การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 363 รู้อะไรบ้าง
บทที่ 363 รู้อะไรบ้าง
เฟิงเยี่ยหานเฝ้ามองทุกคนจากไปด้วยสีหน้าโดดเดี่ยวและรู้สึกผิด
แต่ไม่นานเขาก็เป็นปกติ ใบหน้านั้นกลับกลายเป็นเย็นชาแล้วจากไปพร้อมกับคนของตน เวลานี้เขามีหลายสิ่งต้องจัดการ และยังต้องสืบสวนว่ามีใครคอยให้ความช่วยเหลือเฟิงเยี่ยหยงอีกหรือไม่
อีกด้านหนึ่ง ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหันมองจิงเจ้อหรงก่อนจะถามว่า “พ่อคะ คนทั้งสามกลุ่มในวันนั้น กลุ่มที่สองถูกส่งมาโดยเฟิงเยี่ยหยง แล้วกลุ่มแรกล่ะคะ?”
“อืม พ่อได้เบาะแสพวกนั้นมาแล้ว กลุ่มแรกเป็นแค่พวกนักเลง เป้าหมายของมันคือพี่เกอ พวกมันยอมรับสารภาพว่ามีคนจ้างวานให้ไปจับกุมตัวพี่เกอแล้วสั่งสอนหล่อน”
แววตาของถังซวงเย็นชาลงทันที
“อืม คนกลุ่มแรกมีเป้าหมายเป็นป้าเกอ กลุ่มที่สองมีเป้าหมายเป็นเสี่ยวเซวี่ย และกลุ่มสุดท้ายคือตัวหนูเอง คนพวกนี้รู้ว่าหนูมียา พวกมันเลยเตรียมตัวมาป้องกันเป็นอย่างดี และบางทีคนพวกนั้นอาจจะรู้แล้วว่าเหลิ่งตงกับคนอื่น ๆ คอยปกป้องหนูอยู่ พวกมันเลยรอจนกระทั่งสองกลุ่มแรกปรากฏตัวแล้วค่อยออกมาตลบหลัง”
“กลุ่มที่สามมีเบื้องหลังที่คาดเดาไม่ได้ พวกมันวางแผนกันมาอย่างดีและจะจับตัวหนูให้ได้” ถังซวงอยากรู้มากว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้
จิงเจ้อหรงพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่ เป้าหมายที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นลูก พวกคนกลุ่มแรก ๆ เป็นเพียงตัวล่อเพื่อให้เหลิ่งตงและคนอื่น ๆ ออกมาเท่านั้น”
เวลานี้ จิงเจ้อหรงรู้สึกเสียใจกับเรื่องก่อนหน้า
“ความจริงพ่อควรให้เฟิงเยี่ยหานติดตามเรากลับมาด้วย และขอให้เขาช่วยตรวจสอบว่าทำไมคนพวกนั้นถึงต้องการจับกุมเสี่ยวเซวี่ย”
“พ่อคะ เฟิงเยี่ยหานคงยังไม่ได้ไปไหนไกลหรอกค่ะ ถ้ามีโอกาสเราค่อยบอกเขาก็ได้”
จิงเจ้อหรงพยักหน้า “อืม เดี๋ยวค่อยให้เขาตรวจสอบให้”
หลังจากนั้นทั้งสองหันกลับมาสนใจคนกลุ่มแรกอีกครั้ง “แล้วพ่อรู้ไหมว่าใครจ้างวานพวกนักเลงพวกนั้นมาทำร้ายป้าเกอ?”
“ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่อีกไม่นานหรอก พ่อกำลังตามหาตัวคนพวกนั้นอยู่ เรามีเบาะแสจากคำรับสารภาพของพวกมันแล้ว”
ขณะคุยกัน จิงเจ้อหรงบอกถังซวงและถังเซวี่ยว่าอย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป
“อาหลานยังไม่รู้เรื่องของลูกทั้งสองคน อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลยนะ”
ถังเซวี่ยเหลือบมองจิงเจ้อหรงก่อนจะตอบกลับ “ค่ะพ่อ เราจะไม่พูดแน่นอน แต่พ่อเองเถอะ อย่าหลุดปากนะคะ”
จิงเจ้อหรงถึงกับยกยิ้มและส่ายหัว
หลังจากที่ทุกคนกลับมาถึงบ้าน เฮ่อหลานเห็นพวกเขาก็รีบเดินเข้ามาถามไถ่ “พวกคุณไปไหนกันมา หายไปไหนตั้งแต่เช้าแน่ะ?”
