การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 421 ไปพบเขา
บทที่ 421 ไปพบเขา
บทที่ 421 ไปพบเขา
จิงเจ้อหรงพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของถังซวง ก่อนจะตอบกลับ “อืม ตู้หรงหมิงไม่ใช่คนดี ไม่อย่างนั้นลูกชายคนเล็กของเขาจะไม่เป็นอย่างนี้แน่ พ่อจะทวงความยุติธรรมให้กับเสี่ยวเซวี่ยแน่นอน ลูกวางใจได้”
แต่เมื่อนึกถึงเฟิงเยี่ยหาน ใบหน้าของจิงเจ้อหรงก็ผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย
“คราวนี้เฟิงเยี่ยหานทำได้ดี คนที่เขาส่งมาช่วยเสี่ยวเซวี่ยไว้ และยังควบคุมตัวตู้จ้งเหลียนทันทีด้วย”
เวลานี้ถังซวงเองก็มองเฟิงเยี่ยหานเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน และหลังได้ยินคำพูดของจิงเจ้อหรง เธอพยักหน้ารับก่อนจะพูดต่อว่า “ค่ะ เขาทำได้ดี”
“ซวงเอ๋อร์ เราไปหาตู้จ้งเหลียนกันเถอะ”
“ค่ะพ่อ”
ซวงเอ๋อร์จะไปที่นั่นด้วยตนเอง และแน่นอนว่าทุกคนก็จะไปด้วยกัน
หลังจากเฟิงเยี่ยหานรู้ว่าถังซวงและคนอื่น ๆ กำลังจะไปชานเมืองทางตะวันออก เขาจึงลุกขึ้นก่อนจะพูดว่า “คุณลุงจิงครับ ผมจะพาไปครับ”
“อืม งั้นเธอนำทางไป”
ลานเล็ก ๆ ในเขตชานเมืองตะวันออกเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของเฟิงเยี่ยหาน ถ้าไม่ใช่เพราะเฟิงเยี่ยหานที่พาไป พวกเขาคงไปไม่ถูกแน่นอน
หลังจากถังซวงและคนอื่น ๆ ออกเดินทาง ถังชุนหยานยังคงอยู่กับถังเซวี่ย
“พี่ชุนหยาน แล้วพี่ตู้จ้งเหว่ยว่ายังไงบ้างหรือคะ?”
ถังชุนหยานกล่าวตอบว่า “ตู้จ้งเหว่ยมีเหตุผลพอ เขารู้ว่าตู้จ้งเหลียนทำผิด และไม่มีความคิดที่จะเข้าข้างอีกฝ่ายเลย แต่ว่า…”
“แต่อะไรหรือคะ?”
ถังเซวี่ยถาม
“ตู้จ้งเหว่ยบอกว่าถ้าพ่อของเขาไม่ได้ทำผิดร่วม เขาก็แค่หวังว่าเราจะปล่อยพ่อของเขาไป เพราะตัวเขาไม่ได้มีความห่วงใยแม่เลี้ยงและตู้จ้งเหลียน แต่ตู้หรงหมิงคือพ่อผู้ให้กำเนิด เขายังห่วงพ่อของเขาอยู่”
ถังชุนหยานเล่าสิ่งที่ตู้จ้งเหว่ยพูด ก่อนจะถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
เหตุการณ์นี้จะสร้างความยุ่งยากในความสัมพันธ์ของเธอแน่นอน แต่หากสุดท้ายแล้วมันไม่มีทางแก้ไข ถ้าต้องเลือก แน่นอนว่าเธอเลือกจะอยู่กับเสี่ยวเซวี่ย
“เสี่ยวเซวี่ยไม่ต้องคิดมากหรอก ทำในสิ่งที่สมควรเถอะ ถ้าพ่อของตู้จ้งเหว่ยทำผิดจริง ๆ เขาก็สมควรถูกลงโทษแล้ว”
ถังเซวี่ยลูบหลังมือของถังชุนหยาน “ขอบคุณนะคะพี่ชุนหยาน”
ถังชุนหยานส่ายศีรษะ “เสี่ยวเซวี่ย ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอกับพี่สาวซวง ฉันก็คงต้องแต่งงานไปตั้งนานแล้ว และคงอยู่ในบ้านนั่งอยู่หน้าเตาทั้งวัน อีกอย่างฉันอาจจะถูกสามีซ้อมด้วยก็ได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเพราะพวกเธอที่ยื่นมือช่วยเหลือ”
ถังเซวี่ยยกยิ้ม “พี่ชุนหยาน พี่จะมีชีวิตที่ดีเพราะความพยายามของพี่ค่ะ ไม่ต้องขอบคุณพวกเราแล้ว เอาล่ะ เราไปห้องโถงกันเถอะ กลัวแม่ตื่นมาไม่เห็นใครแล้วจะยุ่งเอานะ”
“จ้ะ ไปกันเถอะ”
อีกด้าน ถังซวงและคนอื่น ๆ มาถึงชานเมืองทางตะวันออกแล้ว
“ที่นี่ครับคุณลุงจิง”
เฟิงเยี่ยหานเดินนำหน้าคนอื่น ๆ เข้าไปในลาน
เฟิงเอ้อร์รออยู่ด้านในแล้ว เมื่อเห็นว่าเฟิงเยี่ยหานมาถึงเขารีบก้าวไปด้านหน้า “นายท่าน เราสั่งสอนบทเรียนให้กับผู้ชายคนนั้นแล้วครับ ตอนนี้เขาอยู่ข้างใน”
“อืม ฉันจะไปดูหน้ามันหน่อย”
เฟิงเยี่ยหานโบกมือเชิญชวนให้จิงเจ้อหรงเข้ามา
