การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 361 กลับบ้าน
บทที่ 361 กลับบ้าน
บทที่ 361 กลับบ้าน
โม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานวิ่งเข้ามา จนถังซวงและถังเซวี่ยประหลาดใจ
“พี่โม่ มาได้ยังไงคะ”
โม่เจ๋อหยวนไม่ตอบกลับ เพียงพุ่งตัวเข้าหาถังซวงแล้วกอดเธอไว้แน่น “ซวงเอ๋อร์… เธอปลอดภัย ดีจริง ๆ ที่เธอปลอดภัย”
ถังซวงอยากจะพูดบางอย่าง แต่เธอสัมผัสได้ถึงร่างกายสั่นสะท้านของโม่เจ๋อหยวนได้ จึงรีบกลืนทุกคำพูดลงคอแล้วยืนเงียบอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้โม่เจ๋อหยวนกอดเธอเอาไว้แน่น และลูบหลังของโม่เจ๋อหยวนเบา ๆ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พี่โม่คะ ฉันสบายดี ไม่เป็นไรเลย”
อีกด้านหนึ่ง เฟิงเยี่ยหานมองเห็นใบหน้าเปรอะเปื้อนของถังเซวี่ย ทั้งเส้นผมยังยุ่งเหยิง แววตาของเขาดูทุกข์ใจหม่นหมอง
“เสี่ยวเซวี่ย… ผมขอโทษ ทั้งหมดนี่เป็นเพราะผมเอง เรื่องพวกนี้ถึงได้เกิดขึ้นกับคุณ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังเซวี่ยมองเฟิงเยี่ยหานด้วยความสับสนก่อนจะถามออกไปว่า “ทำไมถึงต้องขอโทษฉันล่ะ? แล้วเรื่องพวกนี้เกี่ยวข้องกับคุณได้ยังไงกัน?”
เฟิงเยี่ยหานบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับทุกคนฟัง เกี่ยวกับซุนชิวหัวหน้ากลุ่มที่สองก่อนหน้านี้
“ซุนชิวเป็นคนของเฟิงเยี่ยหยง พวกเขาต้องการจับตัวคุณไปเพราะอยากใช้คุณต่อรองกับผม”
เพราะครั้งล่าสุดที่เขาถูกตามล่า เขากำจัดพี่น้องทุกคนทั้งหมดหลังจบเรื่องราว คนพวกนั้นถูกส่งไปยังพื้นที่ห่างไกล ไม่สามารถกลับมาได้
อย่างไรก็ตาม เฟิงเยี่ยหยงไม่ได้ถูกกำจัดเพราะเขาคือลูกชายคนโปรดของพ่อ อีกทั้งคราวนี้หมอนั่นยังสามารถหลบหนีไปตั้งหลักได้ การที่เฟิงเยี่ยหยงกล้าลงมือจัดการกับเสี่ยวเซวี่ย ดังนั้นหนทางเดียวที่เขาจะหยุดยั้งอีกฝ่ายคือการสังหารเฟิงเยี่ยหยง ทุกอย่างก็จะจบ
ถังเซวี่ยได้ฟังเฟิงเยี่ยหานแล้ว เธอจึงเข้าใจเรื่องราวทันที
“ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเป้าหมายของพวกมันเป็นฉัน ทั้งหมดเป็นเพราะคุณนี่เอง” ใบหน้าของเธอดูหงุดหงิดเล็กน้อย
“ใคร ๆ ก็บอกให้ฉันอยู่ห่างจากคุณเอาไว้ และพวกเขาพูดถูก ดูสิ ฉันช่วยคุณไว้ตั้งหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็เป็นคุณที่ทำร้ายฉันอยู่ตลอด”
ใจของเฟิงเยี่ยหานบีบรัด
เขาไม่สามารถโต้แย้งข้อเท็จจริงเหล่านี้ได้ เพราะทุกสิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง เป็นเพราะเขาที่ทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย
“เสี่ยวเซวี่ย ผมขอโทษ”
ถังเซวี่ยเข้าใจดีว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของเฟิงเยี่ยหาน แต่เพราะเธอกำลังโกรธจึงพูดออกไปอย่างนั้น คนที่ผิดคือเฟิงเยี่ยหยง แต่เธอก็อดต่อว่าเฟิงเยี่ยหานไม่ได้
เฟิงเยี่ยหานไม่ได้พูดอะไร เพียงยืนนิ่งและปล่อยให้ถังเซวี่ยดุด่าเขาตามใจชอบ
เหล่าลูกน้องที่เข้าเมืองหลวงพร้อมกับเฟิงเยี่ยหานต่างจ้องมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง
สำหรับพวกเขา เฟิงเยี่ยหานเป็นคนเย็นชาและโหดเหี้ยม ไม่เคยแยแสผู้ใด ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้เขาได้ ทว่าสำหรับเด็กสาวตัวน้อยตรงหน้า เฟิงเยี่ยหานไม่เพียงแต่กล่าวขอโทษ แต่ยังยอมให้เธอดุด่าโดยไม่โต้เถียงอะไร นายน้อยเฟิงคนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปาก นี่คือนายน้อยเฟิงที่พวกเขารู้จักจริง ๆ หรือ?
