การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 391 พบเจอ
บทที่ 391 พบเจอ
หลังจากที่เคออวี๋หางมาถึง เขากล่าวทักทายสบาย ๆ ราวกับว่าตนไม่ได้มาสาย ทว่าเมื่อหันไปเจอถังซวงและคนอื่น ๆ เขาดูจะประหลาดใจเล็กน้อย
ชายหญิงตรงหน้าดูจะรับมือไม่ได้ง่าย ๆ อีกทั้งรูปลักษณ์ยังดูไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะมองยังไงเหมือนว่าทุกคนตรงนี้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับถังชุนหยานที่มาจากชนบทแม้แต่น้อย หากบอกว่าคนเหล่านี้เป็นพี่น้องของถังชุนหยาน เขาไม่เชื่อแน่
เห็นอย่างนั้นแล้ว เคออวี๋หางรีบหันไปถามถังชุนหยาน “ชุนหยาน พวกเขาเป็นพี่สาวกับเพื่อนสนิทที่คุณบอกก่อนหน้านี้หรือ?”
เมื่อถังชุนหยานได้พบเจอกับเคออวี๋หางอีกครั้ง เธอดูเย็นชาและแข็งกระด้างกว่าที่เคย หากตัดเรื่องความเรียบง่ายและขยันขันแข็งของเคออวี๋หางแล้ว ผู้ชายตรงหน้าเธอนี้ไม่มีจุดเด่นอะไรให้สนใจแม้แต่น้อย
เธอไปสนใจผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร? ทำไมถึงคิดว่าเขาไว้ใจได้?
“ค่ะ นี่พี่สาวของฉัน นั่นพี่เขย และนี่คือน้องสาวกับเพื่อนของฉันค่ะ”
ถังชุนหยานกล่าวสั้น ๆ โดยยังไม่ได้เอ่ยชื่อของถังซวงและคนอื่น ๆ เธอแค่รู้สึกว่าเคออวี๋หางไม่สมควรจะได้รู้จักครอบครัวของเธอ และเธอก็ยังไม่แนะนำเคออวี๋หางให้ทุกคนรู้จักด้วย
ส่วนเคออวี๋หางที่ไม่ได้สังเกตอะไรเลย แต่พอหันไปเห็นใบหน้าเย็นชาของถังชุนหยานแล้ว เขาจึงสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ชุนหยาน เธอเป็นอะไรไป? อารมณ์ไม่ดีหรือครับ?”
ก่อนที่ถังชุนหยานจะทันได้พูดอะไร ตู้จ้งเหว่ยกลับยืนขึ้นซะก่อน
เขามองเคออวี๋หางตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนจะเอ่ยปาก “นายน่ะหรือเคออวี๋หาง ก็ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่นี่ เฮ้อ… อย่างนายนี่นะมาคบชุนหยานของพวกเรา? ที่บ้านมีกระจกให้ส่องไหมว่าสารรูปตัวเองเป็นยังไง?” ความจริงเขาต้องการจะเข้าไปต่อยเจ้าหมอนี่ให้แหลกคามือด้วยซ้ำ แต่เพราะเขาจำคำเตือนของถังซวงได้ จึงทำได้เพียงชกมันในใจเท่านั้น
“นี่คุณ…”
เคออวี๋หางถึงกับพูดไม่ออก เขาอยากจะโต้ตอบ แต่เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของตู้จ้งเหว่ยแล้ว เขาต้องยอมรับว่าว่าตัวเองนั้นธรรมดาอย่างที่อีกฝ่ายต่อว่าจริง ๆ
