การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 362 ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ
บทที่ 362 ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ
บทที่ 362 ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ
เกอชิงเหม่ยรู้สึกผิดและยังกังวล ถังซวงกับถังเซวี่ยเห็นอย่างนั้นจึงรีบกล่าวปลอบทันที “ป้าเกอคะ พวกเราไม่เป็นไรค่ะ ป้าไม่ต้องคิดมากแล้วนะ”
เกอชิงเหม่ยร่ำไห้อยู่นานกว่าจะสงบ แต่เธอยังสำรวจถังซวงและถังเซวี่ยอย่างละเอียดก่อนจะพบว่าทั้งสองคนสบายดี
“ป้าดีใจมากที่เธอสองคนสบายดี ไม่อย่างนั้นป้าคงโทษตัวเองไปตลอดชีวิตแน่”
“ป้าเกอคะ พี่เก่งอยู่แล้ว คุณป้าไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ”
ถังเซวี่ยเดินไปหาเกอชิงเหม่ยก่อนจะปลอบโยนอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้จิงเจ้อหรงเดินเข้ามาหาลูกทั้งสอง เขามองถังซวงและถังเซวี่ยด้วยใบหน้าผ่อนคลายก่อนจะพูดขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ดีแล้วที่ลูกปลอดภัย แต่เรื่องนี้พ่อจะไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด ช่วงนี้ห้ามลูกอยู่คนเดียว เดี๋ยวพ่อจะไปตรวจสอบเองว่าใครกันที่อยู่เบื้องหลังการจับตัวพวกลูกสองคน”
พูดจบ จิงเจ้อหรงอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองโม่เจ๋อหยวน “เจ๋อหยวน คนกลุ่มสุดท้ายอยู่ที่ไหน? แล้วจับพวกมันได้หรือยัง?”
เวลานี้คนกลุ่มที่หนึ่งและสองถูกจับกุมทั้งหมดแล้ว ส่วนคนกลุ่มสุดท้ายยังจับกุมไม่ได้
โม่เจ๋อหยวนเดินเข้าหาจิงเจ้อหรงก่อนจะกระซิบบางอย่างกับเขา
จิงเจ้อหรงสั่นสะท้านเมื่อได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาก็เห็นด้วยกับโม่เจ๋อหยวน คนพวกนั้นสมควรตาย มันถูกต้องแล้ว และเรื่องทั้งหมดนี้ทั้งถังซวงและถังเซวี่ยไม่มีความผิดใด ๆ
“อืม ฉันเข้าใจแล้ว ไว้ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้า “ครับ รบกวนลุงจิงด้วยนะครับ”
ตู้หรงหมิงที่อยู่ใกล้เห็นว่าจิงเจ้อหรงพูดคุยกับคนอื่น ๆ เสร็จแล้ว เขายิ้มกว้างก่อนจะหันมาพูดกับจิงเจ้อหรง “คุณชายสามครับ เวลานี้ลูกสาวของคุณปลอดภัยแล้ว พวกเราจะรีบดำเนินการในขั้นต่อไปให้เร็วที่สุดเลยครับ”
“ครับ”
จิงเจ้อหรงพาถังซวงและถังเซวี่ยไปลงบันทึกประจำวันด้วยตนเอง
เมื่อเห็นความกังวลใจของจิงเจ้อหรงที่ห่วงใยลูกสาวทั้งสอง ตู้หรงหมิงยิ่งเข้าใจว่าจิงเจ้อหรงให้ความสำคัญกับสองคนนี้มากขนาดไหน แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ถามอะไร มีใครคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาซะก่อน และเมื่อตู้หรงหมิงเห็น เขารีบลุกขึ้นยืนทันที “เลขาเฉิน รองเจียง พวกคุณมาที่นี่ได้ยังไงครับ? เกิดอะไรขึ้น?”