“แม่คะ พวกเราไปออกกำลังกาย แม่ก็เลยไม่เห็นพวกเราไงคะ”
เฮ่อหลานชำเลืองมองจิงเจ้อหรงกับถังเซวี่ยอย่างสงสัย “แล้วทั้งสองคนก็ไปออกกำลังกายด้วยหรือ?”
“ใช่ค่ะ หนูไปออกกำลังกายกับพี่โม่ พอดีพ่อมาเจอพวกเรา เขาก็เลยไปด้วย จะได้แข็งแรงไง”
จิงเจ้อหรงพยักหน้าตอบรับทันที
“แล้วทำไมวันนี้ถึงออกไปนานจัง? อ้อ แล้วอาเจ้อ คุณไม่ไปทำงานหรือคะ?”
จิงเจ้อหรงมองดูเวลาและพบว่านี่สายแล้ว เขายกยิ้มก่อนจะตอบกลับ “อาหลาน วันนี้ผมมีเรื่องต้องจัดการน่ะเลยขอลาไว้ก่อน ไม่ต้องกังวลว่าผมจะไปทำงานสายหรอกครับ”
แต่เฮ่อหลานยังคงไม่เชื่อถือ เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป แต่โม่เจ๋อหยวนออกหน้ามาซะก่อน “ป้าหลานครับ พวกเราหิวมากเลย มีอะไรให้ทานบ้างครับ”
ได้ยินอย่างนั้นเฮ่อหลานลืมทุกสิ่งที่สงสัย ก่อนจะรีบพาทุกคนไปทานอาหารทันที
อีกด้านหนึ่ง หลังจากตู้หรงหมิงกลับมาถึงบ้าน เขาได้พบกับตู้จ้งเหว่ยโดยบังเอิญ
“จ้งเหว่ย แกนั่งโต๊ะเดียวกันกับถังซวงใช่ไหม? แกรู้อะไรเกี่ยวกับเธอบ้าง?”
ได้ยินคำถามของตู้หรงหมิง ตู้จ้งเหว่ยหันมองด้วยความสงสัยก่อนจะถามว่า “แล้วพ่อรู้มากแค่ไหนล่ะครับ?”
เห็นลูกชายตอบกลับไม่รู้เรื่อง ตู้หรงหมิงก็เริ่มเข้าใจบางอย่าง “ถังซวงรู้จักผู้อาวุโสจูด้วยหรือ? แกเคยได้ยินเธอพูดเรื่องนี้บ้างไหม?”
“ผู้อาวุโสจู?”
“อืม ก็ผู้บังคับบัญชาจูที่ทุกคนรู้จักนั่นแหละ”
ตู้จ้งเหว่ยขมวดคิ้วก่อนจะพูดต่อว่า “แล้วถังซวงจะไปรู้จักผู้อาวุโสจูได้ยังไงล่ะครับ?”
ทันทีที่ได้ยินว่าลูกชายตอบกลับอย่างนั้น ตู้หรงหมิงก็รู้แล้วว่าเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับถังซวงเลยจึงไม่ถามอะไรต่อ “อืม ช่างมันเถอะ แกไปอ่านหนังสือเถอะ”
ตู้จ้งเหว่ยยังไม่ยอมปล่อยให้ตู้หรงหมิงเดินออกไปง่าย ๆ “พ่อ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับถังซวงหรือเปล่า? ทำไมพ่อถึงถามแบบนี้ล่ะครับ?”
เดิมทีตู้หรงหมิงไม่อยากจะพูดอะไรมาก แต่เมื่อคิดว่าลูกชายของตนอยู่โต๊ะเดียวกันกับถังซวง และยังเคยไปที่บ้านตระกูลจิง เขาเลยอธิบายเรื่องราวคร่าว ๆ “เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความลับนะ”
ตู้จ้งเหว่ยยืนแข็งทื่ออยู่กับที่
“เกิดเรื่องขึ้นกับถังซวงและถังเซวี่ยสินะ ผมจะไปเยี่ยมพวกเธอ”
ตู้หรงหมิงพยักหน้าทันที “อืม แกควรจะไป ฉันจำได้ว่ามีอาหารเสริมสองสามกล่องอยู่ในบ้าน เอาไปให้พวกเขาด้วยล่ะ”
ตู้จ้งเหว่ยไม่คิดเหนียมอาย เขาตรงไปที่บ้านตระกูลจิงพร้อมกับกล่องอาหารเสริม
หลังจากตู้จ้งเหว่ยมาถึง ถังซวงก็ได้ทานอาหารเสร็จแล้ว อยู่ในลานบ้าน เธอให้ถังชุนหยานพันแผลให้เพื่อป้องกันไม่ให้แม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น เธอได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จึงรีบจัดการมันหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เธอประหลาดใจเมื่อเห็นว่าตู้จ้งเหว่ยมาที่นี่ “นายมาที่นี่ได้ยังไง?”