แม้ทุกคนจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง แต่เฟิงเยี่ยหานก็ยืนให้ถังเซวี่ยดุด่าอยู่อย่างนั้น ด้วยความรู้สึกผิดจากก้นบึ้งของหัวใจ
อีกด้านหนึ่ง ถังซวงรู้สึกหายใจไม่ออกจากการถูกโม่เจ๋อหยวนกอดรัดแน่น เธอตบหลังของโม่เจ๋อหยวนเบา ๆ “นี่พี่โม่ ถ้าพี่กอดฉันแน่นแบบนี้แผลของฉันมันจะปริเอานะ”
ไม่ว่าเธอจะเก่งกาจแค่ไหน แต่ชายหัวโล้นก็แข็งแกร่งมาก เธอจึงได้รับบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย
โม่เจ๋อหยวนได้ยินอย่างนั้นก็รีบปล่อยมือทันที เขาถามถังซวงด้วยน้ำเสียงกังวล “ซวงเอ๋อร์ เธอบาดเจ็บตรงไหนหรือ?”
“นิดหน่อยค่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตอนนี้พวกเรากลับกันก่อนเถอะ”
“ได้ ๆ งั้นกลับบ้านกันนะ”
แน่นอนว่าความสนใจของโม่เจ๋อหยวนในเวลานี้คือถังซวง และเมื่อได้พบเธอ เขาต้องการพาเธอกลับทันที
ทว่าสายตาของชายหยุ่มพลันเหลือบไปมองกองเพลิงที่กำลังลุกท่วมด้านหลัง จึงอดไม่ได้ที่จะถาม “ซวงเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นหลังจากเธอถูกพาตัวมาที่นี่หรือ?”
“คนพวกนี้มีระเบิดอยู่ในรถของพวกมัน ฉันกับเสี่ยวเซวี่ยไปเจอมันเข้า เลยลอบเก็บไว้กับตัว เพื่อไว้ป้องกันตัว แต่พวกมัน… ต้องการข่มเหงเสี่ยวเซวี่ยต่อหน้าฉัน ฉันเลยระเบิดพวกมันทิ้งค่ะ”
“อะไรนะ…”
ใบหน้าของโม่เจ๋อหยวนกลายเป็นมืดมนและเย็นชา “พวกมันสมควรตาย”
เฟิงเยี่ยหานได้ยินเช่นกัน สีหน้าของเขาชาวาบด้วยความโกรธ รีบหันกลับมาหาเสี่ยวเซวี่ยพร้อมพลิกร่างกายของเธอไปมา “เสี่ยวเซวี่ย คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร ฉันสบายดี เพราะพี่สาวอยู่ด้วย ฉันเลยรอดมาได้น่ะ”
ถังเซวี่ยพูดอย่างภูมิใจ แต่เมื่อตระหนักได้ว่าวันนี้เธอเพิ่งฆ่าคนตาย ก็กังวลขึ้นมา “แต่… วันนี้ฉันฆ่าคน กลับไปฉันจะติดคุกไหม?”
