การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 479 เกิดการถกเถียง
บทที่ 479 เกิดการถกเถียง
บทที่ 479 เกิดการถกเถียง
ได้ยินสิ่งที่ถังซวงพูด หวังอี้ทำได้เพียงพยักหน้ายืนยันอย่างจริงจัง “ไม่ต้องห่วง ถ้าติงไหลตี้เป็นคนที่เผยแพร่ข่าวลือจริง ๆ เธอจะต้องถูกตักเตือนแน่นอน”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะอาจารย์หวัง”
ถังซวงออกจากห้องพักครูหลังจากพูดในสิ่งที่ต้องการหมดแล้ว
เมื่อมาถึงห้องเรียน ต้วนเฟิ่งหยิงรับโบกมือให้เธอพร้อมรอยยิ้ม “ถังซวง ทางนี้ ๆ”
ถังซวงจึงเดินไปหาต้วนเฟิ่งหยิง “ถังซวง ทำไมวันนี้เธอมาสายจัง? ชั้นเรียนกำลังจะเริ่มแล้วเนี่ย”
“อาจารย์หวังเรียกฉันไปคุยด้วยน่ะ เลยมาช้าหน่อย”
“อ๋อ อาจารย์หวังงั้นหรือ อืม งั้นก็ไม่แปลก” ในตอนท้ายเหมือนเธอจะนึกบางอย่างได้ ต้วนเฟิ่งหยิงจึงรีบถามถังซวงด้วยความตื่นเต้น “ถังซวง แล้วอาจารย์หวังคืบหน้าอะไรไหม? เจอคนที่ปล่อยข่าวลือหรือยัง?”
ตั้งแต่ต้วนเฟิ่งหยิงเริ่มถามถึงเรื่องนี้ ถังซวงก็ลอบมองติงไหลตี้ตลอดเวลาเพื่อดูว่าอีกฝ่ายทำตัวอย่างไร ดูเหมือนติงไหลตี้พยายามเงี่ยหูฟังอย่างหนัก และยิ่งเมื่อต้วนเฟิ่งหยิงถามถึงความคืบหน้า ร่างกายของติงไหลตี้ดูจะสั่น ๆ อย่างตื่นตระหนก ต่อให้พยายามสงบแต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาของถังซวงไปได้
ถังซวงกระตุกยิ้มมุมปาก
ดูเหมือนว่าจะมีคนเริ่มกังวลขึ้นมาซะแล้ว แต่ถังซวงยังไม่คิดจัดการเรื่องนี้อย่างเบามือแน่ มิฉะนั้นติงไหลตี้คงจะไม่ได้รับบทเรียน และเธอไม่ต้องการให้ติงไหลตี้กล้าทำเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่านี้ในอนาคตด้วย
เธอไม่ได้ชอบติงไหลตี้มากนัก และรู้สึกว่าบุคลิกของตนกับหล่อนไม่เข้ากัน เธอเคยคิดว่าใครก็ตามที่เข้ามหาวิทยาลัยชิงหวาได้ ผลการเรียนคงจะไม่แย่และนิสัยคงไม่เลวร้าย แต่เธอคิดผิด ในทุกสังคมย่อมมีทั้งคนที่นิสัยดีและไม่ดีอยู่แล้ว
ถังซวงหันมองไปทางอื่นและไม่สนใจติงไหลตี้อีกต่อไป “อื้ม อาจารย์หวังพอจะได้เรื่องคืบหน้าบ้างแล้วแหละ เดี๋ยวก็จะรู้ต้นตอแล้ว”
“ดีจัง ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวใส่ร้ายเธออย่างนั้น”
ยิ่งเห็นต้วนเฟิ่งหยิงโกรธ ถังซวงยกยิ้มอย่างอดไม่ได้ก่อนจะพูดว่า “เอาละ อย่าไปอารมณ์เสียเพราะคนพวกนั้นเลย นั่งดี ๆ อาจารย์จะมาแล้ว”
“อื้ม”
ต้วนเฟิ่งหยิงหันไปตั้งใจเรียนทันที
ถังซวงในตอนนี้ยังคงเฉยเมยและไม่สนใจใคร ส่วนติงไหลตี้กลับหวาดหวั่นจนไม่มีสติ ยิ่งเมื่ออาจารย์เดินเข้ามา แต่เธอกลับยังไม่รู้สึกตัว จนเล่อหยาฉงที่นั่งอยู่ด้านข้างรีบสะกิด
“ไหลตี้ มัวคิดใจลอยอะไรอยู่? อาจารย์เริ่มบรรยายแล้ว ถ้าไม่ตั้งใจฟังจะตอบคำถามไม่ได้นะ”
