การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 387 ทันเวลา
บทที่ 387 ทันเวลา
ถังซวงประหลาดใจเมื่อได้ยินเรื่องที่โม่เจ๋อหยวนเล่า “ชุนหยานกำลังคบหากับใครหรือเปล่า เธอไม่ได้คุยเรื่องพวกนี้กับฉันเลย เอาไว้ฉันจะหาโอกาสถามเธอดูค่ะ”
“อืม”
หลังพูดคุยกันจบแล้ว ทั้งสองอ่านหนังสือต่อ
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ถังเซวี่ยกำลังอ่านหนังสืออย่างหนักเช่นกัน ขณะที่ถังชุนหยานกำลังทำเครื่องสำอางอยู่ ตอนนี้ถังซวงมีโรงงานของตัวเองในเมืองก่างเฉิงแล้ว สิ่งที่เธอทำที่นี่มีเพียงสร้างผลิตภัณฑ์ระดับสูงเท่านั้น เพราะการทำสิ่งเหล่านี้ด้วยมือมันให้ผลดีกว่ามาก
นอกจากนี้ เธอยังมีหน้าที่อีกหนึ่งอย่างคือทำชุดเครื่องสำอางที่ถังซวงใช้ในงานหมั้น เพื่อที่เธอจะได้สร้างรายได้ในอนาคตเพิ่มขึ้น อีกทั้งเวลานี้พี่สาวซวงสอนเธอแต่งหน้าแล้ว ดังนั้นถังชุนหยานจึงต้องพยายามอย่างหนัก
ขณะที่ถังชุนหยานกำลังทำงานอย่างหนัก ถังซวงมาพบเธอหลังจากอ่านหนังสือเสร็จ
เมื่อถังซวงเดินเข้ามา ถังชุนหยานยกยิ้มมีความสุข “พี่สาวซวง ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะคะ? ฉันกำลังจะไปหาพี่พอดี แต่เห็นว่าพี่เขยก็อยู่ที่นี่ด้วย ฉันเลยไม่อยากรบกวน”
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงอดไม่ได้ที่จะถาม “แล้วเธอจะไปหาฉันทำไมหรือ?”
ได้ยินอย่างนั้น ถังชุนหยานยกยิ้มจนแก้มปริ
เธอวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้ถังซวงแล้วกล่าวเสียงกระซิบ “พี่สาวซวง ฉันเจอเด็กคนหนึ่งเก่งมากเลยค่ะ เขาชื่อเคออวี๋หาง เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันในโรงเรียนกวดวิชาน่ะค่ะ”
ถังซวงเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินอย่างนั้น และคิดว่าเคออวี๋หางคนนี้คงเป็นเด็กผู้ชายที่โม่เจ๋อหยวนพูดถึง
“เธอกำลังคบกับเขาหรือ?”
ถังชุนหยานเขินอายทันทีเมื่อได้ยินคำถามนั้น แต่เธอยังคงส่ายศีรษะแล้วตอบไปว่า “ยัง… ยังหรอกค่ะ แต่… แต่เขาบอกว่าเขาชอบฉัน แล้วก็ถามฉันว่าอยากแต่งงานกับเขาไหม ฉัน… ยังไม่ได้ตอบเขาค่ะ ฉันอยากจะมาถามพี่สาวซวงก่อน”
ถังซวงไม่คาดคิดว่าถังชุนหยานจะเชื่อมั่นในตัวเธอมากขนาดนี้ เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า “จ้ะ ครั้งหน้าลองเชิญเขามารับประทานอาหารที่บ้านก็ได้ ฉันจะได้เจอเขาด้วย”
ถังชุนหยานพยักหน้าอย่างเร่งรีบก่อนจะตอบว่า “ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
แม้ถังซวงจะยินยอม แต่เมื่อนึกถึงสายตาของตู้จ้งเหว่ยที่ใช้มองถังชุนหยานเสมอมา เธออดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเบา ๆ
ดูเหมือนว่าตู้จ้งเหว่ยคงคิดไปเองฝ่ายเดียว แต่ถังซวงเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายนั้นมีอะไรที่ดึงดูดถังชุนหยานได้
“ชุนหยาน เธอรู้จักเคออวี๋หางดีแค่ไหน ครอบครัวเขาอยู่ที่ไหน อยู่กับใครบ้าง แล้วเขาเป็นคนยังไงหรือ?”