แม้จะไม่สามารถกล่าวมันกับตู้จ้งเหว่ยได้ แต่เขาก็พูดกับถังชุนหยานได้
“ชุนหยาน นี่หมายความว่ายังไงกัน? คุณบอกจะให้ผมมากินข้าวกับพี่สาวและเพื่อน ๆ ของคุณไม่ใช่หรือ? แต่ดูเหมือนมันจะเป็นการให้คนพวกนี้มาเย้ยหยันผมแทนมากกว่า ครับ ผมมาจากชนบท แล้วก็หน้าตาไม่ดีเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังมีศักดิ์ศรี พยายามเรียนอย่างหนักเพื่ออนาคตของตัวเอง และคุณไม่มีสิทธิ์มาต่อว่าผมอย่างนี้”
ขณะพูด เคออวี๋หางยังคงต้องการพูดต่อ “ชุนหยาน คุณก็มาจากชนบทเหมือนกัน เรามีโอกาสได้เรียนหนังสือเพื่ออนาคตของตัวเอง เราควรจะคิดเรื่องอนาคตให้มาก แทนที่จะให้คนอื่นมาวิจารณ์เราแบบนี้”
เขารู้สึกว่าตนหน้าตาแย่มาก ถึงได้ถูกวิจารณ์ซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้
แปะ แปะ แปะ…
ถังซวงปรบมือ
ถ้าเธอไม่รู้ว่าเคออวี๋หางเป็นคนแบบไหนมาก่อน เธอก็คงถูกหลอกไปแล้ว คนคนนี้มีทักษะการพูดที่ยอดเยี่ยม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงสามารถเข้าหาถังชุนหยานได้
ทันทีที่ได้ยินเสียงปรบมือดังขึ้น เคออวี๋หางหันมองถังซวงทันที
ชายหนุ่มตกตะลึงกับความสวยของถังซวง และหลังจากมองดูแล้ว เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายสวยเกินกว่าจะละสายตา และเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนสวยขนาดนี้
โม่เจ๋อหยวนที่นั่งเฉย ๆ เห็นแววตาของเคออวี๋หางที่จับจ้องคู่หมั้นของตนอย่างหิวกระหาย ก็ลุกขึ้นมายืนขวางหน้าถังซวงเอาไว้ด้วยใบหน้าเย็นชา “มองอะไร?”
เคออวี๋หางฟื้นคืนสติกลับมาทันที ความหื่นกระหายบนใบหน้าจางหายไปเมื่อพบกับสายตาจากชายตรงหน้า อีกทั้งยังสูญเสียความมั่นใจที่จะต่อว่าถังชุนหยานด้วย
ถังชุนหยานเห็นเคออวี๋หางแสดงท่าทีอย่างนี้ เธอไม่สามารถเก็บซ่อนความเกลียดชังได้อีกแล้ว เธอลุกขึ้นก่อนจะถามออกไปตรง ๆ “เคออวี๋หาง เซิงเสี่ยวเฟยให้คุณมาเข้าหาฉันใช่ไหม?”
“อะ… อะไร…”
เคออวี๋หางคิดว่าถังชุนหยานอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาเสมอมา เด็กสาวจากชนบทนี้เป็นของเล่นที่เขาจะเล่นด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ และโยนทิ้งเมื่อเบื่อหน่าย แต่ทุกสิ่งกลับผิดคาด เรื่องมันดำเนินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
เห็นเคออวี๋หางที่พูดไม่ออก ถังชุนหยานกล่าวประชดประชันทันที “ทำไมถึงไม่กล้ายอมรับล่ะคะ ขี้ขลาดจริง ๆ!”