ติงไหลตี้ได้สติอย่างรวดเร็ว หันกลับมาตั้งใจฟังบรรยาย แต่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้เธอเสียสมาธิไปแล้ว ไม่ได้ฟังอะไรเลย จึงทำให้ในคาบเรียนนี้ติงไหลตี้จึงไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด
“ไหลตี้ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำนะ”
ติงไหลตี้ได้ยินจึงรีบลุกขึ้น “หยาฉง ฉันไปด้วย”
แน่นอนว่าเล่อหยาฉงไม่ปฏิเสธ และทั้งสองเดินออกไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน
เมื่อเดินไปครึ่งทาง ติงไหลตี้หันมองเล่อหยาฉงก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยความกังวล “หยาฉง เธอว่า… อาจารย์หวังจะตำหนิพวกเราไหม?”
แต่เล่อหยาฉงกลับประหลาดใจ
“แล้วทำไมเราถึงต้องถูกอาจารย์หวังตำหนิด้วยล่ะ?”
“ก็… เราเผยแพร่ข่าวซุบซิบเรื่องของถังซวงก่อนหน้านี้ไง? อาจารย์หวังบอกว่าจะสืบสวนหาคนที่ปล่อยข่าวลือพวกนี้ ฉันกลัวว่าพวกเขาจะตำหนิพวกเรา”
เล่อหยาฉงหันมองติงไหลตี้ด้วยความประหลาดใจ “แต่เราก็ไม่รู้ว่าถังซวงได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยจริงไหม อีกอย่างไม่ใช่เธอหรือที่พูดกับฉันเรื่องนี้? หลังจากฉันฟังแล้วฉันก็ไม่ได้เอาไปบอกใครสักหน่อย นั่นหมายความว่าเราไม่ได้แพร่กระจายข่าวลือ และอาจารย์หวังไม่มีสิทธิ์ตำหนิพวกเรานะ”
เล่อหยาฉงเหลือบมองติงไหลตี้ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความสงสัย “จริง ๆ แล้ว… ฉันก็เคยคิดนะว่าทำไมคนถึงพูดข่าวลือเกี่ยวกับถังซวงตั้งมากมาย แต่หลังจากคิดอยู่นาน ฉันรู้สึกว่าพวกเขาคงจะคิดเหมือนเธอ และคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา และถ้าทุกคนคิดแบบนั้นเหมือนกัน อาจารย์หวังก็ไม่สามารถตำหนิเราได้อยู่ดี”
ได้ยินเล่อหยาฉงพูดอย่างนั้น ติงไหลตี้ถึงกับพูดไม่ออก
ถ้าหากเล่อหยาฉงไม่ได้บอกสิ่งที่เธอพูดก่อนหน้าออกไป หวังอี้จะไม่สงสัยเล่อหยาฉงแน่นอน แต่ตัวเธอนั้นไม่ใช่ เพราะนอกเหนือจากที่บอกเล่าเรื่องนี้ให้เล่อหยาฉงฟัง เธอยังนินทาถังซวงกับคนอื่น ๆ มากมาย และมันก็เป็นไปตามที่เธอวางแผนไว้ คือข่าวลือนี้แพร่กระจายออกเป็นวงกว้าง กว้างจนไม่สามารถควบคุม จนทำให้ทุกสายตาจับจ้องถังซวงอย่างเหยียดหยาม
แต่น่าเสียดาย เธอไม่ทันได้มีความสุขนานนัก หลังจากที่เธอรู้ผลการสอบของถังซวง สิ่งนี้มันทำเธอหดหู่ใจอยู่นาน
ถังซวงไม่ใช่แค่สวย และมีฐานะดี แต่เธอยังฉลาด แม้แต่คู่หมั้นก็ของโดดเด่น ทำไมถึงมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับถังซวง? แต่ทำไมสำหรับเธอแล้วทุก ๆ อย่างมันดูยากไปหมด นับตั้งแต่เด็กจนโต จนกระทั่งสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยชิงหวาได้ มันก็ยังยากสำหรับเธอ คนอื่น ๆ มักจะดูถูกและปฏิเสธที่จะคบหากับเธอ… ทำไมช่องว่างระหว่างพวกเธอถึงมากมายขนาดนี้?
