การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 456 แยกตัวออกไป
บทที่ 456 แยกตัวออกไป
บทที่ 456 แยกตัวออกไป
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนพยักหน้าทันที “แน่นอนครับ”
เจิ้งหงได้ยินอย่างนั้นก็โล่งอก เธอหันมองลูกสาวแล้วพูดขึ้น “ชืออวี่ ขอบคุณพี่ชายและพี่สะใภ้เร็วเข้า ถ้าอยากจะเก่งให้ได้เท่าพวกพี่ ๆ นับตั้งแต่วันนี้ไปลูกก็ต้องขยันให้มากขึ้นนะ”
โม่ชืออวี่พยักหน้ารับ “ค่ะ”
แต่จู่ ๆ โม่ชืออวี่พูดขึ้นอย่างลังเล “แต่ว่า… พี่ใหญ่ไม่ค่อยอยู่บ้าน แล้วหนูจะถามได้ยังไงหรือคะ?”
หลินเหม่ยเจินหันมองลูกชายของตัวเองด้วยท่าทีขบขันก่อนจะหันไปพูดกับโม่ชืออวี่ “งั้นชืออวี่ก็ไปที่ตระกูลจิงเพื่อพบเจอพี่ใหญ่ของหลานสิ ป้าได้ยินว่าเสี่ยวเซวี่ยก็เรียนเก่งมากเหมือนกัน พวกหลานสองคนอายุไล่เลี่ยกัน น่าจะเข้ากันได้ดีนะ”
โม่ชืออวี่พยักหน้าอย่างมีความสุข “ค่า”
หลังจากทานอาหารแล้ว ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนเตรียมที่จะกลับ
“คุณปู่ คุณแม่ คุณพ่อ ผมกลับก่อนครับ เรายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณปู่จิงเลย”
ผู้เฒ่าโม่ที่ได้ยินอย่างนั้น ก็กระตุกยิ้มมุมปากโดยไม่รู้ตัว หลานชายคนโตและหลานสะใภ้มาบอกเขาก่อนตาเฒ่านั่น มันทำให้เขามีความสุขมากจริง ๆ ชายชราโบกมือให้ถังซวงและโม่เจ๋อหยวน “เอาละ ๆ อย่างนั้นหลานก็รีบไปเถอะ”
หลินเหม่ยเจินดึงถังซวงมาใกล้ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ซวงเอ๋อร์ รอก่อนนะ ป้าเตรียมของขวัญไว้ให้น้องชายกับน้องสาวของหนูด้วย ฝากเอากลับไปให้เขาสองคนที อ้อ แล้วก็มีของขวัญสำหรับชิงเหม่ยกับครอบครัวด้วย ป้าฝากกลับไปให้พวกเขาหน่อยนะจ๊ะ”
ถังซวงคิดว่ามันเป็นของเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นของที่หลินเหม่ยเจินเตรียมไว้ เธออดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “มันมากเกินไปแล้วค่ะคุณป้า”
“ไม่มากเกินไปหรอก ในอนาคตถ้าป้าเจอเสื้อผ้าสวย ๆ ป้าจะซื้อไปฝากฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อยแน่นอน” ก่อนหน้านี้เธอได้เจอกับฝาแฝดสองคนแล้ว และรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยทั้งสองจนแทบทนไม่ไหว สองคนนั้นน่ารักจนเธออยากจะอุ้มกลับบ้านมาด้วยซ้ำ
ไม่นานถังซวงและโม่เจ๋อหยวนก็กลับบ้านพร้อมกับถุงน้อยใหญ่ในมือ
ผู้เฒ่าจิงและคุณนายจิงได้ทราบข่าวของโม่เจ๋อหยวนและถังซวงแล้ว เวลานี้พวกเขากล่าวชื่นชมยินดีทันทีที่เห็นทั้งสองกลับมา “ซวงเอ๋อร์ เจ๋อหยวน พวกเรารู้ผลการสอบของเธอสองคนแล้ว ยินดีด้วยนะจ๊ะ”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ดูเหมือนข่าวจะเร็วมากเลยนะคะ”
คุณนายจิงดึงถังซวงไปพูดอย่างตื่นเต้น “ซวงเอ๋อร์ หลานคงไม่รู้ว่าหลังจากทุกคนรู้ผลการสอบของหลานแล้วมีแต่คนเขาอิจฉากัน เฮ้อ… หลานสองคนนี่เป็นหน้าเป็นตาของตระกูลของเราจริง ๆ”
