การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 411 กลับ
บทที่ 411 กลับ
บทที่ 411 กลับ
ถังเซวี่ยพยักหน้าตอบกลับเฟิงเยี่ยหาน “อื้ม ยังอยู่สิ” ขณะพูดเธอก็ดึงแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย “ฉันใส่มันตลอดเวลานั่นแหละ แต่ว่าคนอื่นมองไม่เห็น”
เฟิงเยี่ยหานเห็นสร้อยข้อมือเงินที่ค่อนข้างแปลกตาตรงหน้า แววตาของเขาก็สั่นไหว เขาไม่คิดมาก่อนว่าถังเซวี่ยจะใส่มันตลอดเวลา
ถังเซวี่ยเห็นเฟิงเยี่ยหานจ้องมองที่ข้อมือของตน ก็เอามือไพล่หลังก่อนจะพูดด้วยความอึดอัดใจเล็กน้อย “ความจริง… สร้อยข้อมือเส้นนี้มันถอดยากน่ะ หลังจากใส่มันแล้วฉันถอดไม่ออก ก็เลยไม่ได้ถอดมันอีกเลย”
ก่อนหน้านี้เธอพยายามจะเปลี่ยนสร้อยข้อมือให้เข้ากับเสื้อผ้า แต่กลับถอดสร้อยข้อมือเงินนี้ออกไม่ได้ เธอจึงล้มเลิกความพยายามไป
เฟิงเยี่ยหานยกยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า “สร้อยเส้นนี้เหมาะกับคุณมากครับ อย่าถอดเลยนะ ใส่ไว้ตลอดเถอะครับ”
ถังเซวี่ยก็ไม่ได้คิดจะถอดมันในเร็ว ๆ นี้เหมือนกัน เลยพยักหน้ารับก่อนจะตอบกลับว่า “อื้ม ฉันยังไม่ถอดมันหรอก คุณรีบไปขึ้นรถไฟได้แล้ว จะสายแล้วนะ”
เฟิงเยี่ยหานยกยิ้มก่อนจะตอบกลับว่า “ครับ งั้นผมไปก่อน น่าจะยังไม่สาย” แต่สุดท้ายแล้ว เขาไม่สามารถห้ามตัวเองได้ ชายหนุ่มก้าวขาไปด้านหน้าก่อนยกมือลูบศีรษะของถังเซวี่ยอย่างแผ่วเบา ๆ “เสี่ยวเซวี่ย ไว้ผมมาหาใหม่นะ”
ทันทีที่ถูกสัมผัสอ่อนโยนจากอีกฝ่าย ใบหูของถังเซวี่ยกลายเป็นสีแดงก่ำอย่างปิดไม่มิด เธอไม่คิดมาก่อนว่าเฟิงเยี่ยหานจะทำแบบนี้ ขณะกำลังจะพูด อีกฝ่ายกลับหยุดเคลื่อนไหว “เสี่ยวเซวี่ย คุณกลับไปได้แล้ว ส่งผมแค่นี้ก็พอ”
“คุณนั่นแหละที่ขึ้นรถได้แล้ว ฉันจะกลับหลังจากคุณขึ้นรถไฟ”
เฟิงเยี่ยหานยกยิ้มตอบกลับ “คร้าบ ๆ”
เขาโบกมือลาถังเซวี่ยก่อนจะเดินขึ้นรถไป และเหลือบมองแผ่นหลังของถังเซวี่ยก่อนจะเดินต่อไปพร้อมรอยยิ้มมีความสุข
ถังเซวี่ยหันมองเฟิงเยี่ยหานอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังกลับเมื่อเห็นว่าเขาขึ้นรถไฟไปแล้ว
“เสี่ยวเซวี่ย กลับมาแล้วหรือ”
ถังเซวี่ยเห็นถังซวงเพิ่งกลับมาจากด้านนอก จึงยกยิ้มถาม “พี่ก็กลับมาแล้วหรือคะ?”
“ใช่ ฉันออกไปซื้อของมาน่ะ” ถังซวงดึงถังเซวี่ยเข้ามาใกล้ก่อนจะกล่าวถามว่า “เฟิงเยี่ยหานกลับเมืองไห่เฉิงแล้วหรือ?”
“ค่ะ เขาเพิ่งกลับไปไม่นานนี้เอง”
ถังเซวี่ยพยักหน้าก่อนจะบอกเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่เธอทำร่วมกับเฟิงเยี่ยหานในช่วงสองวันที่ผ่านมา “เฟิงเยี่ยหานบอกว่าเขาจะมาเมืองหลวงเพื่อขยายธุรกิจด้วยค่ะ และจะมาที่นี่อีกครั้ง แต่ก็ไม่รู้นะคะว่าเมื่อไหร่”
แม้ถังเซวี่ยจะเล่าเรื่องราวมากมาย แต่เธอก็ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องที่เฟิงเยี่ยหานลูบหัวของเธอด้วย เพราะเด็กสาวรู้สึกว่าเฟิงเยี่ยหานก็คงจะไม่รู้ตัว อีกอย่างมันก็แค่การลูบหัวธรรมดา ๆ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร
ถังซวงขมวดคิ้วหลังได้ยินคำพูดของถังเซวี่ย
“ตระกูลเฟิงจะเข้าเมืองหลวงเพื่อขยายธุรกิจงั้นหรือ? เขาคิดจะทำอะไรในเมืองหลวงกัน?”
“ยังไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้นหรอกค่ะ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเฟิงเยี่ยหานจะมาเมื่อไหร่”
ถังซวงพยักหน้า “อื้ม ยังพอมีเวลาอยู่ ยังไงซะพรุ่งนี้เธอควรจะพักผ่อนนะ เราจะแวะไปเยี่ยมคุณปู่หลี่กับคุณย่าซูกัน”
ถังเซวี่ยไม่ปฏิเสธและพยักหน้ารับทันที “ค่า”
เช้าวันอาทิตย์ โม่เจ๋อหยวนและตู้จ้งเหว่ยมาหาถังซวง ถังเซวี่ย และถังชุนหยานเพื่อไปเยี่ยมหลี่จงอี้ด้วยกัน เมื่อทั้งห้ามาถึง สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาทันที
เกอชิงเหม่ยเห็นถังซวงและคนอื่น ๆ มาหา จึงให้ทุกคนนั่งคุยกับคนแก่ในบ้านไปก่อน ส่วนเธอแยกตัวไปทำอาหาร
ถังซวงเห็นเกอชิงเหม่ยอยู่ในครัวคนเดียว เลยรีบเข้ามาช่วย
“ซวงเอ๋อร์ เธอกับเสี่ยวเซวี่ยไปพักผ่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวป้าจัดการเรื่องในนี้เอง”
เกอชิงเหม่ยเห็นว่าถังซวงแต่งตัวดีมาก เลยไม่อยากให้เธอต้องมาขลุกอยู่ในครัว
แต่ถังซวงไม่สนใจเรื่องนั้นแม้แต่น้อย เธอเข้ามาช่วยเกอชิงเหม่ยด้วยความคล่องแคล่ว
เห็นหลานสาวยืนกรานอย่างนั้น เกอชิงเหม่ยไม่พูดอะไรอีก ยังไงมีถังซวงมาช่วยทุกอย่างก็เสร็จเร็วขึ้น อาหารหลายจานจึงเสร็จอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองพูดคุยกันระหว่างทำอาหาร
“ป้าเกอคะ ปีนี้คุณทำงานหนักมากเลย ไม่เพียงแต่ต้องดูแลอาวุโสทั้งสองคน แต่ต้องดูแลกิจการด้านนอกด้วย” ด้วยการทำงานหนักของเกอชิงเหม่ย อาคารเย็บปักในเมืองหลวงใกล้จะพร้อมเปิดตัวแล้ว
ได้ยินอย่างนั้นเกอชิงเหม่ยโบกมือพร้อมยกยิ้มอบอุ่น “อย่าคิดมากเลย ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฉันสมควรทำอยู่แล้ว อีกอย่างไม่ต้องพูดว่าฉันจะได้รับส่วนแบ่งมากมายหลังจากอาคารเย็บปักเสร็จสมบูรณ์ สุดท้ายแล้วมันก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันอยู่แล้ว”
“ป้าเกอคะ ป้าทำงานหนักมากจริง ๆ นะคะ”
“พอได้แล้วจ้ะสาวน้อย พูดอย่างนี้ฉันก็เขินแย่สิ”
เกอชิงเหม่ยรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ ๆ เพราะก่อนหน้านี้เธอคิดเพียงแค่ว่าอยากจัดการกับเรื่องในเมืองหลวงให้เร็วที่สุด แล้วค่อยจัดการเรื่องของตนเองภายหลัง
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ซ่างสยงเยี่ยกล่าวทิ้งท้ายไว้ก่อนจะจากไป เกอชิงเหม่ยอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว “ซวงเอ๋อร์ อีกไม่นานป้าอาจจะไปจากเมืองหลวงแล้ว วันนั้นคงต้องเป็นเธอที่เข้ามาดูแลลุงหลี่และอาจารย์แทน”
ถังซวงได้ยินประโยคนั้นก็ถึงกับตกใจเล็กน้อยก่อนจะถามอย่างสงสัย “ป้าเกอจะไปไหนหรือคะ? หรือว่าจะกลับไปมณฑลเจียง?”
เกอชิงเหม่ยพยักหน้า “ใช่จ้ะ ป้าอยากกลับไปที่นั่น ถึงฉินซิวเหนียงจะช่วยจัดการดูแลให้ แต่ป้าก็ไม่ค่อยสบายใจต้องกลับไปดูด้วยตัวเอง และอีกอย่าง… ป้ามีเรื่องต้องกลับไปจัดการด้วย”
“ป้าเกอจะกลับไปคนเดียวหรือคะ? ให้ฉันกลับไปด้วยไหม?”
เกอชิงเหม่ยรีบโบกมือก่อนจะพูดว่า “ไม่ล่ะ ป้ากลับไปคนเดียวดีกว่า ไม่ต้องห่วงจ้ะ ป้าจะรีบกลับมาที่นี่ทันทีหลังจากเสร็จธุระแล้ว ไม่ได้ไปนานหรอก”
ได้ยินเกอชิงเหม่ยพูดอย่างนั้น ถังซวงจึงไม่ได้โต้แย้งอะไรอีก
แม้ทั้งสองจะพูดคุยกันแต่ว่ามือยังไม่หยุดเคลื่อนไหว เร่งเตรียมอาหาร ก่อนจะยกจานขึ้นโต๊ะอย่างรวดเร็ว และจากนั้นเกอชิงเหม่ยก็เรียกทุกคนมารับประทานอาหารด้วยกัน
มื้ออาหารเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่โม่เจ๋อหยวนกลับรู้สึกได้ว่าถังซวงอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก หลังจากกลับออกมา โม่เจ๋อหยวนจึงถามเธออย่างเป็นห่วง
“ที่จริงไม่มีอะไรหรอกค่ะ แต่หลังจากได้รู้ว่าป้าเกอจะไปจากเมืองหลวงสักพัก ฉันก็รู้สึกใจหายน่ะ”
“หือ… ป้าเกอกำลังจะไปจากเมืองหลวงงั้นหรือ?”
ถังซวงพยักหน้า “ค่ะ เธอจะกลับไปที่บ้านเกิดน่ะ”