การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 438 ฝาแฝดชายหญิง
บทที่ 438 ฝาแฝดชายหญิง
บทที่ 438 ฝาแฝดชายหญิง
จิงเจ้อหรงมองเฮ่อหลานที่ถูกนำตัวเข้าห้องคลอด ในใจก็รู้สึกสั่นเทิ้มอย่างบอกไม่ถูก เวลานี้เขากำลังเดินกระสับกระส่ายไปมาอยู่หน้าห้อง
“พ่อคะ แม่ยังทำคลอดยังไม่เสร็จในเร็ว ๆ นี้หรอกค่ะ นั่งลงก่อนเถอะ”
จิงเจ้อหรงส่ายศีรษะทันที “ซวงเอ๋อร์นั่งกับเจ๋อหยวนไปก่อนนะ เดี๋ยวพ่อจะยืนอยู่ตรงนี้เอง” เวลานี้เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป เพราะก่อนหน้านี้เขาเห็นใบหน้าของเฮ่อหลานชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อจนเส้นผมเปียก ก็รู้แล้วว่าเธอกำลังเจ็บปวดแค่ไหน
ได้ยินจิงเจ้อหรงตอบกลับ ถังซวงไม่รู้จะพูดอะไรอีก เธอรู้ว่าจิงเจ้อหรงจะไม่ยอมหายกังวลจนกว่าจะเห็นว่าแม่และลูกแฝดปลอดภัย
แต่โม่เจ๋อหยวนดึงถังซวงให้นั่งลง
“ซวงเอ๋อร์ นั่งลงก่อนเถอะ”
“ค่ะ”
ขณะที่ทั้งหมดกำลังนั่งรอ คุณนายจิงมาถึงพร้อมกับถังเซวี่ยและถังชุนหยาน “อาเจ้อ อาหลานอยู่ไหน?”
“แม่มาได้ยังไงครับเนี่ย” จิงเจ้อหรงอุทานออกมาก่อนจะบอกว่าเฮ่อหลานกำลังจะคลอด “อาหลานกำลังคลอดครับ ผมไม่รู้ว่าข้างในนั้นเป็นยังไงบ้าง”
คุณนายจิงยกยิ้ม “พวกเราเพิ่งจะมาถึง ยังไม่เสร็จในเร็ว ๆ นี้หรอก แกนั่งรอก่อนเถอะ”
ถังเซวี่ยและถังชุนหยานพยักหน้ารับก่อนจะนั่งลง
จากนั้นไม่นาน ครอบครัวจิงที่เหลือได้ทราบข่าว อวี๋มินและเมิ่งผิงรีบเร่งมาหาเฮ่อหลาน แต่ทุกคนคงมาเร็วเกินไป เพราะตอนนี้เฮ่อหลานยังอยู่ในห้องคลอดอยู่เลย
“คุณแม่คะ อาหลานเข้าห้องคลอดไปนานหรือยัง?”
ได้ยินอวี๋มินถาม คุณนายจิงนับเวลาก่อนจะตอบว่า “ฉันนั่งรอตรงนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้วละ”
“งั้นก็คงอีกสักพักใหญ่แหละค่ะ คงไม่เสร็จง่าย ๆ”
แต่ว่าหลังจากอวี๋มินพูดอย่างนั้น ประตูห้องคลอดก็เปิดออก
จิงเจ้อหรงเป็นคนแรกที่ลุกขึ้น เขาพุ่งเข้าหาหมอทันที “หมอครับ ภรรยาของผมเป็นยังไงบ้าง?”
“ไม่ต้องกังวลนะครับ ภรรยาของคุณสบายดี ยินดีด้วยครับคุณได้ลูกแฝดชายหญิง” ขณะหมอพูด พยาบาลสองคนออกมาพร้อมกับทารกสองคน
“พระเจ้า ลูกแฝด ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหม?”
