การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 428 ความจริงถูกเปิดเผย
บทที่ 428 ความจริงถูกเปิดเผย
บทที่ 428 ความจริงถูกเปิดเผย
เมื่อตู้หรงหมิงได้ยินคำพูดของยายเฒ่าเฉียน ในใจของเขาว่างเปล่าโดยสมบูรณ์
“อะ… อะไรนะ…”
ส่วนโหยวอี้หงหันมองยายเฒ่าเฉียนก่อนจะกล่าวเสียงเข้ม “นี่ยายเฒ่าเฉียน พูดอะไรไร้สาระ เห็น ๆ กันอยู่ว่าจ้งเหลียนคลอดก่อนกำหนด ทำไมคุณถึงยืนยันว่าเป็นการคลอดครบกำหนด? คุณก็อายุมากแล้ว คงจะแก่จนเลอะเลือนก็ได้มั้ง”
เวลานี้โหยวอี้หงลอบนึกคิดในใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่มีวันยอมรับเด็ดขาด
หญิงชราชี้ไปหาโหยวอี้หงก่อนจะดุด่า “หญิงชราคนนี้มีใจที่จะทำคลอดลูกให้กับเธอ แต่เธอกลับปฏิบัติกับฉันยังไงจำได้หรือเปล่า? เธอทั้งขับไล่ฉันออกจากบ้าน และการอาศัยอยู่ในต่างแดนสำหรับพวกเรามันยากมาก ถ้าไม่ใช่เพราะฉันกลับมาที่นี่ไม่ได้ ฉันคงจะเปิดโปงเธอไปนานแล้ว!”
ในตอนท้าย ยายเฒ่าเฉียนหันมองจางหย่งชางก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันจำได้ แกเป็นคนพาคนพวกนั้นมาขู่ฉัน แล้วยังทุบบ้านขับไล่ให้ครอบครัวของเราไปจากที่นี่”
จางหย่งชางไม่คิดว่ายายเฒ่าเฉียนจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง และสิ่งที่เขาทำกลับถูกหญิงชราจดจำขึ้นใจ แม้เขาจะก้มศีรษะเพื่อปิดบังใบหน้า แต่มันก็ไม่มีประโยชน์
ตู้หรงหมิงตกตะลึงอยู่นาน ร่างกายของเขาแข็งค้างไปทั่วขณะก่อนจะหันมองยายเฒ่าเฉียนด้วยความสับสน “คุณย่าเฉียน คุณ… คุณบอกว่าโหยวอี้หงไม่ได้คลอดก่อนกำหนดหรือครับ?”
“ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง หญิงชราอย่างฉันทำคลอดเด็กมาไม่รู้กี่คน ฉันรู้ดีว่าพวกเขาครบกำหนดหรือยัง ยิ่งไปกว่านั้นฉันยังจับชีพจรเพื่อตรวจสอบหญิงตั้งครรภ์ได้ด้วย และตอนนั้นโหยวอี้หงถึงกำหนดคลอดลูกแล้ว”
“หุบปากไปซะนังเฒ่า”
“แกน่ะสิหุบปาก!”
ตู้หรงหมิงหันมองโหยวอี้หงอย่างโกรธแค้น ก่อนจะคว้าท่อนแขนของหล่อนแล้วกระชากเข้าหา “นังสารเลว แกกล้าดียังไงถึงมาหลอกฉัน?”
“คุณตู้ ฉันไม่ได้โกหกคุณนะคะ เป็นนังเฒ่าเฉียนต่างหากที่โกหก”
โหยวอี้หงยังไม่คิดยอมรับ หล่อนหันมองตู้หรงหมิงอย่างโศกเศร้าก่อนจะพูดว่า “คุณตู้ เราอยู่กินฉันท์สามีภรรยามานานหลายปี คุณไม่เชื่อคำพูดของฉันหรือ? ฉันยอมรับว่าอาจจะมีบางเรื่องที่ฉันปล่อยผ่านไป ก็เพราะอารมณ์ของฉันไม่ค่อยคงที่ แต่เรื่องใหญ่แบบนี้ฉันจะโกหกคุณได้ยังไง?”