ถังชุนหยานบอกเล่าทุกอย่างที่เธอรู้เกี่ยวกับเขา
“พี่สาวซวง เคออวี๋หางเป็นเด็กจากชนบทค่ะ ฐานะครอบครัวของเขาไม่ได้ดีเท่าไหร่ แต่เขาก็มีความพยายามและปฏิบัติต่อฉันเป็นอย่างดี ตอนที่เขาบอกว่าเขาชอบฉัน ฉันยังตกใจจนไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ”
ถังซวงรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับเคออวี๋หางคนนี้เล็กน้อย
“เคออวี๋หางสูงเท่าไหร่ เขาหล่อไหม แล้วถ้าเทียบกับตู้จ้งเหว่ยใครหล่อกว่ากัน?”
ถังชุนหยานไม่คิดว่าถังซวงจะเปรียบเทียบเคออวี๋หางกับตู้จ้งเหว่ย เธอไม่ได้คิดอะไรมากก่อนจะตอบกลับอย่างสบาย ๆ “ถ้าเรื่องหน้าตา ตู้จ้งเหว่ยชนะอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าเป็นส่วนสูง ทั้งสองคนสูงเท่ากันค่ะ”
“แล้วทำไมเธอถึงชอบเคออวี๋หางล่ะ ตู้จ้งเหว่ยไม่ดีกว่าเขาหรือ?”
ได้ยินที่ถังซวงพูดแล้ว ถังชุนหยานรีบโบกไม้โบกมือทันที “พี่สาวซวง ฉันไม่กล้าจะคิดอย่างนั้นกับตู้จ้งเหว่ยหรอกค่ะ ถึงเขาจะน่าสงสาร แต่เขาก็มีพ่อมีแม่ที่เพียบพร้อม เทียบกับสาวบ้านนอกอย่างฉัน ครอบครัวเราสองคนแตกต่างอย่างกับฟ้ากับเหว ความสัมพันธ์ของเราควรเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกัน มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง และเป็นไปไม่ได้ค่ะ”
ถังซวงไม่คิดเลยว่าถังชุนหยานจะคิดอย่างนี้
“สถานการณ์ของเราสามคนแม่ลูกในตอนนั้นเลวร้ายกว่าเธอมาก แต่พ่อกับพี่โม่ก็ไม่คิดอะไร”
ถังชุนหยานยอมรับ “พี่สาวซวงแตกต่างกับฉันมากค่ะ พี่เก่งมาก ฉันจะเทียบกับพี่ไม่ได้หรอก ฉันเป็นแค่หญิงสาวบ้านนอกคนหนึ่ง เราแตกต่างกันมากเกินไป”
ในตอนท้าย ถังชุนหยานยิ้มกว้างก่อนจะพูดกับถังซวงว่า “พี่คะ เรามาพูดเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวถ้าฉันนัดหมายกับเคออวี๋หางแล้วฉันจะบอกนะคะ แล้วเราจะมาทานอาหารด้วยกัน วันนั้นฉันจะปฏิบัติตัวอย่างดีเลยค่ะ”
ถังซวงไม่ได้พูดอะไรต่อหลังได้ยินอย่างนั้น เธอพยักหน้าตอบกลับ “จ้ะ”
เมื่อถังซวงกลับมาที่ลานเล็ก ๆ ของตัวเอง โม่เจ๋อหยวนเห็นสีหน้าของเธอไม่ค่อยดีนักจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “เป็นอะไรหรือ ดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”
ถังซวงส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้อารมณ์ไม่ดีหรอกค่ะ แต่ฉันคิดว่าชุนหยานเข้มงวดกับชีวิตของตัวเองเกินไป”
“แล้วการเข้มงวดกับตัวเองมันไม่ดีหรือ?”
โม่เจ๋อหยวนงุนงง
ถังซวงพูดถึงเรื่องของถังชุนหยานก่อนจะพูดต่อว่า “ชุนหยานไม่กล้าแม้แต่จะคิดเรื่องความรัก แต่ฉันเห็นว่าตู้จ้งเหว่ยมองชุนหยานด้วยแววตาที่แปลกไป แต่ชุนหยานกลับไม่คิดอะไรกับเขาเลย”
ความจริงแล้ว โม่เจ๋อหยวนไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อได้ยินถังซวงพูด เขาเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา
“เธอคิดว่า… ตู้จ้งเหว่ยชอบชุนหยานหรือ?”
