การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 399 รายงาน
บทที่ 399 รายงาน
บทที่ 399 รายงาน
ได้ยินคำถามของถังซวง ผู้เฒ่าจิงถึงกับชะงักไปชั่วครู่
“คุณเว่ย?”
ถังซวงพยักหน้าก่อนจะตอบกลับว่า “ค่ะ หนูได้ยินผู้อาวุโสจูเรียกเขาว่าคุณเว่ย และยังดูเคารพเขามาก เราบังเอิญไปพบเขาขณะที่ผู้อาวุโสจูกำลังส่งเขากลับน่ะค่ะ”
ผู้เฒ่าจิงไม่คิดว่าถังซวงจะถามเรื่องนี้ หลังจากครุ่นคิดสักครู่เขาจึงตอบกลับว่า “ในเมื่อผู้อาวุโสจูส่งเขากลับด้วยตนเอง ปู่ก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าหลานถามถึงคุณเว่ยคนไหน แต่หลานไม่ควรรู้เรื่องนี้หรอก คุณเว่ยไม่ได้ปรากฏตัวบ่อย ๆ ครั้งสุดท้ายที่เขามาเมืองหลวงคือสิบปีที่แล้ว หากเขาจะมาที่นี่อีกครั้งก็คงจะเป็นสิบปีข้างหน้า พวกหลานคงไม่ได้เจอเขาแล้วล่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
“สิบปี… นานขนาดนั้นเลยหรือคะ? ถ้าอย่างนั้นเราก็คงไม่ได้พบเขาอีกแล้ว แต่เขาเป็นใครคะทำไมผู้อาวุโสจูถึงดูเคารพเขามากขนาดนั้น?”
ผู้เฒ่าจิงไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดยิบย่อย เขาเพียงบอกเล่าอย่างกระชับว่า “ปกติแล้วคุณเว่ยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอกเลย และไม่ปรากฏตัวนัก ดังนั้นหลานไม่ต้องรู้หรอก เพราะมันไม่มีอะไรให้เราสืบทราบได้เลย”
ได้ยินผู้เฒ่าจิงตอบกลับอย่างนั้น ถังซวงจึงไม่ถามต่อและเปลี่ยนเรื่องคุย
หลังจากที่ทั้งสามพูดคุยกันสักครู่หนึ่ง ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนขอตัวออกมา
“เธอยังอยากรู้เรื่องของคุณเว่ยอยู่ไหม? อยากให้ฉันกลับไปถามคุณปู่ที่บ้านหรือเปล่า? เผื่อเขาจะรู้อะไรบ้าง”
ถังซวงส่ายศีรษะเบา ๆ ก่อนจะตอบกลับ “ไม่ค่ะ ในเมื่อคุณปู่พูดอย่างนั้นแล้วว่าเราคงไม่ได้เจอเขาอีก ก็ไม่จำเป็นต้องถามอะไรอีกแล้วล่ะค่ะ”
ตอนนี้ทั้งเธอและแม่ต่างก็มีชีวิตที่ดี ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องต้นกำเนิดที่แท้จริงของเฮ่อหลานอีกแล้ว ในเมื่อคนพวกนั้นทิ้งแม่ของเธอไว้ที่หมู่บ้านเถาฮวา แล้วไม่เคยมีใครออกตามหาแม่เลย เธอก็ไม่ควรจะตามหาพวกเขาเช่นกัน
โม่เจ๋อหยวนได้ยินอย่างนั้นแล้ว เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ทั้งสองกลับมาที่ลานเล็ก ๆ ของถังซวง และเริ่มอ่านหนังสือทันที
ทางด้านของถังชุนหยานและตู้จ้งเหว่ย หลังจากซื้อของเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็ไปทานอาหารด้วยกัน
ตู้จ้งเหว่ยจัดเตรียมทุกอย่างไว้ดีมาก จนถังชุนหยานไม่ต้องทำอะไร เธอเพียงแค่กินและดื่มอย่างสบายใจเท่านั้น
พลบค่ำ ตู้จ้งเหว่ยกลับมาส่งถังชุนหยานที่บ้านตระกูลจิงอย่างไม่ค่อยยินดีนัก
“ชุนหยาน พรุ่งนี้ฉันมาหาใหม่นะ”