คุณนายจิงได้ยินสิ่งที่หมอบอก ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ แม้เธอจะรู้อยู่แล้วว่าเฮ่อหลานตั้งครรภ์ลูกแฝด แต่เธอก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นฝาแฝดชายหญิง นี่มันดีเกินไปแล้ว
คุณนายจิงเดินไปหาทารกทั้งสองด้วยความยินดี เธอมองเด็กทั้งสองอย่างรักใคร่ แม้จะอยากอุ้มแต่ก็ยังไม่กล้า
“เดี๋ยวครอบครัวของคุณเฮ่อหลานไปรอที่ห้องพร้อมกับเด็กก่อนนะคะ ส่วนคุณแม่เดี๋ยวจะตามไปภายหลังค่ะ” พยาบาลกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อวี๋มินและเมิ่งผิงทำตามอย่างรวดเร็วและอุ้มเด็กทั้งสองคนเอาไว้อย่างมั่นเหมาะ
ถังซวงและถังเซวี่ยเดินตามหลัง ทั้งสองไม่มีโอกาสที่จะได้อุ้มเด็กน้อย เพราะไม่มีประสบการณ์การอุ้มเด็กอ่อน จึงให้อวี๋มินและเมิ่งผิงทำจะเหมาะสมกว่า
หลังจากจิงเจ้อหรงทราบว่าเฮ่อหลานปลอดภัยดี เขาก็สงบจิตใจลงได้เสียที หันมองคุณนายจิงก่อนจะพูดว่า “แม่ครับ พาเด็กสองคนไปก่อนเถอะครับ ผมจะรออาหลาน”
“อื้ม งั้นเดี๋ยวแม่ไปก่อนแล้วกัน”
คนอื่น ๆ ไปรอในห้องพร้อมกับทารกทั้งสอง
ทารกแรกเกิดตัวเล็กมาก ถังซวงมองเด็กทั้งสองคนสลับไปมา เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับเด็กสองคนนี้ แม้จะอยากกอดแต่ก็ทำได้เพียงมองอย่างอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น
ถังเซวี่ยและถังชุนหยานเองก็ไม่ต่างกัน พวกเขาไม่กล้าที่จะอุ้มทารกน้อย จึงทำได้เพียงมองอยู่ใกล้ ๆ
“เด็กสองคนนี้หน้าตาเหมือนกัน แต่ว่าใครเกิดก่อนนะ”
ได้ยินคำพูดของถังชุนหยานแล้ว ถังซวงมองห่วงข้อเท้าของเด็กทั้งสองคน “มีเขียนอยู่ตรงนั้น”
“เด็กชายเป็นพี่ เด็กหญิงเป็นน้อง” ถังชุนหยานกล่าวออกมาอย่างเอ็นดู ในที่สุดเธอก็ทราบว่าใครเป็นพี่ ใครเป็นน้อง
คนอื่นได้ยินอย่างนั้นก็มุงเข้ามาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
คุณนายจิงกล่าวพร้อมยกยิ้ม “ในอนาคต พี่ชายคงจะปกป้องน้องสาวอย่างดีแน่นอนจ้ะ”
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุย ทารกน้อยหาวปากกว้างอย่างน่ารักน่าชัง คุณนายจิงเลยบอกให้ทุกคนเงียบเสียง “เด็กน้อยอยากจะนอนแล้ว ทุกคนอย่าเสียงดังรบกวนพวกเขานะ”
“ใช่ ๆ อย่ากวนพวกเขา”
คุณนายจิงรีบจัดการกับเด็กทารกทั้งสองทันที
เวลานี้จิงเจ้อหรงและเฮ่อหลานเข้ามาในห้อง
เฮ่อหลานยังคงมีสติและมองหาลูกน้อยทั้งสองทันทีที่เข้ามา
“อาหลาน ดูสิ ตัวเล็กทั้งสองเหมือนจะยังง่วงอยู่ พวกเขานอนกอดกันด้วยนะ”
เฮ่อหลานมองเด็กน้อยทั้งสองครู่หนึ่ง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดวงตาจับจ้องทารกน้อยไม่กะพริบ แม้ผิวพรรณของทารกเกิดใหม่จะเหี่ยวย่นและแดงเรื่อ แต่เธอก็รู้สึกว่าทั้งสองมีความเหมือนกับเธอและจิงเจ้อหรงมากเลย น่ารักน่าชังจริง ๆ
