รู้สึกว่ามันยอดเยี่ยมแล้วที่ลูกชายของเขาได้เป็นแขกของตระกูลจิง “แล้วแกได้ทักทายคุณนายจิงไหม?”
ตู้จ้งเหว่ยเบื่อหน่ายกับคำถามของตู้หรงหมิงมาก เขาจึงตอบกลับอย่างรำคาญ “พ่อครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อน ผมต้องอ่านหนังสือ” หลังพูดจบ เขาเดินออกไปทันทีโดยไม่คิดสนใจอีกฝ่าย
“ไอ้เด็กคนนี้นี่”
ตู้หรงหมิงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะเวลานี้ลูกชายคนโตของเขามีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลจิงแล้ว
อีกฝั่งหนึ่ง โม่เจ๋อหยวนตื่นขึ้นในตอนเย็น เขามองห้องที่ดูแปลกตาทว่าคุ้นเคยตรงหน้า ชายหนุ่มเหยียดตัวลุกขึ้นก่อนจะยิ้มออกมา เขาคิดเพียงว่าจะพักสายตาสักครู่ แต่กลับผล็อยหลับจริงจังไปเสียได้
ถังซวงที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ด้านนอก เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหว เธอลุกขึ้นก่อนจะตะโกนถามว่า “พี่โม่ตื่นแล้วหรือคะ?”
“ตื่นแล้วครับ”
โม่เจ๋อหยวนลูบใบหน้าตัวเองก่อนจะเดินออกมา “ซวงเอ๋อร์ ฉันนอนนานไปหน่อย”
ถังซวงก้าวมาด้านหน้าก่อนจะส่ายหัวแล้วตอบกลับว่า “พี่ควรจะนอนต่ออีกสักหน่อยด้วยซ้ำ หน้ายังซีดอยู่เลย”
เห็นความห่วงใยในแววตาของถังซวง โม่เจ๋อหยวนอดไม่ได้ที่จะลูบศีรษะของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู “ซวงเอ๋อร์ ฉันหายเหนื่อยแล้วล่ะ จริงสิ ฉันว่าจะพาเธอไปที่ ๆ หนึ่ง แล้วเราไปทานมื้อเย็นข้างนอก ฉันจะทำอาหารให้เธอทานเอง ดีไหม?”
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงรีบถามอย่างสงสัย “ที่ไหนหรือคะ?”
“เดี๋ยวไปถึงก็รู้เอง”
โม่เจ๋อหยวนกล่าวอย่างเจ้าเล่ห์ เขาจับมือถังซวงพร้อมยิ้มกว้าง “ยังไงฉันก็ไม่ปล่อยให้เธอหิวหรอก”
“ค่ะ อย่างนั้นฉันไปบอกแม่ก่อนนะ แล้วค่อยไปกัน”
“ฉันไปด้วย”
เฮ่อหลานเห็นโม่เจ๋อหยวนตื่นแล้ว เธอยิ้มก่อนจะกล่าวทักทาย “เจ๋อหยวน หลับสบายไหมจ๊ะ?”
โม่เจ๋อหยวนเขินอายเล็กน้อย “ป้าหลาน หลับสบายมากเลยครับ รบกวนคุณป้าอีกแล้ว”
“ฮ่าฮ่า… ไม่ต้องกังวลหรอก เธอมาหาซวงเอ๋อร์ได้ตลอดเลยจ้ะ แค่นี้ฉันก็ดีใจแล้วล่ะ”
เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าเฮ่อหลาน โม่เจ๋อหยวนถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะพูดเรื่องที่เขาต้องการพาถังซวงออกไปทานอาหารนอกบ้าน
ซึ่งเฮ่อหลานไม่คัดค้านอะไร เธอเพียงโบกมือก่อนจะตอบว่า “จ้ะ ไปเถอะ”
หลังจากเฮ่อหลานตกลงแล้ว โม่เจ๋อหยวนพาถังซวงออกไป ทั้งสองมาหยุดยืนที่ลานเล็ก ๆ ทางตะวันออกของเมือง “ซวงเอ๋อร์ ที่นี่แหละ”
“ที่นี่คือที่ไหนหรือคะ?”
ถังซวงเดินตามโม่เจ๋อหยวนด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมื่อเปิดประตูลานออก หญิงสาวก็เห็นดอกไม้สีแดง สีเหลือง และสีชมพูตระการตาตรงหน้า พวกมันเบ่งบานราวกับกำลังกล่าวต้อนรับ ช่วยให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสีสันและมีชีวิตชีวามาก
“สวยจังเลย…”
เธอมองดอกไม้ในสวนและรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองดีขึ้นมาก
เมื่อเห็นถังซวงชอบ โม่เจ๋อหยวนยกยิ้มกว้างก่อนจะพูดขึ้นว่า “ดีแล้วที่เธอชอบ เข้าไปดูข้างในกัน”
ถังซวงเดินตามโม่เจ๋อหยวนเพื่อรับชมสวนด้านนอก และชมบรรยากาศด้านใน เธอเห็นว่าการตกแต่งภายในลานแห่งนี้ดูเรียบง่าย ให้ความอบอุ่น สบายตา สบายใจ
“ซวงเอ๋อร์ เธอคิดว่าที่นี่เป็นยังไงบ้าง?”
“ดีมากเลยค่ะ ตกแต่งสวยมาก”
ได้ยินอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “ดีใจจังที่เธอชอบ ฉันกลัวว่าเธอจะไม่ชอบซะแล้ว นี่ฉันออกแบบเองทั้งหมดเลยนะ”
ถังซวงเผยสีหน้าประหลาดใจ
“พี่โม่ออกแบบทั้งหมดนี้เลยหรือคะ?”