แปะ แปะ แปะ…
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะปรบมือให้กับโหยวอี้หง
“ฉันขอชื่นชมเลยว่าสภาพจิตใจของคุณยอดเยี่ยมมาก น่าประทับใจไม่น้อยที่คุณยังสามารถกัดลิ้นตัวเองได้อีก แต่วันนี้ไม่ใช่แค่ยายเฒ่าเฉียนเท่านั้นที่มาที่นี่ เพราะสหายเก่าของคุณก็อยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน ยังไงก็ไม่รอดหรอกค่ะ”
ได้ยินคำพูดของถังซวง ตู้หรงหมิงจ้องมองจางหย่งชางทันที
“หรือว่า… พวกมันเป็นชู้กัน?”
“ใช่ค่ะ ภรรยาของคุณไม่พอใจในตัวคุณตู้ แต่ชอบที่จะขลุกอยู่กับจางหย่งชาง ชายผู้เกียจคร้าน และเขาเป็นคนให้กำเนิดตู้จ้งเหลียนอีกด้วย คน ๆ นี้เป็นตัวต้นเหตุทั้งหมด”
ตู้หรงหมิงปล่อยตัวโหยวอี้หง ก่อนจะหันมองจางหย่งชางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ขณะนี้เขาระเบิดเสียงหัวเราะลั่น
“โหยวอี้หง นังสารเลว แกกล้าให้ฉันรับผิดชอบลูกคนอื่นงั้นหรือ ฉันสมเพชตัวเองจริง ๆ ที่ใจดีกับแกสองแม่ลูกมาตั้งนาน ฉันทำผิดที่ไม่รักลูกตัวเอง แต่กลับไปรักลูกชู้ของเมียชั่วอย่างแก!”
“ไม่… ไม่ใช่นะ…”
โหยวอี้หงยังคงปฏิเสธ
เวลานี้ดวงตาของตู้หรงหมิงแดงก่ำ เขาหันมองโหยวอี้หงก่อนจะพูดว่า “ถึงขนาดนี้ยังไม่ยอมรับอีกหรือ นังหน้าด้าน!”
“คุณย่าเฉียนพูดออกมาขนาดนี้แล้ว เพราะชู้ของแกพาคนไปทุบบ้านของหล่อน ถ้าไม่ใช่เพราะแก พวกเขาจะทำอย่างนั้นทำไม? อีกอย่างตอนที่จางหย่งชางถูกพาตัวเข้ามา แกก็รีบแสร้งพูดว่าไม่รู้จักเขาทั้งที่ยังไม่มีใครถาม หึ สุดท้ายก็กลายเป็นคนที่รู้จักกันมานาน แล้วยังรู้จักกันดีเสียด้วยสิ”
“ทำไมถึงไม่ยอมรับ? ที่แกต้องการให้คุณชายจิงกับคนอื่น ๆ พาเขาออกไปน่ะ…”
ดวงตาของตู้หรงหมิงกลายเป็นดุร้ายยิ่งขึ้น
“เพราะแกกลัวว่าฉันจะรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกแกทั้งสองคนใช่ไหม กลัวที่จะให้ฉันรู้ว่าจ้งเหลียนเป็นลูกชู้!”