ผู้เฒ่าจิงที่ค่อนข้างเงียบขรึมยังกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น “ใช่ เพื่อนเก่าของปู่มีแต่อิจฉา บอกว่าปู่มีหลานสาวที่ยอดเยี่ยม ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เมื่อครั้งที่ลูกชายคนเล็กแต่งงานกับเฮ่อหลาน แม้คนส่วนใหญ่จะหวังดีกับเขา แต่สุดท้ายก็ยังหนีไม่พ้นถูกซุบซิบนินทา เพราะคิดว่าลูกชายคนเล็กของเขามีตาแต่หามีแววไม่ ไปแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลูกติดถึงสองคน แต่ดูในตอนนี้สิ ลูกชายคนเล็กของเขาเลือกคนได้ถูกจริง ๆ ลูกสาวทั้งสองคนมีอนาคตที่สดใสมาก
ไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นจะอิจฉาหรือว่าเกลียดชังพวกเขาอยู่กันแน่
อวี๋มินและเมิ่งผิงที่เพิ่งเข้ามารู้สึกประหลาดใจหลังได้ยินชายชราหัวเราะเสียงดัง ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “พ่อคะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงมีความสุขอะไรขนาดนั้นล่ะ” ทั้งสองไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องราวภายนอกมากนัก จึงยังไม่ทราบเรื่องของถังซวงและโม่เจ๋อหยวน
คุณนายจิงเป็นคนเล่าให้ทั้งสองคนฟัง ก่อนจะกล่าวต่อว่า “คืนนี้ครอบครัวของเราต้องเลี้ยงฉลองให้กับซวงเอ๋อร์กับเจ๋อหยวนกันดีกว่า”
“ค่ะ”
อวี๋มินและเมิ่งผิงมีความสุขมากหลังทราบเรื่อง ทั้งสองรีบไปเตรียมตัวทันที
ส่วนเฮ่อหลานที่กำลังวุ่นวายกับเด็กแฝดทั้งสอง หลังจากได้ยินเสียงเอะอะด้านนอก เธอรีบออกมาและได้ทราบว่าลูกสาวกับลูกเขยทำคะแนนสอบได้เป็นอันดับหนึ่งและอันดับสองของเมืองหลวง
“ซวงเอ๋อร์ เจ๋อหยวน พวกลูกสองคนเก่งกันมากเลยจ้ะ”
ตอนนี้เธอไม่รู้จะพูดคำว่าอะไรนอกจากชื่นชมพวกเขาสองคน
ส่วนถังเซวี่ยที่ยังไม่รู้เรื่องนี้ กำลังเดินเล่นกับเฟิงเยี่ยหานที่ในเมือง ชื่นชมกับความงดงามของดอกเหมยย่านชานเมืองอย่างผ่อนคลาย ถังเซวี่ยมองลานสีแดงขนาดใหญ่ตรงหน้าอย่างมีความสุข แต่อย่างไรในใจก็ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอ
“สวยมากเลยค่ะ”
“อืม สวยจริง ๆ”
เฟิงเยี่ยหานมองดูทิวทัศน์งดงามตรงหน้าก่อนจะหันมองถังเซวี่ยข้างกาย รู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เฟิงเยี่ยหาน เราไปกันต่อเถอะ”
“อื้ม”
แน่นอนว่าเฟิงเยี่ยหานจะไม่ปฏิเสธถังเซวี่ย เขาติดตามเธอไปทุกที่
ทั้งสองเดินเล่นกันอยู่สักพักก่อนจะมีเกล็ดหิมะโปรยปรายลงมา
“อ๋า… หิมะตกแล้ว”
ถังเซวี่ยเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ “นี่เป็นหิมะแรกของปีนี้เลยนะ พวกเราได้สัมผัสมันก่อนใครเลยค่ะ”
ปกติแล้วฤดูหนาวในเมืองไห่เฉิงไม่ค่อยมีหิมะเท่าไหร่นัก เวลานี้เฟิงเยี่ยหานมองดูเกล็ดหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมาด้วยแววตาประหลาดใจ “อื้ม สวยมากเลยครับเวลามันอยู่คู่กับดอกเหมย”
หลังจากมองดูสภาพอากาศโดยรอบสักพักหนึ่ง เฟิงเยี่ยหานก็ดึงถังเซวี่ยกลับมา “เสี่ยวเซวี่ย ถ้าหิมะตกหนักเราจะแย่เอานะ กลับกันก่อนเถอะครับ”
“อื้ม”
