การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 355 สามกลุ่ม
บทที่ 355 สามกลุ่ม
บทที่ 355 สามกลุ่ม
เมื่อเห็นคนจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ถังซวงก้าวขาออกมายืนบังเกอชิงเหม่ยและถังเซวี่ยเอาไว้ทันที “พวกแกเป็นใคร? ต้องการอะไร?”
คนกลุ่มนั้นไม่ต่างอะไรจากกุ๊ยข้างถนน มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าไม่มีเจตนาดีแน่นอน
หัวหน้ากลุ่มของคนพวกนี้เป็นชายวัยกลางคน ที่นิ้วมือด้วนไปหนึ่งนิ้ว เขามองถังซวง ถังเซวี่ย และเกอชิงเหม่ยตรงหน้า ด้วยแววตาคุกคามน่ารังเกียจ “อิอิ ทั้งสามคนนี้สวยหมดเลยนี่ งั้นเดี๋ยววันนี้พวกเราจะสร้างความประทับใจให้พวกเธอไม่ลืมเลยล่ะ แล้วหลังจากเรามีความสุขกันพอแล้วก็ค่อยแยกย้ายกันนะจ๊ะ”
จากนั้นชายวัยกลางคนโบกมือออกคำสั่ง “พวกแก จัดการกับผู้หญิงอายุมากสุดก่อน แต่อย่าลืมน้องสาวด้านหลังทั้งสองคนล่ะ”
“ได้เลยครับลูกพี่”
ลูกน้องที่ติดตามมาด้านหลังเผยแววตาหื่นกามเช่นเดียวกับผู้เป็นหัวโจก ใบหน้าพวกมันตื่นเต้นราวกับไม่เคยพบเจอสาวงามเช่นทั้งสามคนมาก่อน แม้หญิงที่ดูมีอายุก็ยังดูไม่แก่เลย กลับน่าดึงดูดมากด้วยซ้ำ อีกทั้งยังมีสองสาวที่เพิ่งบานสะพรั่งมาด้วย โอกาสหายากที่เกิดได้ครั้งเดียวในชีวิตแบบนี้พวกเขาไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแน่
เมื่อเห็นกลุ่มคนตรงหน้าที่กำลังคุกคามพวกตน ใบหน้าของเกอชิงเหม่ยเคร่งเครียด
ไม่ว่าเธอจะรู้สึกหวาดกลัวแค่ไหน แต่เธอจะปล่อยให้ถังซวงและถังเซวี่ยเป็นอันตรายไม่ได้เด็ดขาด “ซวงเอ๋อร์ ป้ารู้ว่าทักษะการต่อสู้ของหนูยอดเยี่ยม ปกป้องเสี่ยวเซวี่ยเอาไว้ให้ได้ แล้วป้าจะคอยถ่วงเวลาพวกมันเอง รีบพาเสี่ยวเซวี่ยออกไปเร็วเข้า!” ขณะที่พูดอย่างนั้น เธอพยายามจะผลักถังซวงที่ยืนอยู่ด้านหน้าออกไป
ถังซวงรีบหยุดเกอชิงเหม่ยทันทีก่อนจะตอบกลับว่า “ป้าเกอคะ ป้ากับเสี่ยวเซวี่ยไปหาที่หลบก่อน เดี๋ยวหนูจะจัดการพวกมันเอง” จากนั้นเธอก็หันมองถังเซวี่ยแล้วถามว่า “เอาสิ่งนั้นติดตัวมาด้วยไหม?”
ถังเซวี่ยพยักหน้ารับอย่างร้อนรนก่อนจะตอบกลับว่า “ฉันเอามันมาด้วย ฉันจะปกป้องป้าเกอเอง” แม้เด็กสาวจะกังวล แต่ถังเซวี่ยพยายามสงบอารมณ์พร้อมจับมือเกอชิงเหม่ยแน่นแล้วลากเธอออกไปซ่อน
เห็นถังซวงต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายมากมายเพียงลำพัง เกอชิงเหม่ยจึงกล่าวกับถังเซวี่ยอย่างกังวล “เสี่ยวเซวี่ย ปล่อยซวงเอ๋อร์ไว้คนเดียวจะดีหรือ?”
