การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 451 สถานะความสัมพันธ์
บทที่ 451 สถานะความสัมพันธ์
บทที่ 451 สถานะความสัมพันธ์
ซ่างสยงเยี่ยมองตามแผ่นหลังของซ่างหมิงซู่ที่เดินกลับออกไปด้วยแววตาสั่นไหวก่อนจะหันกลับเข้าประตู
หลังจากครอบครัวของซ่างสยงซานออกจากเมืองก่างเฉิงในวันถัดมา ซ่างสยงเยี่ยไม่คิดจะไปส่งพวกเขาแม้แต่น้อย แต่เขาเพียงสั่งให้คนสนิทไปดูทุกคนขึ้นเครื่องบินด้วยตาของตัวเอง
เมื่อเห็นใครบางคนกำลังจับจ้อง ใบหน้าของซ่างสยงซานเผยความเย้ยหยันออกมา “ซ่างสยงเยี่ยถึงกับกลัวว่าเราจะหนีไม่ยอมมาขึ้นเครื่องบิน หึ… รู้จักระวังตัวแล้วหรือ”
ซ่างหมิงซู่มองผู้เป็นพ่อ “พ่อครับ ไปกันเถอะ”
“หึ… ไอ้ลูกนอกคอก แกคิดถึงแต่ซ่างสยงเยี่ยและไม่เคยใส่ใจพ่อผู้ให้กำเนิดอย่างฉันเลย ฉันไม่มีลูกชายอย่างแก จำไว้”
ซ่างหมิงซู่ยิ่งรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจ รู้สึกตายทั้งเป็นในเวลานี้
แต่เพราะครอบครัวของพวกเขากำลังจะออกจากเมืองก่างเฉิงและไม่มีวันได้กลับมา เขาจึงไม่มีอะไรต้องคิดเล็กคิดน้อยอีกแล้ว เขาเป็นคนสุดท้ายที่ขึ้นเครื่องบิน ไม่นานนักเครื่องบินทะยานสู่น่านฟ้า ครอบครัวของซ่างสยงซานออกจากเมืองก่างเฉิงโดยสมบูรณ์
หลังจากซ่างสยงเยี่ยทราบข่าว เขาเริ่มคิดไตร่ตรองถึงเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องจัดการ
เพราะมีการแทรกแซงของซ่างสยงซานก่อนหน้านี้ หลายสิ่งหลายอย่างในบริษัทจึงถูกแช่แข็งเอาไว้ และเขาต้องใช้เวลาสักพักใหญ่เพื่อจัดการ
อีกด้านหนึ่ง ถังซวงไปที่บริษัทเครื่องสำอางกับพานลี่ฮวา หลังจากให้คำแนะนำไปแล้วมากมาย เธอหันมองพานลี่ฮวาก่อนจะพูดต่อว่า “คุณป้าคะ ตอนนี้สถานการณ์ในเมืองหลวงก็เริ่มดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวเราจะไปเปิดสาขาที่นั่น เตรียมตัวไว้เลยนะคะ”
“ไม่ต้องกังวลจ้ะ ฉันพร้อมแน่นอน อีกอย่างชุนหยานก็อยู่ที่เมืองหลวง เธอคงช่วยได้เยอะเลยแหละ”
ถังซวงยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับ
หลังจากทั้งสองเดินเล่นสักพัก พวกเธอก็ไปทานมื้อกลางวันในย่านคนรวยของเมืองก่างเฉิง ในร้านอาหารสุดหรูนี้เป็นเหล่าลูกค้าประจำของบริษัทเครื่องสำอาง
คุณนายถังเป็นคนแรกที่มาถึง และดูเหมือนว่าเธอจะเป็นแฟนคลับอันดับหนึ่งของบริษัทเครื่องสำอางของพานลี่ฮวาอยู่แล้ว
“คุณถัง… ในที่สุดคุณก็มาเมืองก่างเฉิงสักที พวกเรารอคุณวันแล้ววันเล่า คุณต้องเร่งรีบทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้พวกเราได้ลองใช้กันอีกนะคะ เครื่องสำอางของคุณมันยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ทุกอย่างใช้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือแต่งหน้าที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ก็ดีมาก ๆ เลยค่ะ”
