การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 392 สั่งสอนบทเรียนให้ทั้งสองคน
บทที่ 392 สั่งสอนบทเรียนให้ทั้งสองคน
ได้ยินตู้จ้งเหว่ยพูด เซิงเสี่ยวเฟยรีบส่ายศีรษะก่อนจะตอบกลับอย่างร้อนรนว่า “ไม่ใช่นะคะ พวกเราไม่มีแผนอะไรแบบนั้น และฉันไม่ได้ขอให้เคออวี๋หางไปตามจีบถังชุนหยานสักหน่อย เขาทำเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเอง”
เวลานี้ เธอยิ่งเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
จะให้เธอยอมรับได้ยังไงว่าตัวเองเป็นคนต้นคิดเรื่องชั่วช้าพวกนี้
จริง ๆ เธอไม่สนใจว่าจะถูกเปิดโปงยังไง เพราะคนอย่างถังชุนหยานจะทำอะไรเธอได้? แต่เวลานี้ทุกอย่างแตกต่างไปจากที่เธอคิด ตู้จ้งเหว่ยรู้จักกับถังชุนหยาน ถ้าเขารู้ว่าเธอต้องการวางแผนทำร้ายถังชุนหยาน เธอไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง
เคออวี๋หางพยักหน้ารับทันทีที่เซิงเสี่ยวเฟยพูด “ใช่ครับ ผมชอบชุนหยาน ผมเลยตามจีบเธอ ผมไม่ได้รับคำสั่งมาจากใครเลย” เวลานี้เขาเห็นแล้วว่าถังชุนหยานไม่ใช่สาวจากชนบทธรรมดา ๆ เรื่องคงจะดีกว่านี้ถ้าหากเขาเข้าหาถังชุนหยานอย่างจริงใจ ถ้าคนอื่นรู้ว่าเขามีจุดประสงค์อื่น เขาต้องซวยแน่
เห็นเคออวี๋หางและเซิงเสี่ยวเฟยปฏิเสธ ถังซวงถึงกับหัวเราะออกมา
“อย่ามัวปฏิเสธอยู่เลย วันนั้นฉันกับพี่โม่ได้ยินพวกเธอสองคนคุยกันหมดแล้ว”
“อะ… อะไรนะ…”
ทั้งเคออวี๋หางและเซิงเสี่ยวเฟยถึงกับตกตะลึง
“เมื่อวานนี้ เราเจอพวกเธอสองคนกำลังเดินซื้อของริมถนนใช่มั้ย เราได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดหมดแล้ว”
“เป็นไปได้ยังไง”
เคออวี๋หางรีบปฏิเสธทันที “เราไม่เคยเจอกันมาก่อน แล้วถ้าคุณเห็นผมจริง ๆ คุณรู้ได้ยังไงว่าเป็นผม?”
โม่เจ๋อหยวนยิ้มก่อนจะตอบกลับ “ก็เพราะฉันเคยเห็นนายมาก่อนหน้านี้ไงล่ะ”
เคออวี๋หางหันศีรษะมามองโม่เจ๋อหยวน และเห็นว่าผู้ชายคนนี้ดูดีมาก ทั้งหล่อเหลาและสะอาดสะอ้าน แต่ในแววตากลับเย็นชาจนหนาวเหน็บ
เขารู้สึกเสียใจทันทีที่ยอมทำตามที่เซิงเสี่ยวเฟยบอก และสร้างปัญหาให้ถังชุนหยาน ถ้าไม่สามารถลบล้างข้อสงสัยต่าง ๆ ได้ มันจะกลายเป็นพวกเขาสองคนที่ซวยแทน
เซิงเสี่ยวเฟยหันมองโม่เจ๋อหยวนเพราะทนไม่ไหว เธอรู้ว่าผู้ชายตรงหน้าไม่ต่างจากปีศาจรูปงาม ในดวงตาเย็นชาราวกับกำลังอ่านใจของผู้คนได้ทะลุปรุโปร่ง
