การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 486 เหวินเจ๋อหลิ่วไม่ธรรมดา
บทที่ 486 เหวินเจ๋อหลิ่วไม่ธรรมดา
บทที่ 486 เหวินเจ๋อหลิ่วไม่ธรรมดา
ทันทีที่เหวินเจ๋อหลิ่วได้ยินติงไหลตี้พูด เธอหัวเราะออกมาก่อนจะพูดว่า “ฉันน่ะหรือทำเกินไป? ก็เพราะเธอเป็นคนทำให้รองเท้าฉันสกปรก เธอก็สมควรที่จะซักมันให้ฉันไม่ใช่หรือ?”
“เธอ…”
ติงไหลตี้ทำให้รองเท้าของเหวินเจ๋อหลิ่วสกปรกเพราะไม่ทันระวัง แต่เหวินเจ๋อหลิ่วกลับยืนกรานที่จะให้เธอซักรองเท้าให้ได้ นี่มันแกล้งกันชัด ๆ
เห็นสีหน้าที่หดหู่ของติงไหลตี้ ใบหน้าของเหวินเจ๋อหลิ่วยิ่งเผยความเย่อหยิ่ง
“อะไร? ทำไมทำหน้าเหมือนถูกรังแกอย่างนั้นล่ะ? กำลังแสดงละครให้ใครดูอยู่?” เหวินเจ๋อหลิ่วชอบเหยียดหยามคนอื่น ๆ ภายในหอพักเสมอมา หลังจากได้รู้เรื่องราวของติงไหลตี้ เธอยิ่งรังเกียจหล่อน เมื่อเห็นติงไหลตี้ทำรองเท้าของเธอเลอะ เลยคิดให้อีกฝ่ายทำความสะอาดให้ แต่เพราะติงไหลตี้ปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาด มันเลยทำให้เธอโกรธจัด
“ฉันไม่ทำ”
ติงไหลตี้ยังคงปฏิเสธ แต่เหวินเจ๋อหลิ่วเองก็ไม่ยอมและยืนกรานจะให้ติงไหลตี้ซักรองเท้าของตนให้ได้
พอเห็นสถานการณ์ยิ่งตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ เหยาหงอดไม่ได้ที่จะหันไปหาติงไหลตี้แล้วพูดว่า “ติงไหลตี้ มันเป็นความผิดของเธอนะ เธอรีบไปซักรองเท้าซะจะได้จบเรื่อง”
“เธอ… พวกเธอ นี่พวกเธอกำลังบีบบังคับฉัน รวมหัวกันกลั่นแกล้งเพราะไม่ชอบฉันสินะ”
ได้ยินเหยาหงเอ่ยปากให้ติงไหลตี้ซักรองเท้า ติงไหลตี้ยิ่งหดหู่ ความโกรธที่เก็บไว้ก่อนหน้ายิ่งเพิ่มพูน เธอไม่คิดสนใจเหวินเจ๋อหลิ่วก่อนจะวิ่งออกจากหอพักพร้อมกับหนังสือเรียนในมือ
“ฮ่า ๆ… นี่คนที่ทำผิดมีสิทธิ์เศร้าด้วยหรือ?”
เหวินเจ๋อหลิ่วยังคงไม่พอใจนัก เมื่อเห็นว่ารองเท้าของตนเองยังสกปรกอยู่ เธอก็ยิ่งโกรธ
ส่วนถังซวงเพียงรับชมเรื่องสนุกสนานก่อนจะหยิบหนังสือเรียนแล้วเดินออกไป
ต้วนเฟิ่งหยิงเดินออกไปพร้อมกับถังซวง
“ถังซวง ติงไหลตี้นี่ตลกจริง ๆ หล่อนทำผิด แต่กลับไม่คิดจะทำความสะอาดรองเท้าให้กับเหวินเจ๋อหลิ่วด้วยซ้ำ” ต้วนเฟิ่งหยิงหันมองถังซวงด้วยความอิจฉา “ถังซวง เธอน่ะโชคดีจังเลยที่สามารถกลับบ้านได้ทุกวัน เลยไม่ต้องเจอเรื่องวุ่นวายในหอพักแบบนี้”
ต้วนเฟิ่งหยิงไม่ชอบติงไหลตี้ตั้งแต่แรก ตอนนี้ยิ่งไม่ชอบไปอีก
เมื่อพูดถึงเรื่องการกลับบ้าน ถังซวงยิ้มก่อนจะกล่าวเชิญ “ต้วนเฟิ่งหยิง ช่วงสุดสัปดาห์นี้เธออยากไปทานอาหารที่บ้านฉันไหม?”