“ไม่… ไม่ใช่…”
ตู้จ้งเหลียนส่ายศีรษะด้วยใบหน้าซีดเซียว ปากของเขาพึมพำ “ผมเป็นลูกพ่อ ไม่ใช่ลูกชู้”
แม้แต่ตู้จ้งเหว่ยเองก็หันมองตู้จ้งเหลียนด้วยความประหลาดใจเช่นกัน ก่อนจะหันมองโหยวอี้หงและจางหย่งชางสลับไปมา เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น… ถ้างั้นตู้จ้งเหลียนก็ไม่ใช่น้องชายของเขาตั้งแต่ต้น งั้นเขาก็ถูกหลอกมานานหลายปีแล้วสิ
หลังจากตู้หรงหมิงได้ยินตู้จ้งเหลียนพูด เขาหมดสิ้นความรักที่เคยมีทันที และกำลังง้างหลังมือหวดใบหน้าของชายหนุ่ม
“แม่ของแกมันเป็นนังแพศยา แล้วแกก็มาจากเลือดชั่ว ๆ ของชู้ ไม่แปลกใจเลยที่จะมีความคิดเน่า ๆ แบบนี้ แล้วยังลากฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งที่เราไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน”
เพราะคำบอกเล่าจากอดีตหมอทำคลอด และจางหย่งชางเองก็อยู่ที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นตู้หรงหมิงเชื่อในความสามารถของจิงเจ้อหรง หากหลักฐานไม่เพียงพอแล้ว อีกฝ่ายจะไม่มายืนอยู่ตรงนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงสรุปได้ทันทีว่าตู้จ้งเหลียนไม่ใช่ลูกชายของเขา
ยิ่งเขานึกคิดว่าตนเองถูกสวมเขาและเลี้ยงดูลูกชู้มานานนับสิบปี ตู้หรงหมิงอยากจะฉีกร่างของโหยวอี้หงออกเป็นชิ้น ๆ
ตู้หรงหมิงรู้สึกหมดสิ้นศักดิ์ศรีเพียงเพราะผู้หญิงคนนี้
และอาการบาดเจ็บของตู้จ้งเหลียนยังไม่หายดีนัก เมื่อถูกตู้หรงหมิงทุบตี เขาเริ่มเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อจางหย่งชางเห็นว่าตู้หรงหมิงกำลังทุบตีตู้จ้งเหลียน เขาตะโกนลั่น “คุณทำอะไร? เด็กไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ทำไมถึงทุบตีเขา?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า… ไม่รู้เรื่องงั้นหรือ”
ตู้หรงหมิงระเบิดเสียงหัวเราะ เขาบ้าคลั่งไปเสียแล้ว
จางหย่งชางดิ้นรนพยายามจะออกจากการควบคุม “ปล่อย ปล่อยฉัน!” แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการเห็นตู้จ้งเหลียนถูกทุบตี เพราะนั่นคือลูกชายเพียงคนเดียวของเขา
เมื่อเห็นท่าทีเป็นกังวลของจางหย่งชาง ใบหน้าของตู้หรงหมิงยิ่งบิดเบี้ยว
“ความสัมพันธ์ของพ่อลูกสินะ…”
“ฉัน…”
เวลานี้เองที่จางหย่งชางตระหนักได้ว่าเขาแสดงออกมากเกินไป และตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไรดี
เห็นอย่างนั้น ทุกคนที่เคยสับสนก่อนหน้าพลันเข้าใจเรื่องราวทันที
ยายเฒ่าเฉียนตะคอกเย็นชา “ไม่แปลกใจเลยที่พวกแกพาคนมารุมทำลายบ้านฉัน และบีบบังคับให้พวกฉันไปอยู่ที่อื่น ทั้งหมดเป็นเพราะลูกในท้องของโหยวอี้หงเป็นลูกของแกนี่เอง”
โหยวอี้หงที่ไม่พอใจจางหย่งชางอยู่แล้ว เพราะการที่เขามาที่นี่คือการทำลายเธอโดยสมบูรณ์ และยิ่งเห็นสีหน้าที่ไร้สำนึกของจางหย่งชาง เธอยิ่งโกรธ “จางหย่งชาง ฉันเคยบอกให้คุณออกจากเมืองหลวงไปแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงยังไม่ออกไปอีก? คุณอยากจะอยู่ที่นี่เพื่อรอฆ่าเราสองคนแม่ลูกหรือไง?”
“เธอ…”
แม้ตู้จ้งเหลียนไม่ต้องการยอมรับ แต่เขาก็เข้าใจแล้วว่าตนไม่ใช่ลูกชายของตู้หรงหมิง แต่เป็นลูกชายของจางหย่งชางที่อยู่ตรงหน้า
เป็นไปได้อย่างไร
จางหย่งชางเห็นใบหน้าซีดเซียวของตู้จ้งเหลียนก็กล่าวด้วยความสำนึกผิด “ลูกชาย… พ่อขอโทษ พ่อไม่น่าเห็นด้วยกับความคิดของแม่แกเวลานั้นเลย พ่อน่าจะพาลูกไปด้วยตั้งแต่ลูกเกิดมา”