คนที่จับตัวเซิงเสี่ยวเฟยมาคือหยินอี้ เขาคือคนคุ้มกันของถังซวง ชายคนนี้รู้สึกว่าตัวเองเก่งกาจเกินกว่าจะมาทำเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ ยิ่งเห็นว่าทั้งสองคนนี้ปฏิเสธ เขาเลยเปิดปากกล่าวถ้อยคำเย็นชา “รีบยอมรับซะ ไม่อย่างนั้นพวกคุณจะไม่ได้กลับออกไปแน่” หยินอี้ไม่คิดปิดบังความแข็งแกร่งเลย ในคำพูดนั้นมันอัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าฟัน
เซิงเสี่ยวเฟยและเคออวี๋หางเห็นอย่างนั้นต่างยิ่งหวาดกลัว
ตอนนี้หยินอี้เกียจคร้านเกินกว่าจะยืดเยื้อเรื่องเหล่านี้ เขาปล่อยเซิงเสี่ยวเฟย ก่อนจะใช้มือซ้ายคว้าตัวของเคออวี๋หางเอาไว้
“โอ๊ย…”
เคออวี๋หางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หน้าของเขาซีดขาว เหงื่อเย็นเฉียบไหลอาบแก้ม มีเพียงความหวาดกลัวเท่านั้นที่อัดแน่นภายในใจ ทำไมพี่สาวและเพื่อนของถังชุนหยานถึงเป็นคนพวกนี้ไปได้
“ผมยอมแล้ว ผมพูดแล้ว”
สุดท้ายเคออวี๋หางหยุดดิ้นรนพร้อมกับพรั่งพรูทุกอย่างออกมา
“ทุกอย่างเป็นแผนของเซิงเสี่ยวเฟย เป็นเพราะเธออิจฉาถังชุนหยาน เธออิจฉาถังชุนหยานที่มาจากชนบทแต่ดูเหนือกว่าเธอ เธอไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์อย่างนี้ ยิ่งกว่านั้นผู้ชายบางคนในห้องเรียนก็รู้ว่าถังชุนหยานพยายามทำงานอย่างหนัก พวกเขาเลยสนใจในตัวเธอ เซิงเสี่ยวเฟยเลยโกรธมากและขอให้ผมมาตามจีบถังชุนหยาน แล้วค่อยทิ้งเธอ เธอต้องการให้ถังชุนหยานเจ็บปวด”
“หุบปาก…”
เคออวี๋หางพรั่งพรูทุกอย่างออกมา จนทำให้เซิงเสี่ยวเฟยสีหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
“แกโกหก”
เซิงเสี่ยวเฟยยังไม่คิดยอมรับสิ่งที่เธอทำ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้อาจจะเดือดร้อนไปถึงครอบครัวของเธอ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าคนตรงหน้านี้ไม่ใช่คนที่เธอจะเข้าไปยุ่งได้ง่าย ๆ
“ที่เคออวี๋หางตามจีบถังชุนหยานมันไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันไม่เคยสั่งอะไรเขาเลย ยิ่งกว่านั้นทำไมเขาถึงต้องเชื่อฟังฉันด้วยล่ะ? ฉันมีความสามารถอะไรล่ะถึงจะไปสั่งการเขาได้?”
ยิ่งเห็นว่าเซิงเสี่ยวเฟยปฏิเสธอย่างนั้น เคออวี๋หางยิ่งโกรธจัด
“เซิงเสี่ยวเฟย นังแพศยา เธอเป็นคนวางแผนทั้งหมดแต่กลับโยนว่าเป็นความผิดฉันคนเดียว ทำไมเธอถึงได้หน้าด้านแบบนี้”
“แกน่ะสิหน้าด้าน”
เซิงเสี่ยวเฟยและเคออวี๋หางปัดความรับผิดชอบ ราวกับสุนัขกัดกัน
ถังซวงหันมองถังชุนหยานก่อนจะพูดว่า “ชุนหยาน เธอจะทำยังไงกับสองคนนี้?”