ถังเซวี่ยเองก็กังวลไม่น้อย แต่เธอก็ยังเชื่อมั่นในถังซวง
“พี่สาวต้องไม่เป็นไรค่ะ”
ขณะทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ถังซวงเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ทุกย่างก้าวที่เธอข้ามผ่านมีคนล้มลงตามทาง และแม้ว่าชายฉกรรจ์ตรงหน้าจะดูแข็งแกร่งแต่ก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของถังซวงได้ พวกเขาทั้งหมดถูกจัดการในเวลาไม่ถึงห้านาที
จนเหลือชายนิ้วด้วนยืนอยู่เป็นคนสุดท้าย ถังซวงยกยิ้มมุมปากก่อนจะพูดว่า “ตอนนี้เหลือแกคนเดียวแล้ว…”
“เธอ… เธอเป็นใครกันแน่?”
ชายนิ้วด้วนที่เป็นหัวหน้ามองถังซวงด้วยความหวาดกลัว เขาค่อย ๆ ก้าวถอยหลัง คราวแรกเขาคิดว่างานวันนี้คงง่าย แต่ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงร่างบางคนนี้จะแข็งแกร่งจนเขารับมือไม่ไหว “อย่า… อย่าเข้ามานะ”
ถังซวงเกียจคร้านเกินกว่าจะพูด เธอก้าวไปด้านหน้าจะจับตัวอีกฝ่ายเพื่อสอบถามเรื่องราว แต่ทันใดนั้น เธอหยุดฝีเท้าก่อนจะวิ่งออกในทิศทางตรงกันข้ามแล้วตะโกนว่า “เสี่ยวเซวี่ย วิ่งเร็ว”
“อะ… อะไร…”
เมื่อเห็นถังซวงกำลังจัดการพวกนั้นสำเร็จ ถังเซวี่ยมีความสุขมาก เธอจึงไม่เข้าใจว่าพี่สาวของเธอบอกให้วิ่งทำไม? เวลานี้ร่างกายของเด็กสาวแข็งทื่ออยู่กับที่
เกอชิงเหม่ยที่ยืนอยู่ด้านหลังก็สับสนเช่นกัน เธอเห็นแล้วว่าถังซวงกำลังจะชนะคนพวกนั้นได้ ไม่เห็นมีเรื่องให้วิ่งเลย
แต่ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย ก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งกรูออกมา
คราวนี้เป็นผู้นำของพวกมันเป็นชายวัยกลางคนมีรอยแผลเป็นที่หางตา เขาจ้องมองถังเซวี่ยก่อนจะตะโกนว่า “จับเธอไว้”
“ครับ”
ชายที่ติดตามมาด้านหลังเป็นผู้ที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี พวกมันตรงเข้าหาถังเซวี่ยอย่างรวดเร็ว
ถังซวงเห็นสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว สีหน้าของเธอมืดครึ้มอย่างเห็นได้ชัด
คนเหล่านี้เทียบไม่ได้กับกลุ่มเมื่อครู่ พวกนี้ล้วนแต่มีฝีมือ และพวกมันรวดเร็วเกินกว่าเธอจะตามทัน แม้จะใช้กำลังทั้งหมดที่มีก็ตาม
เมื่อตระหนักได้อย่างนั้นถังซวงจึงตะโกนลั่น
“เหลิ่งตง…”
ในพริบตา… ร่างทั้งสามร่างกระโดดออกมาจากความมืด ชายสามคนที่คอยปกป้องถังซวงอย่างลับ ๆ พวกเขาหยุดยืนตรงหน้าของถังเซวี่ยและเกอชิงเหม่ย
“พวกแกเป็นใคร?”