“จริงหรือ?”
ต้วนเฟิ่งหยิงดีใจมากที่ได้รับคำเชิญ เธอรีบพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ตกลง ๆ”
เห็นว่าต้วนเฟิ่งหยิงตอบตกลง ถังซวงยิ้มก่อนจะพูดว่า “อย่างนั้นเดี๋ยวถ้าถึงเวลาแล้วฉันจะมารับนะ”
“อื้ม”
ต้วนเฟิ่งหยิงมีความสุขมาก เธอสัมผัสได้ว่าตนกับถังซวงสนิทกันมากขึ้นแล้ว
เมื่อทั้งสองมาถึงห้องเรียน พวกเขาเห็นว่าติงไหลตี้อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน เธอร้องไห้และวิ่งหนีมาที่ห้องเรียน ไม่มีใครนั่งใกล้เธอสักคน เพราะทุกคนก็รู้เรื่องของติงไหลตี้ ทำให้พวกเขาไม่เพียงรังเกียจแต่ยังไม่อยากจะเข้าใกล้หญิงสาวอีกด้วย
ติงไหลตี้รู้ว่าคนรอบตัวกำลังจับจ้องมาที่ตน เธอจึงพยายามข่มตาและกัดฟันแน่นเพื่อเมินเฉยสายตาเหล่านั้น
ส่วนทุกคนเห็นว่าติงไหลตี้กำลังอ่านหนังสือ จึงหันมองทางอื่นและไม่คิดสนใจเธอต่อไป
ทั้งสองคาบเรียนในวันนี้ ติงไหลตี้นั่งอยู่ในห้องเรียนและไม่ออกไปไหน เธอนั่งเฉย ๆ ไม่มีใครคุยด้วย จนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน เธอจึงเดินออกจากห้องไป
ต้วนเฟิ่งหยิงมองตามติงไหลตี้ที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะ
“ติงไหลตี้แย่มาก ถ้าฉันไม่รู้จักเธอคงจะคิดว่าเธอทะเลาะกับใครมา”
“อืม เธอดูอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ นั่นแหละ”
ถังซวงยิ้มก่อนจะหันมองต้วนเฟิ่งหยิง “ไปกินข้าวที่โรงอาหารกันเถอะ”
ต้วนเฟิ่งหยิงมองถังซวงด้วยความประหลาดใจ “อ้าว วันนี้เธอไม่กลับบ้านหรือ?”
“กลับสิ แต่หลังกินข้าวเสร็จฉันจะกลับไปที่หอพักเพื่อเอาของไปเก็บก่อน”
ต้วนเฟิ่งหยิงพยักหน้าก่อนจะรีบพาถังซวงไปที่โรงอาหาร “ถังซวง ถ้าเราไปช้าจะไม่เหลือของอร่อยนะ รีบไปกันเถอะ”
เมื่อทั้งสองมาถึง ยังมีอาหารมากมายเหลืออยู่ ถังซวงและต้วนเฟิ่งหยิงซื้ออาหารมากมายและหลังจากรับประทานอาหารแล้ว ทั้งสองก็กลับไปที่หอพัก
ถังซวงเก็บหนังสือก่อนเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ว่าติงไหลตี้กลับเดินเข้ามาในห้อง
ทันทีที่ติงไหลตี้เข้ามา เธอเห็นว่าถังซวงกำลังจะเดินออกไป เดิมทีเธอจะพูดสักสองสามคำ แต่เมื่อนึกถึงสีหน้าเย็นชาของถังซวง เธอจึงกลืนทุกคำลงท้องไป
คนอื่น ๆ ที่เห็นติงไหลตี้กลับมาก็ไม่มีการทักทาย ทุกคนจัดการกับธุระของตัวเอง
ส่วนติงไหลตี้เม้มปากแน่น ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวน่าเกลียด และขณะที่กำลังจะขึ้นเตียงของตัวเอง เหวินเจ๋อหลิ่วกลับเดินเข้ามา
ด้านเหวินเจ๋อหลิ่วที่เห็นติงไหลตี้จึงกล่าวขึ้น
“ติงไหลตี้ ฉันวางรองเท้าไว้ตรงนั้น หาเวลามาทำความสะอาดมันเร็ว ๆ ด้วยล่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น ติงไหลตี้ก็หันมองรองเท้าสกปรกคู่หนึ่ง
“เธอ… เหวินเจ๋อหลิ่ว เธอจะให้ฉันทำความสะอาดรองเท้าให้เธองั้นหรือ?”
