การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 39 ห้องแห่งความลับ(รีไรท์)
บทที่ 39 ห้องแห่งความลับ(รีไรท์)
บทที่ 39 ห้องแห่งความลับ(รีไรท์)
เฮ่อหลานรู้สึกงงงวยเมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง
“มีอะไรรึเปล่า ห้องนี้ก็ดูดีอยู่นะ”
เธอโตมาที่นี่ เธอจึงคุ้นเคยกับห้องต่าง ๆ ในบ้านเก่าเป็นอย่างดี เธอจำได้ว่าห้องนี้เป็นห้องเก็บของเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก และมันก็ไม่ค่อยได้ใช้งาน ถ้าวันนี้มันไม่ได้ถูกทำความสะอาดอย่างกะทันหัน เธอคงไม่ได้เข้ามา
ถังซวงเดินจากปลายด้านหนึ่งของห้องไปอีกด้านหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปรอบบ้าน
เฮ่อหลานและถังเซวี่ยมองตามถังซวงตลอดเวลา และเมื่อพวกเขาเห็นเธอเดินไปมา แม้ว่าพวกเขาจะงงงวย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม และเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ
ในขณะนี้ ถังซวงกลับไปที่ห้องนั้นอีกครั้งและเดินตรงไปที่กำแพง ซึ่งหันหน้าไปทางทิศใต้ เธอคลำผนังอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่พบอะไร
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ถังเซวี่ยก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “พี่สาวกำลังหาอะไรอยู่? มีฉากกั้นในห้องนี้หรือ?”
เฮ่อหลานก็สงสัยเช่นกัน
“ใช่ซวงเอ๋อร์ มีความลับในห้องนี้หรือ?”
ถังซวงพยักหน้าและพูดว่า “มีบางอย่างผิดปกติ หนูลองหาดูก่อน”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ถังซวงพูด เฮ่อหลานและถังเซวี่ยก็เริ่มมองหามันเช่นกัน พวกเขาเลียนแบบวิธีของถังซวง โดยแตะกำแพงไปเรื่อย ๆ ในที่สุดถังเซวี่ยก็ตะโกนด้วยความประหลาดใจ “อา…กำแพงตรงนี้ ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกตินะ” ขณะที่เธอพูด เธอยื่นมือออกและกดมัน ซึ่งผนังเรียบนั้นจมลงไปทันที และในเวลาเดียวกันก็มีประตูบานเล็กเปิดออก
“ว้าว… พี่สาว สุดยอดเลย มีประตูจริง ๆ ด้วย นี่มันสุดยอดมาก เหมือนห้องลับเลย เราไม่เคยสังเกตมาก่อนด้วยซ้ำ”
ในทางกลับกัน ถังซวงมองไปที่ถังเซวี่ยด้วยท่าทางแปลก ๆ เพราะคิดว่าน้องสาวคนนี้อาจกลับชาติมาเกิดหรือเปล่า นี่เธอโชคดีขนาดนั้นได้อย่างไร สามารถหาสมุนไพรที่มีค่าได้ทุกชนิดเมื่อขึ้นไปบนภูเขา และเป็นคนเดียวที่เจอกลไก ตัวเธอเองคลำไปรอบ ๆ กำแพงตรงนั้นตั้งหลายรอบยังไม่พบเลย
แต่ในเวลานี้เสียงที่ตื่นเต้นของถังเซวี่ยก็ดังขึ้น
“พี่สาว แม่ เข้าไปดูกันเถอะค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็กลับมาได้สติ เธอพยักหน้าและพูดว่า “อื้ม เข้าไปดูกันเถอะ” เธอเดินไปด้านหน้า ข้างในมืดมาก ดังนั้นจึงมองเห็นอะไรไม่ชัดเจน เห็นเพียงลาง ๆ เท่านั้นว่ามีกองบางอย่างเต็มพื้นไปหมด
เมื่อเห็นเช่นนี้ เฮ่อหลานก็พูดว่า “งั้นแม่ไปหาเทียนก่อนนะ” ที่บ้านเราไม่มีไฟฉายมีแต่เทียน