ถังเซวี่ยพยักหน้า ขณะเดียวกันก็อยากรู้เรื่องผลการสอบของถังซวงขึ้นมา “พี่สาวกับพี่เขยไปดูคะแนนสอบนี่นา ไม่รู้ว่าผลการสอบของพวกพี่จะเป็นยังไงบ้าง”
“หลังจากเราไปถึงเราก็จะรู้เอง แต่พวกเขาต้องผ่านแน่นอนอยู่แล้ว”
ถังเซวี่ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “อื้ม พี่สาวกับพี่เขยเก่งอยู่แล้ว ต้องสอบผ่านแน่นอน”
หากเปรียบเทียบกับถังซวงและโม่เจ๋อหยวนแล้ว ถังเซวี่ยรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจเทียบเท่า เธอและพี่สาวเริ่มเรียนพร้อมกันแต่เธอกลับไม่สามารถเทียบเท่าพี่ได้เลย เธอจึงรู้สึกเชื่อมั่นในตัวพี่สาวมาก
เฟิงเยี่ยหานได้ยินอย่างนั้น กลับกล่าวชื่นชมถังเซวี่ย
“เสี่ยวเซวี่ย คุณเองก็เก่งมาก ถ้าถึงวันที่คุณสอบเข้ามหาวิทยาลัย คะแนนของคุณก็จะดีเหมือนกัน”
เรื่องนี้ ถังเซวี่ยเองไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าต้องขยันให้มากขึ้น”
เห็นถังเซวี่ยไม่เชื่อมั่นในตัวเอง เฟิงเยี่ยหานยังกล่าวชมเธอต่อ “เสี่ยวเซวี่ย พี่สาวของคุณเก่งขนาดนั้น คุณเองก็เก่งไม่แพ้กันครับ”
ถังเซวี่ยรู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมา
“ใช่ พี่สาวของฉันเก่งมาก ฉันเป็นน้องสาวคงไม่โง่เกินไปหรอก ฮ่า ๆ”
ทั้งสองพูดคุยกันขณะเดินกลับ รู้สึกว่าหิมะเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ โชคดีที่กลับมาได้ทันเวลา และเมื่อมาถึงบ้าน ทั้งสองก็ทราบถึงผลการสอบของโม่เจ๋อหยวนและถังซวง
“ว้าว… พี่คะ พี่เขย พวกพี่เก่งกันจริง ๆ”
เฟิงเยี่ยหานเดินเข้ามาหาโม่เจ๋อหยวนก่อนจะตบบ่าของเขา “ยินดีด้วยนะ”
“ขอบคุณ”
โม่เจ๋อหยวนกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเลิกคิ้วถาม “วันนี้สนุกไหม?”
เฟิงเยี่ยหานเม้มปากก่อนจะยิ้มกว้าง “มีความสุขมากเลยละ”
“ในเมื่อมีความสุขมาก งั้นคืนนี้เรามาดื่มกันดีกว่า”
เฟิงเยี่ยหานอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองโม่เจ๋อหยวนด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ตอบตกลง “อืม เรามาดื่มกันเถอะ”
ในตอนเย็น จิงเจ้อหรง จิงไค่หรง จิงซิวหรง และคนอื่น ๆ กลับมาถึงบ้าน พวกเขาทราบเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ยังอยู่ที่ทำงาน ทันทีที่เห็นถังซวงและโม่เจ๋อหยวน ทุกคนกล่าวแสดงความยินดีทันที
ระหว่างทานมื้อค่ำ ผู้เฒ่าจิงและหลี่จงอี้มีความสุขมาก แต่พวกเขาเองก็ไม่ได้ดื่มมากนัก
มีแต่เฟิงเยี่ยหานที่ดื่มมากขึ้นสักหน่อย ส่วนโม่เจ๋อหยวนดื่มหนักมาก จนทำให้ทุกคนประหลาดใจในการดื่มของโม่เจ๋อหยวน เพราะเขายังไม่เมาแม้แต่น้อย
หลังทานมื้อค่ำเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกลับไปพักผ่อน
วันถัดมา ถังซวง โม่เจ๋อหยวน และถังเซวี่ยออกไปส่งเฟิงเยี่ยหานที่สถานี
ถังซวงมองถังเซวี่ยที่ดูอาลัยอาวรณ์กับเฟิงเยี่ยหานที่ชานชาลา ก็ทอดถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฉันรู้สึกว่าอีกไม่นานเสี่ยวเซวี่ยจะออกไปจากครอบครัวซะแล้วสิ”