ตู้จ้งเหว่ยเห็นถังซวงได้รับบาดเจ็บ สีหน้าของเขาดูจะเป็นกังวล
“ถังซวง เธอเป็นยังไงบ้าง? บาดเจ็บมากหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก แค่ถลอกนิดหน่อยน่ะ”
ถังชุนหยานเพิ่งจะพันแผลเสร็จ เธอเห็นความกังวลของตู้จ้งเหว่ยแล้วจึงพูดว่า “ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ พี่ถังซวงแค่มีรอยถลอกตามผิวหนังเล็กน้อย ไม่มีอะไรต้องกังวล อีกอย่างพี่ถังซวงมียาดี แค่ทาลงไปแผลก็จะหายทันที”
ได้ยินถังชุนหยานยืนยันอย่างนั้น ตู้จ้งเหว่ยจึงไม่ถามอะไรต่อ
ส่วนโม่เจ๋อหยวนที่ยืนอยู่ จึงเดินเข้าไปหาถังซวงแล้วหันมองตู้จ้งเหว่ยด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณเพื่อนร่วมชั้นตู้ที่ห่วงใยซวงเอ๋อร์นะ แต่ตอนนี้เธอไม่เป็นไรแล้ว”
ตู้จ้งเหว่ยยิ้มรับ “ดีแล้วล่ะ แล้วเสี่ยวเซวี่ยเป็นยังไงบ้าง?”
ถังชุนหยานพูดก่อนใคร “ไม่ต้องห่วง เสี่ยวเซวี่ยก็สบายดี เธอแค่เหนื่อยนิดหน่อยเลยหลับไปแล้วน่ะ”
ตู้จ้งเหว่ยชำเลืองมองถังชุนหยานก่อนจะตอบกลับอย่างช่วยไม่ได้ “อ่า อย่างนั้นก็ค่อยสบายใจ” หลังพูดอย่างนั้นเขาวางของที่นำมาด้วย “ถ้าพวกเธอสบายดี อย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ”
“ตู้จ้งเหว่ยขอบคุณที่เป็นห่วงพวกเรา กลับบ้านดี ๆ นะ”
ถังซวงก็ไม่รั้งอีกฝ่ายไว้ เพราะเวลานี้เธอเหนื่อยมากและต้องการพักผ่อน
แต่เป็นถังชุนหยานที่ยืนขึ้นก่อนจะพูดว่า “พี่สาวถังซวงพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งพี่ตู้เอง” เวลานี้โม่เจ๋อหยวนก็อยู่ที่นี่ด้วย เธอจึงไม่อยากจะเป็นก้างพวกเขาทั้งสองคน
ทั้งสองเดินตรงไปที่ประตูอย่างเชื่องช้า ถังชุนหยานหันมองตู้จ้งเหว่ยก่อนจะถามด้วยความกังวล “พี่มาที่นี่ได้พบป้าหลานไหม? พี่ไม่ได้พูดอะไรกับเธอใช่ไหม?” ถังชุนหยานเรียกเฮ่อหลานว่าป้าหลาน เป็นเพราะเมืองที่เธออยู่ก่อนหน้านี้ไม่เหมาะสมหากจะเรียกเช่นนั้น
แต่ตู้จ้งเหว่ยส่ายศีรษะ “ไม่”
“อ่า ดีแล้ว ตอนนี้ป้าหลานกำลังท้อง มันคงไม่ดีถ้าอารมณ์ถูกกระทบกระเทือน”
เมื่อถังชุนหยานส่งตู้จ้งเหว่ยเสร็จแล้ว เธอโบกมือลา “พี่ตู้ เดินทางดี ๆ นะคะ”
ตู้จ้งเหว่ยโบกมือให้ถังชุนหยานก่อนจะตอบกลับ “อืม กลับไปได้แล้ว เธอเองก็ยังไม่ได้พักเหมือนกันนี่”
ใช่ ถังชุนหยานยังไม่ได้พักผ่อนจริง ๆ พอเธอรู้เรื่องที่ถังซวงและถังเซวี่ยถูกจับไป เธอก็นอนไม่หลับตลอดทั้งคืน จึงอดไม่ได้ที่จะอ้าปากหาวก่อนคิดจะกลับไปนอนพักสักหน่อย
ถังซวงเองก็เช่นกัน เธอหันมองโม่เจ๋อหยวนแล้วพูดขึ้นว่า “พี่โม่ดูแลฉันมากพอแล้วล่ะค่ะ พี่กลับไปพักผ่อนสักหน่อยดีไหม?” เธอรู้ว่าโม่เจ๋อหยวนตามหาเธอกับถังเซวี่ยตลอดทั้งคืน และเขาก็ยังไม่ได้พักผ่อน