จิงเจ้อหรงเดินเข้ามาด้านใน และเห็นตู้จ้งเหลียนถูกมัดไว้กับเก้าอี้ ใบหน้าฟกช้ำจนดวงตาปิดสนิท จมูกและแก้มบวมจนไม่เหลือรูปลักษณ์เดิม แม้แต่ร่างกายก็เต็มไปด้วยรอยแผลตื้นลึกหนาบางมากมาย
แต่จิงเจ้อหรงยังรู้สึกว่ามันน้อยเกินไป
ทันทีที่ตู้จ้งเหลียนเห็นว่ามีคนเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ เขายืดคอขึ้นและเห็นว่าเป็นจิงเจ้อหรงกับถังซวง จึงตื่นเต้นแล้วพูดขึ้นว่า “คุณจิง คุณมาหาผมหรือครับ โปรดช่วยผมด้วยเถอะครับ! คนพวกนี้เป็นฆาตกร พวกเขาจับผมมาที่นี่แล้วซ้อมผม ทั้งเตะต่อยไม่หยุดหย่อน รีบจับเขาเถอะครับ”
แม้เขาจะกลัวจิงเจ้อหรงโกรธเคืองเรื่องของถังเซวี่ย แต่เขาก็รู้สึกว่าจิงเจ้อหรงกับถังซวงจะเป็นมิตรมากกว่าเฟิงเอ้อร์และคนอื่น ๆ ที่เขาไม่รู้จัก
“เหอะ…”
จิงเจ้อหรงแค่นหัวเราะเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“เด็กน้อย ทำไมถึงคิดว่าฉันจะมาช่วยนายล่ะ? ลืมสิ่งที่ตัวเองทำไปแล้วหรือ ดีแค่ไหนแล้วที่พวกเราไม่ฆ่านายทิ้ง” เสียงของจิงเจ้อหรงทุ้มต่ำและแผ่วเบา เขาชกหน้าตู้จ้งเหลียนโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว
“อั่ก…”
ตู้จ้งเหลียนกระอักเลือดออกมาหลังจากถูกชก หันมองจิงเจ้อหรงด้วยความไม่เชื่อสายตา
จิงเจ้อหรงที่ดูสง่างามและอ่อนโยนก่อนหน้ากลับกลายเป็นอีกคนหนึ่ง คนที่เป็นสุภาพบุรุษที่มีผู้คนนับหน้าถือตามากมาย ตู้จ้งเหลียนไม่คิดเลยว่าชายคนนี้จะมีเรี่ยวแรงจัดการกับคนอื่นด้วย “คุณ…”
ขณะพูด ตู้จ้งเหลียนหันมองจิงเจ้อหรง ก่อนจะหันมองเฟิงเอ้อร์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง เวลานี้เขาตระหนักได้ถึงบางสิ่ง “นี่… พวกคุณทุกคนเป็นพวกเดียวกันและจับผมมา”
จิงเจ้อหรงไม่พูดต่อ ก่อนจะชกตู้จ้งเหลียนอีกครั้ง และอีกครั้ง
แต่ถังซวงเป็นคนรั้งจิงเจ้อหรงเอาไว้ “พ่อคะ ถ้ายังชกเขาต่อไป เขาอาจจะตายได้นะคะ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว จิงเจ้อหรงหยุดมือก่อนจะหันมองเฟิงเยี่ยหานแล้วพูดว่า “พาเขาไปที่บ้านตระกูลตู้กับเรา”
“ครับคุณลุงจิง”
เฟิงเยี่ยหานตอบรับอย่างสุภาพ หลังจากที่เฟิงเอ้อร์พาตัวตู้จ้งเหลียนออกไป เขาหันมาบอกจิงเจ้อหรงและเดินออกไปด้วยเช่นกัน “คุณลุงจิงครับ พวกเราเตรียมรถไว้แล้ว พร้อมออกเดินทางทันทีครับ”
จิงเจ้อหรงพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนติดตามไปด้วยเช่นกัน
เวลานี้ภายในบ้านตระกูลตู้ โหยวอี้หงกำลังร้องไห้กับตู้หรงหมิง “คุณตู้ จ้งเหลียนถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตาของฉัน เรื่องโหดเหี้ยมอย่างนี้เกิดขึ้นในเมืองหลวงได้ยังไง มันเกิดขึ้นกับเราได้ยังไง นี่มันเท่ากับการตบหน้าคุณนะคะ คุณต้องส่งคนออกไปตามหาจ้งเหลียน ฉันกลัวว่าเขาจะตกอยู่ในอันตรายถ้าขืนเราชักช้ากว่านี้”
ตู้หรงหมิงได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึมด้วยความโกรธ
“ให้ตาย… ผมจะส่งคนไปตามหาจ้งเหลียน ถ้าพวกมันกล้าทำร้ายจ้งเหลียน ผมจะไม่ปล่อยพวกมันไปแน่”
“ใช่ ใช่ค่ะ คุณห้ามปล่อยพวกมันไป ไอ้พวกอันธพาลพวกนั้นมันชั่วช้ามาก”
โหยวอี้หงจำฉากที่ลูกชายถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตาได้ดี และเธอหวังว่าคนพวกนั้นจะตายทั้งหมด
ขณะที่กำลังพูดคุยกัน ตู้จ้งเหว่ยก็เดินเข้ามา
วันนี้เขาค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยเพราะถังชุนหยานไปหาเขาที่โรงเรียน และหลังจากได้ยินสิ่งที่ถังชุนหยานบอกแล้ว เขาก็รู้ทันทีว่าตู้จ้งเหลียนสร้างเรื่องจนทำให้ตระกูลตู้ตกที่นั่งลำบาก