ได้ยินคำพูดของคุณนายถัง ถังซวงยิ้มกว้าง “ขอบคุณคุณนายถังที่ให้การสนับสนุนพวกเรานะคะ ในอนาคตฉันจะเปิดตัวอีกหลายผลิตภัณฑ์เลยละค่ะ”
“โอ้ ดีเลยค่ะ ดีเลย”
ขณะคุณนายถังพูดอย่างนั้น เธอรีบหันไปหาพานลี่ฮวาแล้วพูดว่า “ลี่ฮวา ถ้ามีอะไรใหม่ ๆ ต้องรีบบอกฉันเลยนะ”
“แน่นอนอยู่แล้วจ้ะ”
ขณะทุกคนกำลังพูดคุยกัน เหล่าคุณนายคนอื่น ๆ ก็เริ่มเดินเข้ามา แม้แต่คุณนายเฉียนผู้ขี้เหนียวยังอดไม่ได้ที่จะเข้ามาทักทาย
ถังซวงจำคุณนายเฉียนได้ และรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้พบกับอีกฝ่ายที่นี่
พานลี่ฮวายกยิ้มก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “คุณนายเฉียนใช้เครื่องสำอางของเรา ผิวเลยดีขึ้นมาก ผิวพรรณเปล่งปลั่งและดูอ่อนกว่าวัย เธอถือว่าเป็นลูกค้าประจำของเราด้วยนะ”
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงยิ้มบาง
หลังจากเหล่าคุณนายทั้งหมดเข้ามาแล้ว ถังซวงบอกเคล็ดลับการดูแลผิวให้พวกหล่อนฟัง เพื่อที่จะได้ดูแลผิวให้ดีขึ้น จากนั้นค่อย ๆ เขียนใบสั่งยาสมุนไพรที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายแต่ละคนให้
หลังเห็นสิ่งนี้ พานลี่ฮวาปรบมือพร้อมกล่าวเสียงดัง “ทุกคน พวกเธอคงจะได้เห็นผู้อาวุโสของตระกูลเราแล้ว เดิมทีคุณพ่อมีสุขภาพไม่ค่อยดีและอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปไหน แต่ตอนนี้เขาเดินคล่องแคล่ว ต้องขอบคุณซวงเอ๋อร์คนนี้แหละจ้ะ ทักษะการแพทย์ของเธอยอดเยี่ยมมากเลยนะ”
“พวกเธอต้องรักษาใบสั่งยานี้ไว้ให้ดี และอย่าแพร่งพรายออกไป เพราะทั้งหมดนี่ล้วนแต่เป็นสูตรลับ และจำไว้ด้วยว่าทั้งหมดนี้คือใบสั่งยาและต้องควบคุมอาหารให้ดี เขียนเพื่อเธอโดยเฉพาะ ห้ามนำมันไปให้คนอื่นล่ะ”
คุณนายเหล่านั้นไม่เห็นด้วยในคราวแรก แต่เมื่อได้ยินพานลี่ฮวาพูด พวกหล่อนรีบถามทันที “คุณถังซวงดูแลร่างกายของพ่อสามีเธอจริงหรือ?”
“จริงสิ ทั้งหมดเป็นเพราะซวงเอ๋อร์เลย สุขภาพของคุณพ่อดีขึ้นทุกวัน อย่าดูถูกใบสั่งยาในมือของพวกเธอเชียวล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเธอเป็นลูกค้าที่ดีของเรา ซวงเอ๋อร์จะไม่ทำแบบนี้ให้แน่นอน”
พานลี่ฮวาบอกกล่าวออกไปอย่างมั่นใจ เพราะเธอภูมิใจในทักษะการแพทย์ของถังซวงมาก
เหล่าคุณนายได้ยินอย่างนั้น ต่างรีบเก็บใบสั่งยาในมืออย่างมิดชิด พวกเธอคิดว่าถังซวงมีทักษะเพียงทำเครื่องสำอางเท่านั้น ไม่คิดว่าเธอจะมีทักษะการแพทย์ด้วย
“ขอบคุณมากนะคะคุณถัง พวกเราจะดูแลร่างกายให้ดี และทำตามใบสั่งยาอย่างเคร่งครัดเลยจ้ะ”
หลังจากที่เหล่าคุณนายจากไปแล้ว ถังซวงและพานลี่ฮวาก็กลับมาที่บ้านตระกูลเฮ่อ
โม่เจ๋อหยวนเห็นว่าถังซวงกลับมาแล้ว จึงรีบเดินเข้าไปหาอย่างเป็นห่วง “เหนื่อยไหม วันนี้คงจะยุ่งทั้งวันเลยสิท่า”
“ไม่เหนื่อยค่ะ”
ถังซวงส่ายศีรษะก่อนจะถามว่า “วันนี้พี่ได้ออกไปข้างนอกหรือเปล่าคะ? หรือว่าอยู่บ้าน?”