ทันทีที่เจียงหงเหลียงเห็นตู้หรงหมิง เขาพยักหน้าทักทายก่อนจะวิ่งเข้าหาถังซวงแล้วกล่าวอย่างกังวล “สหายถังซวง คุณปลอดภัยดีนะ ผมเป็นห่วงแทบแย่”
ถังซวงยิ้มตอบรับ “รองเจียง ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ ปลอดภัยดี”
“ดีแล้วล่ะครับ”
เฉินซิ่งเหวินที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นว่าถังซวงปลอดภัยดี เขารีบกล่าวเสริม “สหายถังซวง คราวนี้เป็นเพราะเหลิ่งตงและคนอื่น ๆ ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทำให้คุณต้องตกอยู่ในอันตราย แต่ผมดีใจมากที่คุณกลับมาอย่างปลอดภัย”
แต่ถังซวงรีบอธิบายทันที “เลขาเฉินคะ เหลิ่งตงกับคนอื่น ๆ ไม่ได้ละเลยหน้าที่ของตัวเอง แต่เพราะฉันสั่งพวกเขาเองค่ะ อย่าตำหนิเขาเลยนะคะ”
ได้ยินถังซวงพูดอย่างนั้นแล้ว เฉินซิ่งเหวินนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยกยิ้มแล้วตอบกลับ “ครับ อย่างนั้นผมเชื่อสหายถังซวง”
หลังจากพูดคุยกับถังซวงแล้ว เฉินซิ่งเหวินและเจียงหงเหลียงหันมาทักทายจิงเจ้อหรง
ในตอนนี้ ตู้หรงหมิงยิ่งตกตะลึงกับสถานการณ์ตรงหน้า
สำหรับเจียงหงเหลียงนั้นเขาพอเข้าใจได้ แต่สำหรับเฉินซิ่งเหวินที่เป็นถึงเลขาของผู้บังคับบัญชาจู ปกติแล้วเขาไม่สนใจจิงเจ้อหรงด้วยซ้ำ แต่พวกเขาเคารพถังซวงมากขนาดนี้
และทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลจิงสักนิด
เพราะเฉินซิ่งเหวินไม่ได้สนใจจิงเจ้อหรงเลย จนกระทั่งเขาพูดคุยกับถังซวงเสร็จสิ้น ถังซวงคนนี้มีสถานะอะไรกันแน่ ทำไมเลขาของผู้บังคับบัญชาจูถึงให้ความสำคัญนัก
แต่ก่อนที่ตู้หรงหมิงจะคิดไปไกล เขารีบถามความเห็นจากเฉินซิ่งเหวินทันที
“เลขาเฉินอยากให้ผมจัดการเรื่องนี้ยังไง สามารถออกคำสั่งได้เลยครับ”
เฉินซิ่งเหวินชำเลืองมองตู้หรงหมิงก่อนจะพูดว่า “เรื่องการจับตัวสหายถังซวงและน้องสาวจะต้องสอบสวนอย่างละเอียด ผมหวังว่าคุณจะหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด อ้อและนี่… คือสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาจูฝากมา”
“ครับ ผมจะสืบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
เหงื่อเย็นเฉียบไหลออกจากหน้าผากของตู้หรงหมิง เหตุการณ์นี้ถึงกับสะกิดให้ผู้บังคับบัญชาจูเคลื่อนไหวได้เชียว ฟังสิ่งที่เฉินซิ่งเหวินพูดออกมา ดูเหมือนว่าผู้บังคับบัญชาจูจะให้ความสำคัญกับถังซวงมาก แล้วยังสนิทสนมเป็นการส่วนตัวอีกด้วย
การที่ถังซวงและถังเซวี่ยถูกจับตัวไปไม่เพียงแต่ทำให้ตระกูลจิงและตระกูลโม่เคลื่อนไหว แต่เวลานี้แม้แต่ผู้บังคับบัญชาจูก็ยังตื่นตระหนกตามไปด้วย หากเขาไม่สามารถสืบหาความจริงเรื่องนี้ ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเก้าอี้ของตัวเอง
เฉินซิ่งเหวินพยักหน้าหลังได้ยินคำตอบของตู้หรงหมิง ก่อนจะพูดเสริม “สืบให้ดีล่ะ”
เห็นผู้บังคับบัญชาจูให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก จิงเจ้อหรงแสดงความขอบคุณเฉินซิ่งเหวินอย่างจริงใจ
“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยจากผู้บังคับบัญชาจูด้วยนะครับ ในอนาคตพวกเราจะปกป้องซวงเอ๋อร์ให้ดี และไม่ปล่อยให้เธอต้องตกอยู่ในอันตรายอีก”
เฉินซิ่งเหวินพยักหน้าให้จิงเจ้อหรง ก่อนจะพูดต่อว่า “เอาล่ะ คุณจิงไปจัดการเรื่องที่สมควรเถอะครับ สำหรับผู้บังคับบัญชาจู เขาจะส่งคนมาคุ้มครองสหายซวงเอ๋อร์เช่นเดิม”
“เลขาเฉินคะ จะเป็นเหลิ่งตงกับคนอื่น ๆ เหมือนเดิมได้ไหมคะ?”