“ใช่”
โม่เจ๋อหยวนจับมือถังซวงอย่างเบามือ ก่อนจะวางพวงกุญแจลงบนมือของหญิงสาว “ฉันออกแบบสถานที่แห่งนี้ให้เธอโดยเฉพาะ จากวันนี้ไปลานเล็ก ๆ นี้จะเป็นของเธอ ถ้าว่างก็สามารถมาพักผ่อนที่นี่ได้ตลอดเลย” ขณะพูดอย่างนั้น เขาหยิบโฉนดของลานนี้ออกมาส่งให้ถังซวงด้วย
“ฉันจัดการเอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ลานนี้เป็นของเธอ”
ถังซวงไม่คิดมาก่อนว่าโม่เจ๋อหยวนจะเตรียมสิ่งนี้เอาไว้ “พี่โม่ ฉันก็มีบ้านของตัวเองแล้ว พี่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อซื้ออะไรแบบนี้เลย”
โม่เจ๋อหยวนส่ายหัวก่อนจะยิ้มกว้าง “สิ่งที่เธอมีอยู่มันก็เป็นของเธอ แต่นี่คือของขวัญจากฉัน มันไม่เหมือนกันนะ อีกอย่างลานนี้ฉันซื้อมันด้วยเงินของตัวเอง และต้องการให้เธอ ทั้งสวนและการตกแต่งภายในฉันออกแบบเองทั้งหมด ตอนนี้ฉันมีความสุขมากที่เธอชอบมัน”
เห็นท่าทางจริงจังของโม่เจ๋อหยวน ถังซวงอดไม่ได้ที่จะกุมมือเขาไว้ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พี่โม่ ขอบคุณนะคะ” สิ้นเสียง เธอเขย่งเท้าก่อนจะจูบแก้มของโม่เจ๋อหยวนอย่างแผ่วเบา
“…”
ราวกับมีดอกไม้ไฟระเบิดอยู่ในหัว ภาพทุกอย่างตรงหน้าพร่ามัวไปหมด ร่างกายของเขาแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น และเมื่อตระหนักได้ว่าถังซวงทำอะไรกับตนเอง ตอนนี้ถังซวงก็ถอยกลับไปซะแล้ว
“ซวงเอ๋อร์…”
ขณะพูดอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนใช้ความกล้าหาญทั้งหมดของเขาดึงร่างบางเข้ามาใกล้ ก่อนจะกล่าวอย่างแผ่วเบา “ซวงเอ๋อร์… ซวงเอ๋อร์ของฉัน…” ถ้อยคำสุดท้ายที่เลือนหายจากริมฝีปากคนทั้งสอง มันเปี่ยมด้วยความรักและความหลงใหล
“แฮ่ก…”
เพียงครู่เดียว ถังซวงรู้สึกว่าตนหายใจไม่ทัน เธอผลักโม่เจ๋อหยวนออกพร้อมรีบสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดทันที
โม่เจ๋อหยวนหอบหนักเช่นกัน เขารู้สึกว่าบรรยากาศโดยรอบงดงามราวกับอยู่ในฝัน ความใกล้ชิดเมื่อครู่นี้สวยงามเกินกว่าจินตนาการ และเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาฉวยโอกาสอย่างอุกอาจ จึงอยากจะพูดแก้ตัว “ซวงเอ๋อร์ ฉัน… ฉัน… เรา…”
เห็นโม่เจ๋อหยวนกล่าวติดขัดอย่างนั้น ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับพูดว่า “พี่โม่ทำไมพูดติดอ่างอย่างนั้นล่ะคะ?”
“ฉัน…”
เวลานี้โม่เจ๋อหยวนกำลังรู้สึกผิดมาก และเขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
ถังซวงหยุดเขาไว้ “พี่โม่ ฉันหิวแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้พี่บอกจะทำอาหารให้ฉันนี่?”
ได้ยินถ้อยคำของถังซวง สีหน้าของโม่เจ๋อหยวนกลับมาเป็นปกติ เวลานี้เขาพาถังซวงไปนั่งรอบนเก้าอี้ก่อนจะพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ นั่งพักตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวฉันไปเตรียมอาหาร”
เมื่อเห็นท่าทีกระวนกระวายของโม่เจ๋อหยวน ถังซวงก็มองเขาด้วยรอยยิ้ม
สิ่งที่โม่เจ๋อหยวนเตรียมไว้วันนี้คือปิ้งย่าง และไม่รู้ว่าเขาเตรียมส่วนผสมทั้งหมดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ลานทั้งหมดสว่างขึ้นด้วยเปลวไฟอบอุ่นจากเตา ประกอบกับบรรยากาศโดยรอบที่งดงาม การย่างกลายเป็นความโรแมนติกอย่างถึงที่สุด
“พี่โม่เตรียมทุกอย่างไว้แล้วจริง ๆ ด้วย”
เวลานี้โม่เจ๋อหยวนจุดไฟแล้วเริ่มนำไม้บาร์บีคิวขึ้นย่าง “ซวงเอ๋อร์ เดี๋ยวนั่งตรงนี้นะ มันพร้อมทานแล้วล่ะ”
“ค่า”
เพราะวันนี้อากาศไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ มันคล้ายกับทุกอย่างเป็นใจให้กับทั้งสองนั่งอย่างผ่อนคลายกันในสวนแห่งนี้