เหวินเจ๋อหลิ่วเย้ยหยัน “ก็เธอเป็นคนทำให้มันสกปรก เธอก็ต้องเป็นคนทำความสะอาด เลิกพูดพล่ามได้แล้ว อีกสองวันฉันจะต้องเห็นว่ารองเท้าของฉันสะอาดล่ะ”
“หึ… ฉันจะไม่มีวันซักมันหรอก”
ติงไหลตี้กล่าวปฎิเสธอีกครั้ง ทุกคนต่างก็รู้ข่าวเกี่ยวกับเธอแล้ว และสายตาที่ทุกคนใช้มองเธอก็เปลี่ยนไป เพื่อนร่วมหอพักยังรวมหัวกันกลั่นแกล้งเธออีก แล้วทำไมเธอจะต้องซักรองเท้าให้คนอย่างนั้นด้วย?
เห็นติงไหลตี้ทำตัวเหมือนหมูไม่กลัวน้ำเดือด เหวินเจ๋อหลิ่วก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันก่อนจะหันมองติงไหลตี้ด้วยแววตาดูถูก “ก็ดี เธอหาเรื่องเองนะ” ในตอนท้ายของประโยค เหวินเจ๋อหลิ่วยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน
“โอ๊ย…”
ติงไหลตี้กรีดร้องออกมาก่อนจะล้มลงกับพื้น
ไม่มีใครเห็นว่าเหวินเจ๋อหลิ่วทำอะไร แต่ด้วยความเฉียบแหลมของถังซวง เธอมองเห็นมัน เวลานี้ดวงตาของเธอหันมองเหวินเจ๋อหลิ่วด้วยความสงสัย
เหวินเจ๋อหลิ่วเพียงดีดนิ้วและติงไหลตี้ก็ล้มลง ก่อนหน้านี้เธอคิดไว้แล้วว่าเหวินเจ๋อหลิ่วไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้
ส่วนเหวินเจ๋อหลิ่วสัมผัสได้ถึงสายตานั้น หล่อนหันหน้ากลับมาหาถังซวง
ถังซวงจึงทำเป็นนิ่งเฉย และหันไปมองติงไหลตี้บนพื้น
คนอื่น ๆ ที่ตกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นว่าติงไหลตี้ล้มลงไป
ทว่าหลังจากเห็นติงไหลตี้ไม่ลุกขึ้นสักที เหยาหงจึงก้าวไปด้านหน้าก่อนจะยื่นมือให้ “ติงไหลตี้ คราวต่อไปต้องเดินระวัง ๆ หน่อยนะ”
ติงไหลตี้ปวดไปทั่วร่าง ก่อนหน้านี้เธอยืนอยู่ดี ๆ แต่ทำไมถึงล้มได้?
หลังคิดอย่างนั้น ติงไหลตี้หันไปมองเหวินเจ๋อหลิ่วด้วยความสงสัย “เมื่อกี้เธอทำอะไรฉัน? ทำไมฉันถึงล้มแบบนี้?”