การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 371 ฉินหรูเหมิ่งถูกพาตัวไป
บทที่ 371 ฉินหรูเหมิ่งถูกพาตัวไป
เวลานี้เป็นพ่อบ้านตระกูลฉินที่ไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้
“คุณหนูหรูเหมิ่งจะปล่อยให้นายท่านถูกพาตัวไปจริงหรือครับ? ถ้านายท่านต้องโทษสถานหนัก ตระกูลฉินจะล่มสลายไปด้วย คุณหนูคิดว่าในอนาคตตระกูลฉินจะสามารถยืนหยัดด้วยตนเองงั้นหรือครับ?” เขาคือชายที่ภักดีต่อผู้เฒ่าฉินตลอดทั้งชีวิต ภายในตระกูลฉิน มีเพียงชายชราผู้นี้เท่านั้นที่สำคัญและมีบทบาท ต่อให้ทุกคนในตระกูลรวมกันก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่าผู้เฒ่าฉิน แน่นอนว่าเขาไม่สามารถมองดูผู้เฒ่าฉินถูกพาตัวออกไปได้
แต่เมื่อพูดจบแล้ว ฉินหรูเหมิ่งยังลังเล พ่อบ้านตระกูลฉินจึงพูดต่อว่า
“ฉินหรูเหมิ่ง ถึงวันนี้คุณไม่คิดสารภาพผิดออกไป แล้วให้คุณปู่ของคุณรับผิดแทนทั้งหมด แต่คุณคิดว่าตัวเองจะสามารถอยู่อย่างปลอดภัยไหมครับ? ไม่ต้องพูดถึงตระกูลจิงและตระกูลโม่ที่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ตระกูลฉินที่เหลือก็ไม่ยอมปล่อยคุณไว้แน่นอนครับ เพราะถ้าไม่มีผู้เฒ่าฉินเป็นเสาหลัก ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ตระกูลฉินจะได้อยู่อย่างสุขสบายในเมืองหลวง สุดท้ายคุณจะถูกคนอื่น ๆ ในตระกูลฉินฉีกร่างทั้งเป็น”
เห็นใบหน้าลังเลและไม่ยินดีของฉินหรูเหมิ่ง ถังซวงยิ้มเย้ย
“หึ… ผู้หญิงอย่างเธอ ไม่คู่ควรกับพี่โม่สักนิดเดียว”
ได้ยินอย่างนั้น ฉินหรูเหมิ่งไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป
“ทั้งหมดก็เป็นเพราะแก ถ้าไม่ใช่เพราะแก พี่เจ๋อหยวนก็ต้องเป็นของฉันแล้ว เพราะแกที่จู่ ๆ ก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ไม่อย่างนั้นตระกูลฉินกับตระกูลโม่ก็คงแต่งงานรวมเป็นทองแผ่นเดียวกันไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้หรอก ทั้งหมดมันเป็นเพราะแกคนเดียว… เพราะแก! ทำไมไอ้หัวโล้นนั่นถึงจัดการแกไม่ได้ ไอ้ขยะพวกนั้นมันไร้ประโยชน์จริง ๆ ฉันให้เงินพวกมันไปตั้งเยอะ แต่พวกมันก็ยังทำไม่สำเร็จ”
สิ้นเสียง ฉินหรูเหมิ่งพุ่งเข้าหาถังซวงด้วยความเกรี้ยวกราด
“ไปตายซะ ตายซะ…”
ทันทีที่เห็นว่าฉินหรูเหมิ่งวิ่งเข้าหาถังซวง เฉินซิ่งเหวินคว้าอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะเหวี่ยงเธอลงพื้นอย่างไม่ยั้งมือ ส่วนถังซวงยังคงยืนที่เดิมไม่เคลื่อนไหว
“จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สำนึกผิดงั้นหรือ? แล้วยังคิดกล่าวโทษคนอื่นอีก? ทั้งหมดเป็นความผิดของคุณทั้งนั้น เลิกดื้อรั้นได้แล้ว”
ขณะพูดอย่างนั้น เฉินซิ่งเหวินหันมองผู้เฒ่าฉินแล้วพูดว่า “คุณฉินต้องการจะปกป้องหลานสาวคนนี้อีกไหมครับ? ต่อให้ครั้งนี้คุณปกป้องเธอ แล้วคุณจะรับประกันได้ไหมว่าเธอจะไม่ทำอย่างนี้อีก? คุณคิดว่าเธอจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้ไหมครับ?”