โม่เจ๋อหยวนส่ายศีรษะก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฉันไม่กลับ จะอยู่กับเธอที่นี่ก่อน”
เขากลัวซวงเอ๋อร์จะหายไปอีกครั้ง เขาอยากจะให้เธออยู่ในสายตาของเขาตลอดเวลา
พอเห็นความกังวลของโม่เจ๋อหยวน ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “พี่โม่ ฉันไม่เป็นไรแล้วจริง ๆ ค่ะ”
“ซวงเอ๋อร์… ฉันยังไม่เหนื่อย”
โม่เจ๋อหยวนยืนกราน จนถังซวงพูดไม่ออกเพียงบอกให้เขาไปพักผ่อนด้านนอก “ถ้าพี่โม่ยังไม่อยากกลับบ้าน อย่างนั้นก็พักที่นี่แล้วกันค่ะ”
“อืม”
โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ถังซวงเหนื่อยมาก เธอหลับทันทีหลังจากพูดคุยกับโม่เจ๋อหยวนเสร็จ
โม่เจ๋อหยวนมองดูถังซวงที่หลับไปด้วยใบหน้าอ่อนโยน เขายังไม่ได้ออกไปพักผ่อน เพียงจ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ แบบนั้น
ถังซวงตื่นขึ้นมา เธอเห็นว่านี่หนึ่งทุ่มแล้ว แต่ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นนั่ง เธอกลับเห็นโม่เจ๋อหยวนหลับอยู่ที่ปลายเตียง
ทันทีที่ถังซวงลุกขึ้นนั่ง โม่เจ๋อหยวนกลับตื่นขึ้นมา เขามองถังซวงอย่างสะลึมสะลือก่อนจะเอ่ยปากถาม “ซวงเอ๋อร์ ตื่นแล้วหรือ? หิวไหม? เดี๋ยวฉันไปหาอะไรให้กินนะ”
“ค่ะ”
ทั้งสองเก็บที่นอนก่อนจะเดินออกไปห้องโถงด้านนอกด้วยกัน
ทันทีที่เห็นว่าลูกสาวคนโตกับโม่เจ๋อหยวนเดินออกมาด้วยกัน เฮ่อหลานแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เธอรีบเรียกให้ทั้งสองมารับประทานมื้อเย็นทันที
“ซวงเอ๋อร์ เจ๋อหยวน เพราะเธอสองคนหลับอยู่เลยพลาดมื้อเย็นไป แต่ไม่เป็นไร มากินข้าวเถอะจ้ะ”
ทันทีที่พูดจบ เธอถามอย่างเป็นกังวล “ทำไมวันนี้สองคนถึงหลับสนิทขนาดนั้นล่ะ? นี่มันเวลากลางวันนะจ๊ะ? เสี่ยวเซวี่ยก็ยังไม่ตื่น ส่วนชุนหยานก็เพิ่งตื่นก่อนมื้อเย็นแป๊บเดียวเอง”
“เมื่อคืนพวกเรานอนดึกไปหน่อยค่ะแม่ วันนี้เลยง่วงมาก”
เฮ่อหลานรู้เพียงว่าทุกคนออกไปข้างนอกกับเกอชิงเหม่ย และไปพักผ่อนกันที่ลานบ้านแถวกู่โหลว
“แม่คะ หนูหิวแล้ว ขอกินข้าวก่อนนะคะ”
เห็นลูกสาวคนโตร้องว่าหิวข้าว เฮ่อหลานรีบกุลีกุจอเพื่อตักข้าวให้ทั้งสองคน “รีบกินเร็วเข้า คราวหน้าถ้ามันดึกแล้วก็รีบกลับบ้านนะ ที่กู่โหลวไม่มีคนอยู่แล้วมันไม่ปลอดภัย อีกอย่างถ้านอนทั้งวันแบบนี้ กลางคืนจะนอนไม่หลับเอานะจ๊ะ”
“ค่ะแม่”
ถังซวงยกยิ้ม
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เกอชิงเหม่ยเข้ามาเห็นว่าเฮ่อหลานนั่งอยู่ตรงนี้ด้วย เธอยกยิ้มก่อนจะพูดคุยกับอีกฝ่ายสักครู่หนึ่งก่อนจะหันมองถังซวง
ถังซวงเข้าใจทันที เธอพูดคุยกับแม่ต่อสักครู่ก่อนจะเดินตามเกอชิงเหม่ยไปที่ลานพร้อมกับโม่เจ๋อหยวน
“ป้าเกอ มีข่าวความคืบหน้าหรือคะ?”