การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 394 คนชั่วฟ้องก่อน
บทที่ 394 คนชั่วฟ้องก่อน
ถังชุนหยานเหลือบมองตู้จ้งเหว่ยก่อนจะถามออกไป “พี่พูดจริง ๆ หรือ?”
“ใช่ ฉันพูดจริง ๆ”
ตู้จ้งเหว่ยพูดจากใจจริง “เธอไม่รู้หรอกว่าตั้งแต่ที่เธอชวนฉันไปกินข้าวเย็นคราวนั้น ฉันก็ไปบ้านตระกูลจิงบ่อยขึ้น นั่นเป็นเพราะฉันอยากไปหาเธอ”
“พี่…”
ถังชุนหยานไม่เคยพบใครที่พูดจาตรงไปตรงมาอย่างนี้ มันทำให้เธอรู้สึกเขินอายไม่น้อย
เมื่อเห็นใบหูของถังชุนหยานเปลี่ยนเป็นสีแดง แววตาของตู้จ้งเหว่ยกลับเป็นประกาย เขาโน้มตัวเข้าหาอีกฝ่ายแล้วกล่าวกระซิบอย่างแผ่วเบาว่า “อย่างนั้นฉันจะไปส่งเธอที่บ้าน แล้วเดี๋ยววันหยุดสุดสัปดาห์ไปเที่ยวนะ ตกลงไหม?”
“อืม… ก็ได้ค่ะ”
ถังชุนหยานตอบออกไปโดยไม่รู้ตัว และเมื่อเธอฟื้นคืนสติกลับมา คิดจะปฏิเสธแต่เวลานี้ตู้จ้งเหว่ยจับมือเธอแน่นก่อนจะตะโกนออกมาอย่างมีความสุข “ได้ ๆ! แล้วเจอกันนะ”
เมื่อเห็นใบหน้ามีความสุขของชายหนุ่ม ถังชุนหยานไม่สามารถปฏิเสธเขาได้อีกต่อไป ตู้จ้งเหว่ยชอบเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เขาชอบเธอมากขนาดนั้นเชียวหรือ?
อีกด้านหนึ่ง เซิงเสี่ยวเฟยยืนหลบมุมอยู่ไม่ไกลนัก เธอหันมองเคออวี๋หางด้วยความหดหู่ก่อนจะพร่ำบ่น “เคออวี๋หาง ไอ้คนไร้ประโยชน์พอเกิดเรื่องแกก็โยนความผิดให้ฉันคนเดียว บอกเลยถ้าฉันไม่มีความสุข แกก็จะไม่มีความสุขเหมือนกัน”
“เซิงเสี่ยวเฟยทั้งหมดเป็นความผิดของเธอทั้งนั้น แต่ยังกล้าต่อว่าฉันอีกหรือ? ถ้าเธอไม่ได้ให้ฉันไปตามจีบถังชุนหยาน เรื่องคงไม่วุ่นวายอย่างนี้หรอก ดูสิตอนนี้เราทำให้คนพวกนั้นโกรธไปหมดแล้ว”
“แก… เคออวี๋หาง ฝากไว้ก่อนเถอะ”
หลังจากเซิงเสี่ยวเฟยพ่นคำรุนแรงออกไป เธอก็จากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเคออวี๋หางและถังชุนหยาน ผู้หญิงบ้านนอกคนนั้นจะอยู่เหนือกว่าเธอได้ยังไง!
เมื่อเซิงเสี่ยวเฟยกลับมาถึงบ้าน เธอเห็นว่าพ่ออยู่ที่บ้าน เวลานี้จึงแสร้งทำหน้าเศร้าและเดินเข้าหาผู้เป็นพ่อด้วยความเสียใจ
“พ่อคะ วันนี้หนูถูกรังแกค่ะ”
เซิงต้าหยงมีลูกสาวคนเดียว จนทำให้เซิงเสี่ยวเฟยเติบโตด้วยการถูกเอาใจแบบผิด ๆ และจะมีสักครั้งหรือที่เขาเห็นเธอกลับมาในสภาพที่ยุ่งเหยิงเช่นนี้ “เสี่ยวเสี่ยว หน้าลูกไปโดนอะไรมา?”