เฉินซิ่งเหวินไม่ตอบถังซวง เพียงพยักหน้า “ครับ ผมจะบอกเรื่องนี้กับผู้บังคับบัญชาจู”
ได้ยินอย่างนั้น ตู้หรงหมิงยิ่งสับสน เขาไม่เข้าใจอะไรเลย ทำไมผู้บังคับบัญชาจูต้องส่งคนมาปกป้องถังซวงด้วย และก่อนหน้านี้ยังมีคนปกป้องถังซวงอยู่แล้วงั้นหรือ?
ขณะที่ตู้หรงหมิงกำลังสับสน เขาสังเกตเห็นสายตาเฉียบคมที่จ้องมองมา
เมื่อกลับมามีสติ เขาจึงเห็นว่าเป็นเฉินซิ่งเหวิน
เฉินซิ่งเหวินยกยิ้มเล็กน้อย แต่คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “คุณตู้ ผมหวังว่าเรื่องราวทั้งหมดที่คุณได้รับทราบในวันนี้จะไม่แพร่กระจายออกไปนะครับ ไม่อย่างนั้น… ต่อให้เป็นผมก็คงบอกไม่ได้ว่าคุณจะต้องเจอกับอะไร”
ตู้หรงหมิงรีบพยักหน้าก่อนจะตอบรับว่า “เลขาเฉินไม่ต้องกังวล ผมจะปิดปากเงียบเลยครับ”
เห็นความมั่นคงในแววตาของตู้หรงหมิงแล้ว เฉินซิ่งเหวินไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาหันกลับไปหาถังซวง “สหายถังซวง ผมจะกลับไปรายงานผู้บังคับบัญชาจูว่าคุณปลอดภัยแล้ว ตั้งแต่เขาได้รู้ข่าวว่าคุณถูกจับ ท่านนอนไม่หลับเลยล่ะครับ”
“เลขาเฉินรีบไปเถอะค่ะ ไว้อีกสักพักฉันจะไปเยี่ยมท่านด้วยตนเอง”
“ครับ นายท่านต้องดีใจมากแน่ถ้าได้รู้ว่าสหายถังซวงจะเข้าพบ”
เฉินซิ่งเหวินพูดอีกสองสามคำ ก่อนจะออกไปพร้อมกับเจียงหงเหลียง
หลังจากนั้นตู้หรงหมิงถามถึงสถานการณ์อย่างรวบรัด ทันทีที่เขาทราบว่าคนที่จับกุมตัวถังซวงและถังเซวี่ยไปทั้งหมดตายแล้ว ถึงจะประหลาดใจไม่น้อย แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีกนอกจากลงบันทึกประจำวันไว้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
จิงเจ้อหรงกำลังจะพาทั้งสองคนกลับบ้านหลังจากลงบันทึกเสร็จแล้ว
ทันทีที่ทั้งสามเดินออกมา พวกเขาเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหานยืนรออยู่ด้วยกัน
จิงเจ้อหรงมองเฟิงเยี่ยหานด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะหันมองโม่เจ๋อหยวน “เจ๋อหยวน พวกเรากำลังจะกลับบ้าน เธอก็รีบกลับไปพักผ่อนได้แล้วล่ะ”
โม่เจ๋อหยวนส่ายศีรษะ “ลุงจิงครับ ผมไม่เหนื่อย ผมจะไปส่งคุณกลับบ้านด้วยครับ”
จิงเจ้อหรงพยักหน้ารับเมื่อเห็นท่าทางกังวลใจของโม่เจ๋อหยวน “อืม”
ส่วนเฟิงเยี่ยหานที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวขึ้นบ้าง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร จิงเจ้อหรงกลับเดินผ่านเขาไปอย่างไม่ไยดี เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายโทษเขาที่ทำให้เสี่ยวเซวี่ยตกอยู่ในอันตราย จึงทำได้เพียงเอ่ยปากเสียงแผ่ว “คุณชายจิง ผมจะจัดการเรื่องของซุนชิวให้เรียบร้อย และจะไม่ให้เสี่ยวเซวี่ยต้องเป็นอันตรายอีกครับ”
จิงเจ้อหรงเหลือบมองเฟิงเยี่ยหาน
“เรื่องภายในครอบครัวของคุณชายเฟิงก็สมควรแล้วที่คุณชายเฟิงต้องจัดการ พวกเราคงไม่สะดวกเข้าไปยุ่งเกี่ยว และผมหวังว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต” หลังพูดจบเขาพาถังซวงและถังเซวี่ยออกไปทันที