เฟิงเยี่ยหานรีบปลอบโยน “เสี่ยวเซวี่ย คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก คุณจะไม่เป็นอะไรแน่นอน”
โม่เจ๋อหยวนที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวขึ้นด้วยเช่นกัน “ใช่ เธอไม่ติดคุกแน่นอน คนพวกนี้เป็นคนเลว สิ่งที่เธอทำคือการช่วยชีวิตคนอื่น ๆ ในอนาคต อย่าไปคิดมากเลย”
ได้ยินโม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานพูด ถังเซวี่ยโล่งใจขึ้นมาก
และถังซวงก็พูดขึ้น “เราไปจากที่นี่กันเถอะ”
“อื้ม ไปกันเถอะ เรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยคุยทีหลัง”
โม่เจ๋อหยวนสั่งคนให้เก็บกวาดที่นี่ แล้วพาถังซวงกับคนอื่น ๆ กลับไป แน่นอนว่าคนที่กลับนี้มีเฟิงเยี่ยหานด้วย
ถังเซวี่ยไม่อยากอยู่ใกล้เฟิงเยี่ยหานอีก แต่เมื่อเห็นใบหน้าไม่ยินยอมและกังวลของเขา เธอก็พูดไม่ออก เพราะยังไงเขาก็อยู่ในทีมที่มาช่วยเหลือเธอ
ระหว่างทาง โม่เจ๋อหยวนเล่าให้ถังซวงฟังอย่างกระชับว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเธอถูกจับตัวไป
“พี่โม่ ฉันทำให้พี่เดือดร้อน”
โม่เจ๋อหยวนส่ายศีรษะ “สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของเธอ”
ตอนนี้ถังซวงนึกถึงเฮ่อหลานขึ้นมา ก่อนจะถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ฉันเป็นห่วงแม่ค่ะ ถ้าแม่รู้เรื่องนี้มันจะส่งผลกระทบต่อเด็กในท้องแน่”
โม่เจ๋อหยวนรีบตอบกลับ “ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องกังวลนะ ป้าหลานยังไม่รู้เรื่องนี้ พวกเราทุกคนพยายามหลีกเลี่ยงไม่พูดเรื่องนี้กับเธอ”
“อย่างนั้นก็ดีแล้วค่ะ”
ถังซวงโล่งใจ ตอนนี้มันก็ดึกแล้ว เธอจึงผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
โม่เจ๋อหยวนสัมผัสแก้มของเธออย่างแผ่วเบา ในดวงตาคู่นั้นของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทำได้เพียงคลุมเสื้อให้เธอคลายความหนาวเย็น
ถังเซวี่ยที่อยู่อีกด้านก็หลับไปด้วยเช่นกัน วันนี้เกิดเรื่องราวมากมายจนเธอหมดแรงเสียแล้ว
โม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานต่างมองหน้ากัน ก่อนจะนั่งเคียงข้างสองพี่น้องอย่างมั่นคง
ถังซวงตื่นขึ้นเมื่อมาถึงเมืองหลวง เธอยังสะลึมสะลือเล็กน้อย แต่หลังจากฟื้นคืนสติกลับมาได้ เธอเห็นท้องฟ้าที่สว่างไสว จึงตระหนักได้ว่านี่คือรุ่งเช้าแล้ว
“พี่โม่ เราควรไปที่กรมตำรวจไหมคะ เราควรไปรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น”
โม่เจ๋อหยวนพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันก่อน แล้วค่อยไปที่กรมตำรวจทีหลัง ความจริงแล้วหลังจากเกิดเรื่องเมื่อวาน ลุงจิงเข้าพบผู้อำนวยการตู้แล้วล่ะ”
“งั้นเราไปกินข้าวกันก่อน”
ทั้งหมดไปที่ร้านอาหาร และรับประทานมื้อเช้าง่าย ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าสู่กรมตำรวจ
ตู้หรงหมิงถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าทั้งสองสาวกลับมาแล้ว
เมื่อวานนี้ ตระกูลโม่และตระกูลจิงเกือบจะทำให้เมืองหลวงลุกเป็นไฟเพื่อตามหาลูกสาวและลูกสะใภ้ของพวกเขา โชคดีจริง ๆ ที่ทั้งสองกลับมาอย่างปลอดภัย “สาวน้อย พวกเราทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว ผมดีใจมากที่คุณหนูทั้งสองคนกลับมาอย่างปลอดภัย”
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงยกยิ้มก่อนจะตอบกลับ “ขอบคุณค่ะผู้อำนวยการตู้”
หลังเกอชิงเหม่ยและจิงเจ้อหรงได้รับทราบเรื่องนี้ ทั้งสองรีบเดินทางมาทันที
เมื่อเห็นถังซวงและถังเซวี่ย เกอชิงเหม่ยก้าวไปหาหลานทั้งสองและกอดพวกเธอไว้อย่างเป็นห่วง “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ดีจริง ๆ ที่พวกเธอกลับมา ดีจริง ๆ ฮือ ฮือ…”