การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 440 ติดต่อเกอชิงเหม่ยไม่ได้
บทที่ 440 ติดต่อเกอชิงเหม่ยไม่ได้
บทที่ 440 ติดต่อเกอชิงเหม่ยไม่ได้
เฮ่อหลานกล่าวทักทายซูเหนียนอวิ๋นกับหลี่จงอี้ด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ ลุงหลี่ มาเร็วจังเลยค่ะ นั่งลงก่อนค่ะทั้งสองคน”
ซูเหนียนอวิ๋นกับหลี่จงอี้รีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่ ๆ พวกเราอยากดูเด็กน้อยสองคนมากกว่า”
ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองโน้มตัวเข้าหาเด็กน้อยทั้งสอง เมื่อเห็นทารกน้อยตรงหน้า ใจของผู้อาวุโสถึงกับอ่อนยวบ “ได้ยินว่าเธอสองคนมีลูกแฝด นี่จู่ ๆ ฉันก็มีหลานชายกับหลานสาวพร้อมกันเลยหรือเนี่ย ว่าแต่คนไหนผู้ชายคนไหนผู้หญิงล่ะ”
ซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้มองเด็กสองคนที่หน้าตาคล้ายกันและไม่สามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้
ถังเซวี่ยพูดขึ้นว่า “คุณปู่ คุณย่าคะ ดูที่หูของน้องสิคะ ผู้หญิงมีไฝค่ะ แต่ผู้ชายไม่มี”
หลี่จงอี้กับซูเหนียนอวิ๋นมองใบหูของเด็กน้อยอย่างละเอียด ก่อนจะเห็นว่ามีไฝเล็ก ๆ ที่ใบหูขวาของทารกหญิง แต่มองเห็นไม่ชัดหากไม่สังเกต
“คนนี้คือน้องสาว คนนี้คือพี่ชายค่ะ”
เด็กทั้งสองคล้ายจะอ้าปากตอบกลับ แต่ไม่นานพวกเขาก็หาวออกมาอีกครั้งก่อนจะผล็อยหลับไป
“เฮ้อ… เด็กนี่ขนาดหลับยังน่ารักเลย สองคนนี้หน้าตาน่ารักน่าชังซะจริง”
ซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้รู้สึกว่าเด็กสองคนนี้น่ารักมาก พวกเขาจึงถามขึ้นว่า “แล้วคิดชื่อของเด็กสองคนนี้หรือยังจ๊ะ? มีชื่อเล่นไหม?”
“ยังไม่ได้เลือกกันเลยค่ะ อาเจ้อคิดชื่อไว้ตั้งเยอะ แต่เขายังไม่พอใจและจะคิดใหม่อีกครั้งน่ะค่ะ” ความจริงแล้วเฮ่อหลานชอบชื่อที่จิงเจ้อหรงตั้ง แต่น่าเสียดายที่จิงเจ้อหรงยังไม่พอใจและจะคิดใหม่อีกสองสามชื่อ เขายังไม่ได้ตั้งชื่อจริง แต่สำหรับชื่อเล่นพวกเขามีแล้ว
“ถ้าเป็นชื่อเล่น ฉันคิดไว้สองชื่อ จะเรียกพวกเขาว่าฟักทองน้อย กับฟักขาวน้อยค่ะ”
ได้ยินสองชื่อนี้ จิงเจ้อหรงขมวดคิ้วเล็กน้อย ความจริงเขาคิดชื่อเล่นไว้แล้วแต่อาหลานกลับไม่ชอบเพราะมันดูเป็นทางการเกินไป มันควรจะเป็นชื่อที่เรียบง่ายมากกว่า จึงออกมาเป็นชื่อฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อย
“ฟักทองน้อย? ฟักขาวน้อย? ทำไมเด็ก ๆ ถึงเป็นแตงหมดเลยล่ะ?”