เห็นว่าผู้เฒ่าฉินยังคงเงียบ พ่อบ้านตระกูลฉินกล่าวออกทั้งน้ำตา “นายท่าน คุณทำงานหนักเพื่อตระกูลของเรามานานหลายปี คุณจะต้องกังวลเรื่องนี้ทำไมครับ? คุณจะปกป้องเธอไปจนแก่หรือครับ มันเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างคุณก็ไม่ใช่หนุ่มสาวนะครับ คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน เราไม่มีเวลาปกป้องเธอตลอดไปหรอกครับ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ใบหน้าของผู้เฒ่าฉินเต็มไปด้วยความหดหู่และสิ้นหวัง
เวลาเดียวกัน เขารู้สึกเสียใจที่ตนเองปกป้องครอบครัวมากเกินไป จนสมาชิกในครอบครัวไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และก่อเรื่องบานปลายในปัจจุบัน สุดท้ายแล้วเขาคงไม่สามารถยอมให้ตระกูลฉินต้องมารับผิดชอบเรื่องเหล่านี้ได้
เห็นผู้เฒ่าฉินเงียบไปอย่างนั้น เฉินซิ่งเหวินอดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า “ตอนนี้คุณฉินหรูเหมิ่งสารภาพผิดออกมาทั้งหมดแล้ว ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์ที่คุณจะรับผิดแทนเธอครับ”
ว่าจบ เฉินซิ่งเหวินส่งสัญญาณให้คนที่ติดตามพาตัวฉินหรูเหมิ่งออกไป
“ปล่อยฉัน ปล่อยฉันนะ!”
ฉินหรูเหมิ่งรู้สึกหวาดกลัวแล้วจริง ๆ เธอหันมองผู้เฒ่าฉินด้วยใบหน้าตื่นตระหนก “คุณปู่คะ ช่วยหนูด้วยค่ะ คุณปู่ช่วยหนูด้วย”
ได้ยินหลานสาวพูดอย่างนั้น ผู้เฒ่าฉินรู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
“หรูเหมิ่ง ทำไมถึงกล้าทำเรื่องแบบนั้น หลานไม่คิดว่าจะถูกจับได้ในสักวันหรือ?”
“คุณปู่คะ ช่วยหนูด้วย… หนูยังเด็ก หนูยังมีอนาคต หนูไม่อยากเข้าคุกไปอย่างนี้นะ”
คราวแรกฉินหรูเหมิ่งคิดว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลงอย่างราบรื่น เพราะกลุ่มชายหัวโล้นเก่งกาจมาก พวกเขาจะต้องจัดการถังซวงได้แน่นอน แต่ใครจะรู้ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องทั้งหมดจะจบลงอย่างนี้
“พาตัวไป”
สีหน้าของเฉินซิ่งเหวินเปล่งประกายเย็นชา เขาส่งสัญญาณให้พาตัวฉินหรูเหมิ่งออกไปทันที
เห็นอย่างนั้น ผู้เฒ่าฉินรีบหยุดทุกคนเอาไว้ก่อนจะพูดว่า “เลขาเฉิน ผมขอคุยกับหลานสาวสักสองสามคำนะครับ”
ถ้าฉินหรูเหมิ่งไม่สารภาพผิดออกไปด้วยตนเอง เขาก็คงสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดได้ แต่เพราะหลานสาวของเขาพูดทุกอย่างแล้ว เขาจึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้อีก
ได้ยินคำขอของผู้เฒ่าฉิน เฉินซิ่งเหวินหยุดฝีเท้าลง
“ครับคุณฉิน”
ผู้เฒ่าฉินเดินเข้าหาฉินหรูเหมิ่งก่อนจะจับจ้องเธอไว้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หรูเหมิ่ง ทุกคนต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ในเมื่อหลานกระทำมันลงไปแล้ว ก็ควรยอมรับผลที่จะตามมา ปู่หวังแค่ว่าหลานจะสำนึกผิด และหลุดพ้นจากอารมณ์แค้นเคืองพวกนี้ได้เสียที ยอมปล่อยวางเสียเถอะนะ”
เมื่อตระหนักได้ว่าปู่ของตนไม่ได้คิดช่วยเหลือ แต่กลับกล่าววาจาไร้สาระเหล่านี้ ใบหน้าของฉินหรูเหมิ่งบิดเบี้ยวน่าเกลียด
“คุณปู่หาว่าหนูไม่ปล่อยวางหรือ? หนูหรือที่เป็นคนไม่ปล่อยวาง? ทั้งหมดเป็นความผิดของพวกมัน เป็นพวกมันทั้งหมด”
ได้ยินหลานสาวตะโกนออกมาอย่างนั้น อีกทั้งยังชัดเจนว่าเธอไม่ยอมรับความผิด ผู้เฒ่าฉินไม่รู้จะพูดอะไรอีก
เฉินซิ่งเหวินเห็นว่าผู้เฒ่าฉินไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เขาจึงสั่งให้คนพาฉินหรูเหมิ่งออกไป
ถังซวงเองก็เดินติดตามไป แต่เธอหันกลับมามองผู้เฒ่าฉินก่อนจะจากไป