ถังชุนหยานรีบส่ายศีรษะก่อนจะตอบว่า “ไม่ล่ะค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะไม่ออกจากบ้านแล้ว วันนี้ฉันเหนื่อยมาก” เธอไม่คิดว่าการเดินซื้อของทั้งวันจะเหนื่อยขนาดนี้
ได้ยินถังชุนหยานปฏิเสธ ตู้จ้งเหว่ยก็อดไม่ได้ที่จะเสียใจ
ถังชุนหยานเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของตู้จ้งเหว่ย ก็คิดได้ว่าตนเองคงปฏิเสธเร็วไป เธอจึงกล่าวเสียงแผ่ว “อย่างนั้น… เรามาอ่านหนังสือด้วยกันที่บ้านก็ได้ แต่ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะออกไปข้างนอกแล้วล่ะ”
ตู้จ้งเหว่ยยกยิ้มกว้างทันที “ครับ งั้นพรุ่งนี้ฉันจะมาหาเธอที่บ้านนะ เราจะทำการบ้านด้วยกัน”
หลังจากพูดคุยกันเสร็จแล้ว ตู้จ้งเหว่ยโบกมือลาถังชุนหยาน
ทันทีที่ถังชุนหยานเข้ามา เป็นเวลาเดียวกับโม่เจ๋อหยวนกำลังจะกลับออกไปพอดี
“กลับแล้วหรือคะพี่เขย?”
โม่เจ๋อหยวนที่เห็นว่าถังชุนหยานกลับมา ก็หันมองตู้จ้งเหว่ยที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก และยกยิ้มตอบกลับ “พวกเธอเพิ่งกลับมาหรือ”
“ค่ะ”
ถังชุนหยานยิ้มเขินอาย
“รีบเข้าบ้านเถอะ เดี๋ยวฉันจะกลับบ้านพร้อมจ้งเหว่ย”
“ค่ะ กลับบ้านดี ๆ นะคะ”
ถังชุนหยานบอกลาโม่เจ๋อหยวนก่อนจะรีบเข้าบ้านทันที
โม่เจ๋อหยวนเหลือบมองตู้จ้งเหว่ยเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้ม จากนั้นทั้งสองก็แยกย้ายกันไป
“พี่เขย กลับบ้านดี ๆ นะครับ”
ได้ยินตู้จ้งเหว่ยเรียกตัวเองอย่างนั้น โม่เจ๋อหยวนเลิกคิ้วประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ตำหนิอีกฝ่ายและตอบกลับไปว่า “อื้ม”
ตู้จ้งเหว่ยโบกมือพร้อมเดินกลับบ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่เมื่อเขาเห็น ตู้จ้งเหลียนกับโหยวอี้หง อารมณ์ดี ๆ ก่อนหน้าพลันหายไปในพริบตา
“จ้งเหว่ย กลับมาแล้วหรือ”
“ครับ”
ตู้จ้งเหว่ยตอบกลับคำเบาก่อนจะพูดว่า “พ่อครับ ถ้าไม่มีอะไร ผมจะกลับไปที่ห้องก่อน”
ตู้หรงหมิงโบกมือให้ตู้จ้งเหว่ยก่อนจะรีบพูดขึ้นว่า “เดี๋ยว ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
เมื่อเห็นว่าพ่อมีอะไรจะพูด เขาจึงทำได้เพียงนั่งลง “มีอะไรหรือครับ?”
“จ้งเหลียนบอกฉันว่าวันนี้แกออกไปซื้อของกับลูกพี่ลูกน้องของคุณหนูจิง”
ตู้จ้งเหว่ยเหลือบมองตู้จ้งเหลียนเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับ “ครับ ผมไปซื้อของกับชุนหยาน”
“ชุนหยาน? ค่อนข้างสนิทกันเลยนี่”
ก่อนที่ตู้หรงหมิงจะพูดต่อ อี้หงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็แสร้งยกยิ้ม “จ้งเหว่ย คงชอบเธอเข้าแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปเดินเที่ยวเล่นกับเธอแบบนี้”
ตู้หรงหมิงได้ยินอย่างนั้น ก็ขมวดคิ้วสงสัยก่อนถามออกไป “จริงหรือจ้งเหว่ย? แกชอบถังชุนหยานคนนั้นงั้นหรือ?”