ถังซวงนึกถึงไฟฉายในพื้นที่มิติ และพูดว่า “แม่คะ ครั้งก่อนหนูซื้อไฟฉายมาด้วย หนูคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ หนูไปเอาก่อนนะคะ” จากนั้นเธอหยิบไฟฉายจากพื้นที่มิติแล้วเดินกลับมาอีกครั้ง
เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเฮ่อหลาน ถังซวงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คราวที่แล้วหนูไปในตำบลเพื่อซื้อของ แต่หนูกลัวแม่จะว่าหนูว่าซื้อของโดยไม่คิด หนูเลยไม่พูดอะไร”
เฮ่อหลานชำเลืองมองถังซวง โดยคิดอย่างจริงใจว่าลูกสาวคนโตเป็นคนใช้จ่ายเก่งเสียเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แม่และลูกสาวก็เริ่มดูของในห้องนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ว้าว… แม่ พี่สาว ดูสิ”
หลังจากที่ถังเซวี่ยเปิดกล่องสีดำ สิ่งของหาข้างในก็น่าตื่นตามาก และมีกล่องอยู่ข้างในด้วยอีกที
ถังซวงดูประหลาดใจเล็กน้อย บ้านเก่าหลังนี้เป็นบ้านของแม่เฒ่าเฮ่อ แม่บุญธรรมของแม่เธอ แต่จะมีห้องเล็ก ๆ อยู่ที่นี่ได้อย่างไร และยังมีสิ่งของเหล่านี้ซ่อนอยู่อีก
เฮ่อหลานรู้สึกประหลาดใจมากที่สุด
“นี่… ของพวกนี้…”
แต่ไม่นาน ดูเหมือนเธอจะคิดอะไรบางอย่างได้ เธอถอนหายใจและพูดว่า “ของพวกนี้น่าจะเป็นของคุณยายลูกนะ”
ถังเซวี่ยรู้สึกงงงวย
“แม่คะ ถ้าเป็นของคุณยายจริง ทำไมเราไม่รู้จักที่นี่ล่ะ”
เฮ่อหลานหยุดชะงักกับคำถาม และก็พูดด้วยรอยยิ้ม “แม่คิดว่าคุณยายคงกลัวว่าแม่จะทนกับสิ่งล่อตาล่อใจพวกนี้ไม่ได้ ดังนั้นคุณยายจึงไม่บอกแม่เลย ท่านมักจะบอกว่าแม่ใจอ่อนเกินไป ไม่แกร่งพอ ที่ท่านพูดก็จริงนะ ถ้าแม่เข้มแข็งกว่านี้แม่คงจะไม่ต้องใช้ชีวิตแบบนั้น”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังเซวี่ยก็รีบพูดว่า “แม่คะ ตอนนี้เราสบายแล้ว ดังนั้นอย่าคิดถึงอดีตอีกเลย”
“แม่ก็ไม่อยากคิดแบบนั้น แม่แค่นึกถึงคุณยายของลูก ท่านเป็นคนดีมากจริง ๆ แต่ก็เป็นคนที่เข้มงวดมากเช่นกัน น่าเสียดายที่แม่ไม่เหมือนท่านเลย”
ถังซวงรู้ว่าที่คุณยายเฮ่อไม่บอกเรื่องนี้กับแม่ของเธอ เพราะกลัวว่าเฮ่อหลานจะไม่สามารถรักษามันไว้ได้ ซึ่งถังซวงก็เห็นด้วย ถ้าเป็นเฮ่อหลานเมื่อก่อนล่ะก็ ของพวกนี้คงไม่เหลือแล้ว
จากนั้นแม่และลูกสาวก็มองไปที่รอบ ๆ
นอกจากกล่องขนาดใหญ่แล้ว ยังมีกล่องใส่เครื่องประดับ รวมถึงภาพเขียนโบราณและภาพวาด ส่วนที่เหลือเป็นหนังสือ โดยหนังสือเหล่านี้มีทั้งเก่าและสมัยใหม่ ทั้งภาษาจีนและต่างประเทศ ถังซวงชำเลืองมองที่พวกมัน มีบางเล่มเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ และก็ดาราศาสตร์ หากใครมาเห็นของพวกนี้เข้า พวกเธอคงจะมีปัญหาแน่
เฮ่อหลานรก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงมองไปที่ถังซวงและพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ ลูกเป็นคนซ่อนของเมื่อคราวที่แล้ว งั้น…ของพวกนี้มอบให้ลูกจัดการทั้งหมดเลยนะ”
ถังเซวี่ยพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ พี่สาว หนูรู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยที่จะอยู่ในห้องนี้เลย”