เคออวี๋หางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อรวบรวมสติ เขารู้ดีว่าจะยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ ชายหนุ่มรีบส่ายศีรษะอย่างร้อนรน “ชุนหยาน คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมชอบคุณมาก ก็เลยเข้าหาคุณ ไม่ใช่เพราะเซิงเสี่ยวเฟยบอกให้ทำนะครับ”
“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่คิดยอมรับอีกหรือ”
ถังซวงมองเคออวี๋หาง ก่อนจะปรบมือส่งสัญญาณ จากนั้นก็มีคนเข้ามาพร้อมกับเซิงเสี่ยวเฟย
“ชุนหยาน นี่เซิงเสี่ยวเฟยใช่ไหม”
ถังชุนหยานพยักหน้า “ค่ะ นี่คือเซิงเสี่ยวเฟย”
“งั้นก็ไม่ผิด เพราะก่อนหน้านี้ทั้งสองเดินข้างกันอย่างสนิทสนม และพวกเขายังพูดคุยกันว่าจะทำให้เธอเสียใจยังไง”
เซิงเสี่ยวเฟยหวาดกลัว แต่เมื่อเธอเห็นถังชุนหยานแล้ว เธอเข้าใจทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการเปิดโปงเคออวี๋หาง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เธอถูกจับตัวมาวันนี้
หลังจากคิดทบทวนทุกอย่างแล้ว เซิงเสี่ยวเฟยไม่หวาดกลัวอีก เพราะยังไงคนพวกนี้ก็ไม่กล้าทำอะไรเธออยู่ดี
“พวกเธอจับฉันมาทำไม ฉันขอบอกไว้เลยว่ารีบปล่อยตัวฉันซะ ไม่อย่างนั้นพวกเธอทั้งหมดได้เดือดร้อนแน่!” เธอหันมองถังซวงและคนอื่น ๆ แต่เมื่อเห็นหน้าของคนตรงหน้าแล้ว เธอถึงกับประหลาดใจ
ทุกคนตรงหน้าเธอดูดีมาก พวกเขาเป็นครอบครัวของถังชุนหยานจริง ๆ หรือ? เหตุการณ์วันนี้ค่อนข้างประหลาด ยิ่งเห็นโม่เจ๋อหยวนตรงหน้า เธอยิ่งตกตะลึงเพราะไม่เคยพบเจอผู้ชายที่หล่อเหลาเช่นนี้มาก่อน แต่เมื่อเธอหันมองตู้จ้งเหว่ย เธอถึงกับอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก “คุณ… ทำไมถึงมาที่นี่ได้?”
ตู้จ้งเหว่ยได้ยินอย่างนั้น เขารู้สึกว่าเซิงเสี่ยวเฟยคนนี้น่าจะรู้จักตน แต่เขากลับไม่รู้จักเธอแม้แต่น้อย “เธอเป็นใคร?”
“สหายตู้ ฉันเป็นลูกสาวของเซิงต้าหยง คุณไม่เคยเจอฉันหรอกค่ะ แต่ฉันเคยเห็นคุณก่อนหน้านี้ เลยจดจำคุณได้” พ่อของเซิงเสี่ยวเฟยเป็นลูกน้องของตู้หรงหมิง ครั้งหนึ่งเซิงเสี่ยวเฟยออกไปทำงานกับพ่อและได้เจอกับตู้จ้งเหว่ย วันนั้นพ่อของเธอบอกเธอว่าเขาเป็นใคร ไม่คิดเลยว่าวันนี้เธอจะได้เจอเขาใกล้ ๆ
ส่วนตู้จ้งเหว่ยเองก็ไม่รู้เรื่องนั้นเลย และมันก็ไม่ได้สำคัญอะไร เพราะในวันนี้ที่เขามาที่นี่ก็เพื่อถังชุนหยาน
“อืม ในเมื่อเธอรู้จักฉัน อย่างนั้นฉันจะถาม… เธอเป็นคนสั่งให้เคออวี๋หางมาตามจีบชุนหยานใช่ไหม?”
“ฉัน…”
เซิงเสี่ยวเฟยเริ่มตระหนักได้ถึงบางอย่าง ตู้จ้งเหว่ยและคนอื่น ๆ มาที่นี่เพราะถังชุนหยาน แต่… แต่พวกเขารู้ได้ยังไงว่าเธอวางแผนจะทำอะไรกับถังชุนหยาน
หลังจากเห็นว่าเซิงเสี่ยวเฟยไม่ตอบกลับ ใบหน้าของตู้จ้งเหว่ยยิ่งเย็นชา
“บอกมา… เธอกับเคออวี๋หางกำลังคิดทำอะไร?”