ตู้จ้งเหว่ยหันมองพ่อของเขาด้วยแววตามั่นคงก่อนจะตอบว่า “ครับ ผมชอบชุนหยาน”
“แก…”
แต่ตู้หรงหมิงไม่คิดว่าลูกชายคนโตจะยอมรับมันตรง ๆ แม้ถังชุนหยานจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของถังซวง แต่หล่อนก็เทียบไม่ได้กับพี่สาวเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขาได้ยินว่าถังชุนหยานเป็นเพียงเด็กสาวที่มาจากชนบท เทียบไม่ได้กับถังซวงและถังเซวี่ยด้วยซ้ำ ทำไมลูกชายของเขาถึงได้ตกหลุมรักผู้หญิงอย่างถังชุนหยาน?
“พ่อครับ ชุนหยานเป็นคนดี และผมอยากจะคบกับเธอ และในอนาคตจะแต่งงานกับเธอด้วย พ่อไม่ควรเข้ามายุ่งเรื่องนี้ ผมโตแล้ว ผมรู้ว่าผมต้องการอะไร”
“ฉันไม่…”
แต่ก่อนที่ตู้หรงหมิงจะพูดจบ เขาถูกขัดจังหวะโดยโหยวอี้หง
“คุณคะ หายากนะคะที่จ้งเหว่ยจะชอบใครสักคน คุณคัดค้านเขาไม่ได้หรอก อีกอย่างถังชุนหยานคนนั้นก็อยู่กับตระกูลจิง เธอต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลจิงแน่ มันดีแล้วไม่ใช่หรือที่จ้งเหว่ยจะคบกับเธอ”
ตู้หรงหมิงรู้ว่าลูกชายของเขาสามารถหาผู้หญิงที่ดีกว่านี้ได้ เพราะตอนนี้ตู้จ้งเหว่ยก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับถังซวงอยู่แล้ว เขามีโอกาสได้พบเจอผู้หญิงอีกมากมาย แต่เวลานี้… เขากลับมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกพี่ลูกน้องของถังซวงอย่างถังชุนหยาน ตู้หรงหมิงถึงกับพูดไม่ออก ตู้จ้งเหว่ยกำลังมองหาคู่ชีวิต และเขาก็ยังไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น จึงทำได้เพียงเฝ้าดูต่อไป
เมื่อเห็นตู้หรงหมิงไม่พูดอะไร โหยวอี้หงก็เข้าใจไปว่าผู้ชายคนนี้เชื่อคำพูดเธอ เธอยกยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ได้
ดีแล้วที่ตู้จ้งเหว่ยคบหากับผู้หญิงต่ำ ๆ เธอคาดหวังจริง ๆ ให้ตู้จ้งเหว่ยและถังชุนหยานไปกันได้ดี เพราะยังไงถังชุนหยานก็เป็นได้แค่หญิงสาวบ้านนอก ต่อให้อาศัยอยู่ในตระกูลจิงก็ไม่สามารถเทียบเทียมกับถังซวงและถังเซวี่ยได้เลยสักนิด
ส่วนตู้จ้งเหลียนที่ตอนนี้ในหัวมีแต่หน้าของถังเซวี่ย อดไม่ได้ที่จะหันมองพ่อกับแม่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พ่อครับ แม่ครับ ผมว่าคุณถังเซวี่ยเป็นคนดีและน่ารักมาก ไม่รู้เลยว่าในอนาคตผมจะมีโอกาสได้เจอเธออีกไหม” ขณะพูดอย่างนั้น เขาหันมองตู้จ้งเหว่ยแล้วถามว่า “พี่ใหญ่ พี่พาผมไปบ้านตระกูลจิงได้ไหม?”