ยิ่งติงไหลตี้คิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ สีหน้าของเธอก็ยิ่งหมองหม่น
เล่อหยาฉงอยากพูดกับติงไหลตี้ต่อ แต่เมื่อหันกลับ เธอกลับเห็นใบหน้าเศร้าสร้อยของอีกฝ่าย เธอยิ่งรู้สึกประหลาดใจและคิดว่าติงไหลตี้นั้นผิดปกติ จึงกลืนคำพูดลงไป
เมื่อทั้งสองกลับมาถึงห้องเรียน พวกเธอเห็นหวังอี้ยืนอยู่ในห้องแล้ว เมื่อติงไหลตี้เข้ามา หวังอี้พูดเสียงทุ้ม “ติงไหลตี้ ไปห้องพักครูกับผม”
“อา… อาจารย์หวัง มีอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ?”
เมื่อเห็นหวังอี้ ติงไหลตี้อดไม่ได้ที่จะกังวล เธอหวาดกลัวว่าหวังอี้จะมาหาเธอเพราะเรื่องของถังซวง
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ไปที่ห้องพักครูกับผม รีบไปจะได้ไม่เสียเวลา”
แม้หวังอี้จะตอบอย่างนั้น แต่ติงไหลตี้ยังตื่นตระหนก
เมื่อเห็นว่าติงไหลตี้ยังยืนนิ่ง เล่อหยาฉงยืนอยู่ใกล้เคียงก็อดไม่ได้ที่จะผลักอีกฝ่าย “ไหลตี้ มัวยืนทำอะไรอยู่ อาจารย์หวังเรียกเธอไปคุยด้วยน่ะ”
หลังจากถูกเล่อหยาฉงผลักออกมา ติงไหลตี้ที่รู้สึกตัว เลยรีบตอบรับ “ค่ะ ฉันจะไปกับอาจารย์”
หวังอี้พยักหน้ารับ “อืม งั้นก็ไปกัน”
ติงไหลตี้ออกไปพร้อมกับหวังอี้แล้ว หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มซุบซิบกัน
“ทำไมอาจารย์หวังถึงเรียกติงไหลตี้ไปคุยล่ะ?”
“ฉันไม่รู้ อีกอย่างฉันไม่ได้คุยกับติงไหลตี้เท่าไหร่ ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”
บางคนอดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่า “ติงไหลตี้ทำอะไรผิดหรือเปล่า ทำไมอาจารย์หวังถึงต้องเรียกเธอไปพูดคุยด้วย”
“นั่นสิ ติงไหลตี้ทำอะไรผิด”
ชายคนหนึ่งเหลือบมองถังซวงก่อนจะพูดขึ้นว่า “อ้อ เร็ว ๆ นี้อาจารย์หวังกำลังตามหาว่าใครเผยแพร่ข่าวลือใส่ร้ายถังซวงไม่ใช่หรือ? พวกเธอคิดว่า… ติงไหลตี้เป็นคนทำหรือเปล่า?”