ซูเหนียนอวิ๋นหันมองเฮ่อหลานก่อนจะถามว่า “ทำไมถึงตั้งชื่อเด็กสองคนอย่างนี้หรือจ๊ะ”
“เพราะตอนนี้ฉันอยากกินฟักทองกับฟักเขียวน่ะค่ะ ก็เลยตั้งชื่อพวกเขาแบบนั้น”
ได้ยินเฮ่อหลานตอบกลับอย่างนั้น ซูเหนียนอวิ๋นไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “เธอนี่คิดชื่อเล่นได้เรียบง่ายดีนะ เอาเถอะ ยังไงชื่อนี้มันก็เป็นที่นิยมอยู่แล้ว เรียกพวกเขาอย่างนั้นแล้วกัน”
ถังซวงรู้สึกว่าชื่อเล่นของเด็กสองคนนี้ค่อนข้างน่ารัก อีกอย่างพวกเขาไม่สามารถเรียกทั้งสองว่าน้องชายหรือน้องสาวได้ตลอดเวลา การมีชื่อเล่นมันสะดวกกว่ามาก ส่วนชื่อจริงก็รอให้พ่อคิดใหม่สักสองสามวันแล้วกัน
“ฟักทองน้อย ฟักขาวน้อย ฉันเป็นพี่ใหญ่ของพวกเธอนะ”
ถังซวงเรียกทั้งสองคนด้วยชื่อเล่น และถังเซวี่ยก็เริ่มทำตาม ทั้งสองพูดคุยกับทารกน้อยอย่างรักใคร่ “ฟักทองน้อย ฟักขาวน้อย ฉันคือพี่รองของพวกเธอเองนะ”
เห็นถังซวงและถังเซวี่ยเรียกเด็กทั้งสองด้วยชื่อเล่น จิงเจ้อหรงหยุดคิดชื่อเล่นใหม่ก่อนจะเรียกลูกน้อยด้วยชื่อนั้นเช่นกัน
ส่วนซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้นั่งพักสักครู่ ก่อนที่จะขอตัวกลับ
“คุณปู่ คุณย่าซู เดี๋ยวฉันไปส่งนะคะ”
ถังซวงออกไปส่งผู้อาวุโสทั้งสองด้านนอก
เฮ่อหลานกับจิงเจ้อหรง และถังเซวี่ยบอกลาพวกเขาเช่นกัน
ซูเหนียนอวิ๋นกับหลี่จงอี้ออกจากห้องมาพร้อมกับถังซวง เมื่อทั้งสามเดินออกมาถึงด้านนอกแล้ว ซูเหนียนอวิ๋นลังเลสักครู่ก่อนจะดึงถังซวงเข้าใกล้แล้วกล่าวกระซิบเรื่องของเกอชิงเหม่ย
“ซวงเอ๋อร์ ฉันไม่ได้ยินข่าวป้าเกอของเธอมาสักพักแล้ว ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ก่อนหน้านี้เกอชิงเหม่ยบอกว่าจะมาถึงที่นี่ในอีกสองวันข้างหน้า แต่ก็ยังไม่มาสักที”
หลี่จงอี้กล่าวปลอบโยนจากด้านข้าง “ไม่ต้องกังวลไปหรอก ชิงเหม่ยสบายดี บางทีเธออาจจะกำลังเดินทางก็ได้”
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ แต่ฉันก็ไม่ค่อยสบายใจยังไงไม่รู้”
เห็นอีกฝ่ายเริ่มกังวลใจ ถังซวงจึงกล่าวขึ้นว่า “ไม่ต้องกังวลนะคะคุณย่าซู เดี๋ยวฉันจะไปช่วยหาว่าป้าเกออยู่ที่ไหน”
ได้ยินถังซวงพูดอย่างนั้น ซูเหนียนอวิ๋นก็โล่งใจ
“ซวงเอ๋อร์ ถ้าพอมีเวลาก็ติดต่อกับชิงเหม่ยสักหน่อยนะจ๊ะ เราจะได้รู้ว่าเธอจะมาถึงเมืองหลวงเมื่อไหร่”
“ค่ะ”
ถังซวงพยักหน้ารับ ก่อนจะส่งซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้ออกไป “คุณปู่ คุณย่าซู กลับบ้านดี ๆ นะคะ”
“จ้ะ เธอรีบกลับเข้าไปด้านในได้แล้ว”
ซูเหนียนอวิ๋นและหลี่จงอี้โบกมือให้ถังซวงก่อนจะเดินออกไปพร้อมกัน
หลังจากถังซวงกลับมาที่ห้อง เฮ่อหลานก็ถามเธอว่า “อาจารย์กับลุงหลี่กลับไปแล้วหรือจ๊ะ”
ถังซวงพยักหน้ารับ “กลับไปหมดแล้วค่ะ”
“ดีแล้วละ”