ชายที่เป็นหัวหน้าไม่คิดว่าจะมีคนอื่นโผล่ออกมา วันนี้เป้าหมายของพวกเขาคือถังเซวี่ย และจะไม่ยอมให้มีอะไรมาทำพลาดเด็ดขาด จึงรีบออกคำสั่ง “ถ้าจับตัวได้แล้ว ถอยกลับทันที”
“ครับ”
ทั้งหมดรับคำสั่งทันที และรีบวิ่งไปด้านหน้า แต่ขณะที่กำลังเข้าใกล้ถังเซวี่ย พวกมันถูกหยุดไว้ด้วยเหลิ่งตงกับชายอีกสองคน
เมื่อเห็นเหลิ่งตงและคนอื่น ๆ หยุดพวกมันได้ ถังซวงถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นยังไม่หยุดและเข้าต่อสู้กับเหลิ่งตงอีกครั้ง เธอก็อดกังวลไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายดูจะมีฝีมืออยู่บ้าง ถังซวงในตอนนี้ไม่สนใจชายนิ้วด้วนอีกต่อไป เธอวิ่งตรงไปช่วยเหลือพวกเหลิ่งตงในทันที
“สหายถังซวง ปล่อยให้คนพวกนี้เป็นหน้าที่ผม คุณพาน้องสาวกับคนอื่นออกไปเร็วเถอะครับ”
เหลิ่งตงรู้สึกว่ากลุ่มคนตรงหน้าค่อนข้างตึงมือ และไม่รู้ว่าจะหยุดพวกมันไว้ได้หรือเปล่า แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือความปลอดภัยของถังซวง
ถังซวงชำเลืองมองเหลิ่งตงและอีกสองคน ในบรรดาสามคนนี้ เหลิ่งตงฝีมือดีที่สุด ส่วนอีกสองคนอ่อนแอกว่าเล็กน้อย แต่พวกเขาก็น่าจะพอรับมือได้ “จับพวกมันมาสอบสวน”
ถังซวงไม่คิดจะกลับออกไป
คนพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้าค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่เธอก็มีของสิ่งนั้นติดตัวมาเช่นกัน
มุมปากของถังซวงยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหยิบขวดแก้วออกมาจากอก ดึงจุกเปิดออก และสะบัดมันไปทางคนเหล่านั้นทันที
คนที่เป็นหัวหน้าเห็นว่าเธอกำลังทำอะไรบางอย่างก็ตะโกนลั่น “ถอย”
เสียดายที่เขาช้าเกินไป ลูกน้องหลายคนทรุดตัวลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
ชายเหล่านั้นหันมองถังซวงด้วยแววตาสับสน “เธอทำอะไร?”
“ไม่มีอะไรหรอก หลับให้สบายเถอะ ถือเสียว่าพักผ่อน”
เมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง ใบหน้าของเขาผ่อนคลายเล็กน้อย เขาพอจะรู้มาบ้างว่างานวันนี้ค่อนข้างยาก แต่เขาจะต้องจับกุมถังเซวี่ยให้ได้ “จับเธอให้ได้ แล้วรีบถอยเร็วเข้า” เวลานี้เขาจึงลุกขึ้นอีกครั้ง
“อืม… อึดดีเหมือนกันนะ”
เมื่อถังซวงกำลังจะจัดการกับคนตรงหน้านี้ เสียงเย็นชาดังขึ้นจากด้านหนึ่ง เธอหันไปมองและเห็นว่าทุกคนกำลังจับจ้องเธออย่างไม่วางตา
“ไปจับผู้หญิงชุดดำคนนั้นมา”
ถังซวงเป็นคนเดียวที่ใส่ชุดสีดำในวันนี้ ดังนั้น… เป้าหมายของพวกมันก็คือเธองั้นหรือ?
ถังซวงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เป้าหมายของอีกกลุ่มคือถังเซวี่ย และตอนนี้เธอก็ตกเป็นเป้าหมายด้วยเช่นกัน การที่กลุ่มคนเหล่านี้มารวมตัวกันเป็นเรื่องบังเอิญงั้นหรือ?
—————————————————-