ถังซวงไม่ปฏิเสธ เพียงแค่พยักหน้าและพูดว่า “ได้สิ ถ้างั้นเรามาจัดห้องนี้กันเถอะ และห้องนี้จะเป็นห้องของพี่นับจากนี้” เนื่องจากเธอรู้ได้ว่ามีอะไรผิดปกติในวันนี้ คนอื่นก็อาจจะรู้เช่นกัน ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าที่จะเก็บไว้ในพื้นที่มิติ ซึ่งปลอดภัยที่สุด “งั้นเรามาทำความสะอาดกันก่อนเถอะ แล้วพี่จะจัดการกับของพวกนี้เอง”
“อื้ม”
กว่าสามแม่ลูกจะทำงานเสร็จก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เฮ่อหลานก็พาถังเซวี่ยไปทำอาหาร ขณะที่ถังซวงเห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้ว เธอจึงย้ายของทั้งหมดไปไว้ในพื้นที่มิติ ที่คิดว่าพรุ่งนี้เธอต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งเธอจะไปตำบลเพื่อซื้อของที่จำเป็น จากนั้นก็จะเริ่มทำยาได้สักที
ในตอนเย็นสามแม่ลูกกินเนื้อกระต่ายผัดเผ็ดกับซุปเต้าหู้กะหล่ำปลี
ในตอนนี้ พวกเธอได้กินแต่อาหารดี ๆ ทำให้พวกเธอดูมีน้ำมีนวลขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังผอมกันอยู่ดี ดังนั้นพรุ่งนี้ถังซวงจึงคิดจะไปหาเนื้อเพิ่ม “แม่คะ พรุ่งนี้หนูจะไปในตำบลนะ ว่าจะไปซื้อของแต่งห้องน่ะค่ะ”
เฮ่อหลานยิ้มและพูดว่า “ตกลง เดี๋ยวแม่ให้เงินทีหลังนะ”
เพราะของที่เธอได้มาจากร้านขายของเก่าครั้งที่แล้ว และของที่พบในห้องเก็บของวันนี้ ทำให้เฮ่อหลานกล้าใช้เงินมากขึ้น และเธอไม่เสียดายที่จะซื้อของอะไรอีก เนื่องจากมันเป็นของที่ลูกสาวอยากได้
“ได้ค่ะ งั้นพรุ่งนี้หนูจะไปแต่เช้าเลย”
เฮ่อหลานนึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่หลินหมิงซู่และโม่เจ๋อหยวนนำมาให้เมื่อครั้งที่แล้ว เธอจึงเสนอว่า “ซวงเอ๋อร์ ทำไมลูกไม่ไปสายกว่านี้อีกสักหน่อยล่ะ พรุ่งนี้แม่จะเตรียมของให้ลูกนำไปให้หมิงซู่กับเสี่ยวโม่ พวกเขาให้ของเรามาเยอะมากเลย เราควรตอบแทนพวกเขาบ้าง”
“ได้ค่ะ”
วันต่อมา เฮ่อหลานตื่นแต่เช้าเพื่อทำเค้กน้ำตาล เค้กข้าว และเกี๊ยว แล้วนำไปให้ถังซวงพร้อมพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ รีบกลับนะ”
“ค่ะแม่ หนูไปก่อนนะ”
แต่เมื่อถังซวงไปถึงที่อยู่ที่โม่เจ๋อหยวนบอกไว้ก่อนหน้านี้ และพบว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้าน ถังซวงเลยรอสักพักแต่ก็ไม่มีใครกลับมา ดังนั้นเด็กสาวจึงคิดจะไปซื้อของก่อน แต่เมื่อเดินไปทั่วตำบลแล้วก็ไม่พบใครที่ต้องการแลกเปลี่ยนของเลย เธอจึงตัดสินใจไปที่ตำบลอื่นแทน
หลังจากขึ้นรถประจำทางจากตำบลโฮวซานไปยังตำบลอื่น ถังซวงก็ถูกเบียด ซะจนแทบขยับไม่ได้ แต่โชคดีที่เธอเก็บตะกร้าของไว้ในที่พื้นที่มิติแล้ว ไม่อย่างนั้นขนมอบจะถูกเบียดจนแบนแน่ ๆ
!!
แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น รถจึงหยุดกระทันหัน ทำให้ผู้โดยสารในรถต่างถามกันว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
คนขับตะโกนเสียงดังว่า “ทุกคน โปรดอยู่ในที่ที่คุณอยู่”
คนขับพยายามอยู่หลายครั้งก็พบว่าไม่สามารถสตาร์ตรถได้เลย “รถเสียครับ ทุกคนลงจากรถก่อน”