“ใช่ค่ะ แค่มองตาเขาก็รู้แล้ว”
โม่เจ๋อหยวนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ “อย่างนั้นเราค่อยมาคุยหลังจากที่เราได้เจอเคออวี๋หางคนนั้นดีกว่า”
“ค่ะ ฉันก็หวังว่าเขาจะเป็นคนดีจริง ๆ เพราะชุนหยานดูชอบเขามากเลย”
หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนอ่านหนังสือต่อ ตอนนี้ก็ใกล้เวลาขึ้นทุกที การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะจัดขึ้นในช่วงฤดูหนาวปีนี้ แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องอ่านหนังสือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
โม่เจ๋อหยวนทานมื้อเย็นที่บ้านตระกูลจิงก่อนจะกลับ
ในวันรุ่งขึ้น ถังซวงและถังเซวี่ยไปโรงเรียนด้วยกัน
เมื่อตู้จ้งเหว่ยเห็นถังซวงเดินมา เขาโบกมือทักทายด้วยรอยยิ้ม หลังจากถังซวงนั่งลงเขาหยิบกล่องข้าวที่ดูดีออกมาพร้อมกับรอยยิ้มประดับใบหน้าหล่อเหลา
“พี่สาวซวง นี่คือขนมอบน่ะ ฉันได้ยินมาว่าชุนหยานชอบขนมอบไส้ถั่วแดงกวนและพุทราเชื่อม ฝากเอาไปให้เธอหน่อยได้ไหม?” ความจริงแล้ว เขาต้องการเอาไปส่งด้วยตนเอง แต่เขากลัวว่าถ้าหากทำสิ่งนี้แล้วถังชุนหยานจะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างและรู้สึกอึดอัด จนกลายเป็นหนีหน้าเขา
ถังซวงมองกล่องอาหารที่ดูดีตรงหน้า ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
เมื่อเห็นถังซวงไม่ตอบ ตู้จ้งเหว่ยรีบถามว่า “พี่สาวซวงมีอะไรหรือเปล่า?”
แต่ก่อนที่เขาจะรู้ตัว เวลานี้เขาสนิทสนมกับถังชุนหยานมากจนกระทั่งเรียกขานถังซวงว่าพี่สาวซวง…
ถังซวงเรียกสติกลับมาหลังได้ยินคำพูดนั้น เธอเก็บกล่องอาหารนั้นไว้ก่อนจะถอนหายใจแล้วกล่าวเสียงเบา “ชั้นเรียนกำลังจะเริ่มแล้ว ตั้งใจเรียนก่อน แล้วเราค่อยคุยกันทีหลัง”
ตู้จ้งเหว่ยสัมผัสได้ว่าสิ่งที่ถังซวงกำลังจะบอกเขาน่าจะเกี่ยวกับถังชุนหยาน เขาจึงพยายามนั่งเรียนต่อไปอย่างกระวนกระวาย หลังจากเลิกเรียนแล้วเขารีบเอ่ยปากถามทันที “พี่สาวซวง เธอจะบอกอะไรฉันหรือ?”
“ออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ”
หลังจากมาถึงสนามเด็กเล่น ถังซวงบอกเรื่องของเคออวี๋หางกับเขาและพูดเสริมว่า “พวกเรามีนัดรับประทานอาหารด้วยกัน”
ตู้จ้งเหว่ยไม่คิดมาก่อนว่าครั้งแรกที่เขาตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง เขากลับถูกหักอกโดยที่ยังไม่ทันทำอะไรด้วยซ้ำ เพราะผู้หญิงคนนั้นมีชายที่ชอบแล้ว ถึงกระทั่งตัดสินใจชวนเขามารับประทานอาหารเย็นกับครอบครัว กำลังจะเริ่มความสัมพันธ์กัน
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ตู้จ้งเหว่ยหันมองถังซวงก่อนจะพูดว่า “พี่สาวซวง… ฉันจะไปด้วย”