“มีผู้หญิงในห้องตบหนูค่ะ”
“อะไรนะ…”
อารมณ์ของเซิงต้าหยงระเบิดทันที “มันถึงกับกล้าตบลูกเลยหรือ! เรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ พ่อจะไปเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด มันต้องชดใช้!”
แต่เมื่อนึกถึงตู้จ้งเหว่ย เซิงเสี่ยวเฟยรีบดึงพ่อเอาไว้แล้วพูดว่า “พ่อคะ แต่ลูกชายของผู้อำนวยการตู้รู้จักผู้หญิงคนนั้นและยังออกหน้าปกป้องเธอด้วยค่ะ หนูกลัวว่าเธอจะมีคนคอยหนุนหลังค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เซิงต้าหยงเงียบไปสักครู่ เขาขมวดคิ้วก่อนจะหันมองลูกสาวแล้วพูดว่า “อะไรนะ? ลูกชายของผู้อำนวยการตู้รู้จักหล่อนด้วยงั้นหรือ?”
“ค่ะ เป็นลูกชายคนโตของพวกเขา”
เซิงต้าหยงได้ยินอย่างนั้นถึงกับตกใจ เขารีบถามทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แน่นอนว่าเซิงเสี่ยวเฟยไม่คิดบอกความจริง เธอเลือกพูดเพียงสิ่งที่ตนถูกกระทำ “ผู้หญิงคนนั้นมาจากชนบทค่ะ แต่หนูไม่รู้ว่าทำไมหล่อนถึงรู้จักลูกชายของผู้อำนวยการตู้ และพี่สาวของเธอก็ดูเหมือนจะมาจากตระกูลใหญ่เหมือนกันค่ะ”
เซิงเสี่ยวเฟยยังไม่รู้จักว่าพี่สาวที่ว่า คือถังซวง
และเซิงเสี่ยวเฟยก็คิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้ยิ่งใหญ่มาจากไหน แค่หน้าตาดูดีก็เท่านั้น และยังเกี่ยวข้องกับถังชุนหยาน แล้วพวกเขาจะดีไปกว่าเธอได้อย่างไร? อีกทั้งในบรรดาคนเหล่านั้นคงจะมีแต่ตู้จ้งเหว่ยที่ดูมีภูมิหลังสุด
“อืม เข้าใจแล้ว ลูกไม่ต้องห่วงนะ พ่อจะทวงความยุติธรรมให้ลูกเอง”
เซิงต้าหยงรักเซิงเสี่ยวเฟยมาก เขาจึงไม่ชอบใจหากลูกสาวจะถูกใครรังแก และคิดจะจับคนเหล่านั้นมาสอบสวน
แต่เขารู้จักชื่อของถังชุนหยานเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะเซิงเสี่ยวเฟยไม่บอกอะไรที่พอจะมีประโยชน์เลย
เวลานี้เมื่อเขาได้พบกับตู้หรงหมิง เขาบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างใจเย็น เขาเน้นย้ำความสัมพันธ์ของตู้จ้งเหว่ยกับหญิงสาวจากชนบทคนนั้น ก่อนจะกล่าวใส่ไฟ “ผู้อำนวยการตู้ครับ เด็กหญิงหลายคนในชนบทคิดแสวงหาโอกาสทุกหนทางในเมืองหลวง ตอนนี้เด็กหญิงคนนั้นคิดจะใช้จ้งเหว่ยเป็นสะพาน และยังกล้ารังแกลูกสาวของผมด้วย ผมกลัวว่าเธอจะเป็นคนยุยงให้ตระกูลตู้ทำเรื่องเสียหายน่ะครับ”
“อะไร… เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง”
ตู้หรงหมิงไม่รู้ว่าตู้จ้งเหว่ยมีสัมพันธ์กับเด็กสาวบ้านนอก หากเขารู้เรื่องนี้ เขาคงอบรมลูกชายของตนไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เด็กผู้หญิงคนนั้นยังมีพฤติกรรมที่เลวร้ายด้วย ลูกชายของเขาต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงแบบนั้นเด็ดขาด
เมื่อได้ยินว่าตู้หรงหมิงพูดอย่างนั้น เซิงต้าหยงรีบตอบกลับ “ผู้อำนวยการตู้ครับ อย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