“วันนี้พี่เจียรุ่ยพาเราไปซื้อของ ฉันเห็นว่าเสื้อคลุมตัวนี้สวยมากเลยซื้อมาฝากน่ะ ไว้เดี๋ยวลองใส่ดูนะว่าพอดีไหม”
“ค่า”
เห็นถังซวงและโม่เจ๋อหยวนหวานกันซะขนาดนั้น พานลี่ฮวาอดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างขบขัน “คิคิ ฉันมัวมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้เนี่ย ไปยืนที่อื่นดีกว่า ฉันไม่อยากเป็นก้างขวางคอ”
ทุกคนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
ถังซวงอยู่ที่ตระกูลเฮ่อมาหลายวันแล้ว วันนี้ถึงเวลาที่พวกเขาจะเก็บข้าวของและเตรียมตัวกลับสักที
ส่วนซ่างสยงเยี่ยที่ทราบข่าวว่าพวกเขากำลังจะกลับ เขารีบมุ่งหน้ามาที่นี่พูดคุยกับเฮ่อจื่อกุยสองสามคำ และได้โอกาสพูดคุยกับเกอชิงเหม่ยตามลำพังเสียที
“ชิงเหม่ย หลังจากผมทำงานเสร็จแล้ว ผมจะเข้าเมืองหลวงพร้อมกับพี่จื่อกุยกับคนอื่น ๆ นะครับ”
เกอชิงเหม่ยยิ้มก่อนจะตอบว่า “ค่ะ แล้วเจอกันที่เมืองหลวงนะคะ”
ซ่างสยงเยี่ยมองเกอชิงเหม่ยที่แสนอ่อนโยนและใจกว้างด้วยรอยยิ้ม เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ชิงเหม่ย… คุณ… จำที่ผมถามคุณได้ไหม คุณ… มีคำตอบแล้วหรือยังครับ?”
เห็นซ่างสยงเยี่ยกำหมัดแน่น เกอชิงเหม่ยหัวเราะก่อนจะเอ่ยปากถาม “คุณกังวลหรือเปล่าคะ?”
ได้ยินอย่างนั้น ความอึดอัดของซ่างสยงเยี่ยคลายออก เขาเพียงยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะตอบว่า “ครับ ผมกังวลว่าคุณจะไม่รู้สึกเหมือนกัน”
เกอชิงเหม่ยมองซ่างสยงเยี่ยอย่างจริงจัง “ฉันรู้สึกค่ะ”
ซ่างสยงเยี่ยถึงกับชะงักงันทำอะไรไม่ถูก
ซ่างสยงเยี่ยใช้เวลาสักครู่กว่าจะได้สติ เขาหันมองเกอชิงเหม่ยด้วยความตกตะลึงก่อนจะถามว่า “ชิงเหม่ย… คุณ… พูดจริงหรือครับ?”
“แน่นอนค่ะ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกหลอกลวงมาที่เมืองก่างเฉิงได้ยังไง ทั้งหมดเพราะฉันเป็นห่วงคุณฉันก็เลยตกหลุมพรางของพวกเขา”
พึ่บ…
ซ่างสยงเยี่ยตื่นเต้นมาก เขาอดไม่ได้ที่จะอุ้มเกอชิงเหม่ยขึ้นมาแล้วหมุนไปรอบ ๆ อย่างมีความสุข
“เกอชิงเหม่ย คุณต้องทำตามที่พูดนะ เพราะว่า… นับจากนี้ไป คุณเป็นคนรักของผมแล้ว”