ขณะที่แม่กับลูกสาวกำลังพูดคุยกัน คุณนายจิงก็เข้ามาพร้อมกับเมิ่งผิง
“อาหลาน ฉันเอาอาหารเช้ามาให้จ้ะ”
ขณะพูดคุยกัน คุณนายจิงบอกให้เมิ่งผิงวางข้าวของลงก่อนจะตรงเข้าหาเด็กน้อยทั้งสอง “อุ๊ย… หลานชาย หลานสาวของย่า วันนี้ย่ามาหาแล้วนะจ๊ะ”
ส่วนเมิ่งผิงมองเด็กทั้งสองคนด้วยสายตาคาดเดายาก
กล่าวตามตรง เธอรู้สึกอิจฉาเด็กทั้งสองมาก และน่าเสียดายที่เธอให้กำเนิดเพียงบุตรชายไม่ได้เรื่อง ตอนนี้หมดเวลาที่เธอจะมีลูกอีกคนแล้ว ความหวังเดียวของเธอคือหวังว่าลูกชายตัวดีจะแต่งงานกับภรรยาและมีลูกเร็ว ๆ เพราะเธอเองก็อยากมีหลานไว้ให้อุ้มบ้าง
“คุณย่าคะ น้องชายกับน้องสาวของหนูมีชื่อเล่นแล้วนะ พี่ชายชื่อฟักทองน้อย น้องสาวชื่อฟักขาวน้อยค่ะ”
เห็นคุณนายจิงจ้องมองเด็กทั้งสอง ถังเซวี่ยรีบเข้ามาแนะนำชื่อของเด็กน้อยทันที ก่อนจะพูดต่อว่า “แม่เป็นคนเลือกชื่อนี้ค่ะ บอกว่ามันเรียบง่ายและเรียกง่ายด้วย”
คุณนายจิงพยักหน้า “ใช่ ๆ ชื่อเล่นนี้ดีแล้ว เราจะเรียกพวกเขาว่าฟักทองน้อย กับฟักขาวน้อย”
หลังจากทราบชื่อเล่น คุณนายจิงเรียกฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อยอย่างมีความสุข แต่น่าเสียดายที่เด็กทารกทั้งสองหลับปุ๋ยไม่มีใครตอบสนอง
ยิ่งคุณนายจิงมองเด็กทั้งสองคนมากเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกรักใคร่เด็กทั้งสองมากเท่านั้น ไม่ว่าจะมองเท่าไหร่ก็ไม่พอเสียที แต่หลังจากนั้นสักครู่จึงตระหนักได้ว่าเฮ่อหลานกับคนอื่น ๆ ยังไม่ได้ทานมื้อเช้า เธอจึงรีบจัดเตรียมข้าวของ “อาหลาน รีบกินข้าวเถอะ พวกเรากินกันเสร็จแล้วละ”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่”
หลังจากเฮ่อหลานและคนอื่น ๆ รับประทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว คุณนายจิงบอกกล่าวให้จิงเจ้อหรง ถังซวง และถังเซวี่ยกลับไปพักผ่อนที่บ้านสักหน่อย
“เมิ่งผิงกับย่าจะอยู่ที่นี่เอง พวกเธอกลับไปอาบน้ำเถอะ อยู่ที่นี่ทำอะไรไม่สะดวกหรอก แล้วเดี๋ยวผู้เฒ่าจิงก็จะมาที่นี่ด้วย ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครดูแลพวกเราหรอกจ้ะ”
เฮ่อหลานกล่าวเสริม “ใช่จ้ะ กลับไปอาบน้ำล้างตัวกันสักหน่อยเถอะ ถ้าอยากจะมาก็ค่อยมาใหม่หลังจากอาบน้ำแล้วก็ไม่เป็นไรหรอก”
จิงเจ้อหรงคิดสักพักก่อนจะตอบกลับ “งั้นผมกลับไปอาบน้ำก่อนนะครับ”
หลังจากถังซวงกลับมาถึงบ้านแล้ว เธอรีบเข้าไปอาบน้ำ หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างเธอก็ติดต่อไปยังหมู่บ้านเถาฮวาเพื่อสอบถามว่าเกอชิงเหม่ยยังอยู่ที่นั่นหรือไม่
ทว่าในเวลานี้กลับมีเรื่องประหลาดใจเกิดขึ้นเสียแล้ว
เพราะเธอได้รับข่าวว่าเกอชิงเหม่ยออกจากหมู่บ้านเถาฮวาไปแล้วเมื่อไม่นานนี้ และไม่มีใครทราบว่าเธอไปที่ไหน