อีกด้านหนึ่ง ตู้จ้งเหว่ยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองถูกใส่ร้ายไปเท่าไหร่ ตอนนี้เขากำลังไปส่งถังชุนหยานกลับบ้านอย่างมีความสุข แล้วกลับไปที่ชั้นเรียนในช่วงบ่าย
เมื่อเห็นใบหน้าที่สดใสของตู้จ้งเหว่ย ถังซวงเลิกคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “อ่า… ดูเหมือนจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นสินะ”
“อิอิ…”
ตู้จ้งเหว่ยยกยิ้มจนแก้มปริ
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเลี่ยนเมื่อเห็นท่าทางของคนตรงหน้า อีกอย่างทั้งคู่ยังอยู่ในชั้นเรียนด้วย เธอจึงไม่ถามอะไรต่อ
หลังจากเลิกเรียนแล้ว ตู้จ้งเหว่ยเดินตามถังซวงก่อนจะพูดติดขัด “พี่สาวซวง เธอช่วยถามชุนหยานให้หน่อยว่าชอบอะไร ฉันอยากจะพาชุนหยานไปเที่ยวสุดสัปดาห์นี้น่ะ เลยอยากจะหาของขวัญให้สักหน่อย”
“นายสารภาพรักกับชุนหยานแล้วหรือ?”
ตู้จ้งเหว่ยพยักหน้า “อื้ม ฉันบอกเธอหมดแล้ว ถึงเธอจะกังวลอยู่ แต่ฉันจะทำให้เธอมั่นใจให้ได้ ให้เธอเห็นฉันพิสูจน์ตัวเองก่อน”
“อื้ม รวดเร็วจริง ๆ นะ เอาเถอะ ไว้ฉันจะถามเธอให้แล้วกัน”
“ขอบคุณ”
หลังจากพูดคุยกับถังซวงเสร็จแล้ว ตู้จ้งเหว่ยกลับไปที่บ้าน แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือเมื่อมาถึงบ้าน พ่อของเขากำลังนั่งรออยู่ด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“จ้งเหว่ย กลับมาแล้วหรือ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกหน่อย”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ตู้จ้งเหว่ยหยุดฝีเท้าก่อนจะหันมาถามว่า “มีอะไรกับผมหรือครับ?”
“ฉันได้ยินว่าแกไปรู้จักกับผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่ง แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ทำร้ายเซิงเสี่ยวเฟยด้วย เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?”
หลังได้ยินอย่างนั้น ตู้จ้งเหว่ยอดไม่ได้ที่จะเบะปากอย่างอารมณ์เสีย
“เซิงเสี่ยวเฟยคนนั้นถึงกับกล้าไปฟ้องก่อนเลยหรือครับ?”
ตู้หรงหมิงไม่คิดฟังคำอธิบายของตู้จ้งเหว่ย เขาเพียงพูดว่า “บอกฉันมาว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงหรือเปล่า”
“ครับ มันเป็นเรื่องจริง แต่ว่า…”
ก่อนที่ตู้จ้งเหว่ยจะทันได้อธิบาย ตู้หรงหมิงกล่าวแทรกทันที “ไอ้เด็กเหลือขอ แกไปรู้จักผู้หญิงบ้านนอกแบบนั้นได้ยังไง? รู้ไหมว่าการทำตัวแบบนี้จะทำให้ครอบครัวเราเสื่อมเสีย ตอนนี้แกคือตัวแทนของตระกูลตู้ ทุกคนจะมองตระกูลของเราผ่านการกระทำของแก แล้วดูสิ่งที่แกทำ…”
“พ่อ…”
เมื่อเห็นว่าพ่อของเขาเริ่มโวยวาย ตู้จ้งเหว่ยพูดขัดจังหวะทันที
“ชุนหยานเป็นน้องสาวของพี่สาวซวง และเรื่องทั้งหมดมันไม่ใช่อย่างที่พ่อคิด!”