จิงเจ้อหรงมองทารกน้อยทั้งสองคน และหันกลับมามองเฮ่อหลาน “อาหลาน นอนลงก่อนเถอะครับ ลูกสองคนไว้ดูทีหลังก็ได้”
แต่เฮ่อหลานเหลือบมองจิงเจ้อหรงก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฉันอยากจะมองพวกเขาค่ะ อีกอย่างฉันยืนได้ไม่เป็นไรเลย” การคลอดผ่านไปได้ด้วยดี และหลังจากคลอดเธอสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง ไม่รู้สึกเจ็บอะไรทั้งสิ้น
ถังซวงที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดขึ้นว่า “แม่คะ นอนลงก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูอุ้มน้องวางข้าง ๆ แม่จะได้ดูพวกเขาต่อไง”
“อ้อจ้ะ อย่างนั้นก็ได้”
ได้ยินถังซวงพูดอย่างนั้น เฮ่อหลานรีบนอนลงก่อนจะวางเด็กทารกสองคนไว้ข้างกาย
อวี๋มินและเมิ่งผิงประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นว่าเฮ่อหลานยังสบายดี “อาหลาน เห็นอย่างนี้ไม่รู้เลยว่าเธอเพิ่งคลอด ร่างกายแข็งแรงมาก”
เฮ่อหลานยิ้มแล้วตอบว่า “ต้องขอบคุณซวงเอ๋อร์ค่ะ เธอช่วยบำรุงร่างกายตั้งแต่ฉันท้องเลย แล้วฉันก็รู้สึกว่าการคลอดครั้งนี้มันง่ายมาก ไม่รู้สึกเจ็บหรือเหนื่อยหลังคลอดด้วย”
อวี๋มินและเมิ่งผิงหันมองถังซวงทันที แม้พวกเธอจะรู้อยู่แล้วว่าถังซวงมีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม แต่พวกเธอก็ไม่เคยเห็นมันด้วยตาตัวเองขนาดนี้ เวลานี้เมื่อเห็นเฮ่อหลานที่แข็งแรง ทั้งสองลอบยอมรับในใจว่าถังซวงเก่งมากจริง ๆ
“อาหลาน เธอโชคดีจริง ๆ”
เฮ่อหลานโชคดีมาก ให้กำเนิดลูกแฝดได้แม้จะอายุมาก อีกทั้งร่างกายก็ไม่เหมือนกับหญิงอายุมากแม้แต่น้อย กลับตรงกันข้ามเธอดูแข็งแรงยิ่งกว่าแม่วัยสาวเหล่านั้นเสียอีก
เฮ่อหลานยกยิ้ม เธอเองก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเช่นกัน
คุณนายจิงที่เห็นว่าแม่และทารกปลอดภัยดี เธอกล่าวกับคนอื่น ๆ “เอาละ ๆ อาหลานคลอดเสร็จแล้ว พวกเธอก็ควรจะกลับบ้านได้แล้ว ไม่ต้องอยู่รบกวนเวลาพักผ่อน ปล่อยให้อาหลานกับเด็ก ๆ พักผ่อนกันดีกว่า”
แต่จิงเจ้อหรงต้องการจะอยู่ต่อ ถังซวงเองก็ต้องการจะอยู่ด้วยเช่นกัน
แม้เฮ่อหลานจะดูแข็งแรงมาก แต่ยังไงเสียเธอก็ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดหลังจากคลอดบุตร
ถังเซวี่ยและถังชุนหยานเองก็ไม่อยากจะกลับไป จนคุณนายจิงเลยพูดขึ้นว่า “อ่า อาเจ้อ ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ยอยู่ที่นี่แล้วกัน ส่วนคนอื่น ๆ กลับบ้านไปกับฉันก่อน อาหารในโรงพยาบาลไม่อร่อยเท่าที่บ้านของเราหรอก เรากลับไปเตรียมอาหารแล้วค่อยมาส่งอาหารให้เฮ่อหลานกับคนอื่น ๆ ดีกว่านะ”