ถังชุนหยานมองทั้งสองคนตรงหน้า ก่อนจะก้าวไปด้านหน้าแล้วตบหน้าเซิงเสี่ยวเฟยกับเคออวี๋หางที่กำลังโต้เถียงคนละหนึ่งฉาดโดยไม่ทันให้ตั้งตัว
“แก…”
เซิงเสี่ยวเฟยไม่กล้าพูดอะไร เธอเพียงจ้องมองถังชุนหยานด้วยความอดกลั้น
แต่ตอนนี้มือซ้ายของเคออวี๋หางกลายเป็นห้อยลงอย่างผิดรูป เขามองถังชุนหยานด้วยแววตาสับสน และได้เห็นแล้วว่าถังชุนหยานเป็นผู้หญิงที่เซิงเสี่ยวเฟยเทียบไม่ติดเลย ทำไมเขาถึงตามืดบอดไม่มองเธอตั้งแต่แรก
ถังชุนหยานมองเซิงเสี่ยวเฟยและเคออวี๋หางอย่างเย็นชาก่อนจะพูดว่า “พวกคุณ… ควรจะดีใจที่แผนการของพวกคุณไม่สำเร็จ ไม่อย่างนั้นพวกคุณคงจะเจอเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่านี้แน่ คราวนี้ฉันจะสั่งสอนพวกคุณแค่นี้ และอย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก ไม่อย่างนั้นพวกคุณได้เห็นดีกันแน่”
จากนั้น ถังชุนหยานมองถังซวงแล้วพูดต่อว่า “พี่สาวซวง เท่านี้แหละค่ะ วันนี้ขอรบกวนพี่แค่นี้”
“จะปล่อยเขาไปแบบนี้หรือ?”
ถังซวงหันมองเคออวี๋หางและเซิงเสี่ยวเฟย และรู้สึกว่าที่เธอทำมันยังไม่พอ
ตู้จ้งเหว่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวขึ้นด้วยเช่นกัน “ใช่ ชุนหยานนี่มันน้อยเกินไป เราไม่ควรปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ อย่างนี้นะ” เมื่อคิดเรื่องที่เคออวี๋หางเข้ามาตามจีบถังชุนหยานจนเกือบจะได้คบหากันอย่างจริงจัง เขายิ่งทนไม่ได้ ความเจ็บปวดแล่นผ่านจิตใจจนไม่อาจระงับ
ตู้จ้งเหว่ยก้าวไปด้านหน้า ไม่สามารถหยุดตัวเองได้อีกต่อไป หมัดหนักเสยตรงเข้าใบหน้าของเคออวี๋หางอย่างไม่ทันตั้งตัว
แน่นอนว่าหากมีหนึ่ง ก็ต้องมีสอง ตู้จ้งเหว่ยปล่อยหมัดใส่เคออวี๋หางจนใบหน้าบวมเป่ง
“โอ๊ย โอ๊ย… หยุดเขาเร็วเข้า”
เคออวี๋หางถูกต่อยจนใบหน้าบวมเป่ง ฟกช้ำดำเขียว ไม่เหลือเค้าโครงเดิมแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นว่าตู้จ้งเหว่ยออกตัวปกป้องถังชุนหยานอย่างนี้ เซิงเสี่ยวเฟยกำหมัดแน่น ตู้จ้งเหว่ยคือลูกชายของผู้อำนวยการตู้ และเป็นคนที่เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ แต่เวลานี้เขากลับกล้าทำอะไรแบบนี้เพื่อถังชุนหยานที่เธอเกลียดชังมาตลอดเนี่ยนะ นี่จะไม่ให้เธออิจฉาได้อย่างไร?
“พอแล้วจ้งเหว่ย”
ตู้จ้งเหว่ยหยุดมือทันทีที่ถังซวงพูด
ถังซวงหันมองหยินอี้ก่อนจะพูดต่อว่า “ต่อแขนคืนให้เขาเถอะ”
“ครับ”
หยินอี้ก้าวไปด้านหน้าก่อนจะคว้าแขนของเคออวี๋หางโดยตรงก่อนจะหักมันเข้าล็อก แล้วหายไปในความมืด
“พี่สาวซวง ฉันต้องขอโทษที่ทำให้พี่ต้องลำบากนะคะ”
ถังชุนหยานที่ยังคงอยู่ในความสับสน รู้สึกอับอายที่ตนเองร้องขอให้พี่สาวซวงช่วยสั่งสอนบทเรียนให้กับหญิงชั่วชายเลวทั้งสองนี้
“ไม่เป็นไรหรอก ทุกอย่างจบแล้ว เรากลับกันเถอะ”
“ค่ะ”