การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 489 ทำสบู่
บทที่ 489 ทำสบู่
บทที่ 489 ทำสบู่
ต้วนเฟิ่งหยิงยัดกำไลทองคำสองเส้นใส่มือของถังซวง “ถังซวง หวานหว่านกับฉันตั้งใจเตรียมสิ่งนี้ เธอต้องรับมันไปนะ ถ้าเธอไม่รับไว้ พวกเราก็ไม่รู้จะเก็บมันไว้ทำไม”
เจียนหวานหว่านที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวเสริม “รับไว้เถอะนะ ถังซวง”
เห็นความตั้งใจบนใบหน้าของต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่าน ถังซวงจึงยอมรับกำไลทองคำไว้อย่างว่าง่าย
“แต่ว่าถังซวง เธอบอกว่ามีลูกพี่ลูกน้องอยู่ที่บ้านด้วยไม่ใช่หรือ ทำไมฉันถึงไม่เห็นเลยล่ะ?”
ต้วนเฟิ่งหยิงนึกถึงที่ถังซวงบอก และรู้ว่าหล่อนมีลูกพี่ลูกน้องด้วย
ก่อนถังซวงจะตอบอะไร ถังชุนหยานกลับวิ่งมาซะอย่างนั้น “พี่สาวซวง ฉันมาสาย ขอโทษนะคะ”
ถังชุนหยานถอนหายใจหอบหนัก “ไม่เป็นไร เฟิ่งหยิงกับหวานหว่านต้องอยู่ทานอาหารอยู่แล้ว” ขณะพูด เธอก็แนะนำทั้งสองฝ่าย
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านเตรียมของขวัญชิ้นเล็กให้กับถังชุนหยานด้วย มันคือกิ๊บติดผมที่สวยงามสองชิ้น
ถังชุนหยานรับไว้ด้วยความยินดี “ขอบคุณค่ะ ฉันชอบมันมากเลย” เธอสัมผัสได้ว่านี่ไม่ใช่ของราคาถูก แตกต่างจากสิ่งที่หญิงสาวทั่วไปใช้ จึงลอบเขินอายเพราะตนไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย
แม้แต่ถังซวงเองก็ไม่คิดว่าต้วนเฟิ่งหยิงกับเจียนหวานหว่านจะเตรียมของมากมายเช่นนี้ และไม่ใช่ของถูก ๆ ดูท่าพวกเธอจะให้ความสำคัญกับอาหารมื้อนี้มากจริง ๆ “เฟิ่งหยิง หวานหว่าน นี่ยังเช้าอยู่เลย ทำไมเราไม่ไปนั่งเล่นกันก่อนล่ะ”
“อื้ม แล้วเราจะทำอะไรกันดีล่ะ?”
ก่อนถังซวงจะพูดอะไร ก็มีคนเดินเข้ามา “ทุกคนอยู่ที่นี่เองหรือ ถึงว่าฉันไม่เห็นใครด้านนอกเลย”
เมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคย ถังเซวี่ยรีบหันกลับมา ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็เผยความประหลาดใจ เมื่อเห็นว่าคนคนนั้นเป็นเฟิงเยี่ยหาน เธอรีบวิ่งไปหาเขาทันที “เฟิงเยี่ยหาน ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ล่ะ”
เฟิงเยี่ยหานที่ได้พบกับถังเซวี่ย มีสีหน้าอ่อนโยน จับมือเธอแล้วพูดว่า “ผมคิดถึงคุณน่ะ เลยมาหา”
“แล้วทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะ”
เฟิงเยี่ยหานเดินเข้าใกล้ถังเซวี่ยก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมอยากทำให้คุณประหลาดใจ เป็นไง? ประหลาดใจไหม?”
“อื้ม ประหลาดใจสิ”
ถังซวงเห็นทั้งสองคนพูดคุยกันราวกับไม่มีใครอยู่รอบข้าง จึงขัดจังหวะขึ้น “สหายเฟิง ไม่คิดเลยนะว่าคุณจะมาที่เมืองหลวงในวันนี้ พวกเรากำลังพูดคุยกันอยู่เลยว่าจะไปนั่งเล่นกันสักหน่อย คุณจะไปกับพวกเราไหม?”
เฟิงเยี่ยหานต้องการอยู่กับถังเซวี่ยตามลำพัง แต่เมื่อพบว่ามีคนแปลกหน้าสองคน เขาเลยคิดว่านั่นคือแขกของบ้าน และตอบรับคำเชิญจากถังซวง “อื้ม แน่นอน แต่ว่าเดี๋ยวผมไปหาคุณปู่กับคุณย่าก่อน เดี๋ยวกลับมาหานะ”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านมองเฟิงเยี่ยหานตาไม่กะพริบ หากเปรียบเทียบโม่เจ๋อหยวนกับชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ เฟิงเยี่ยหานคนนี้เปรียบกับภูเขาหิมะ เย็นชา ลึกล้ำ และเต็มไปด้วยเสน่ห์
เห็นต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านมองตามเฟิงเยี่ยนหาน ถังซวงจึงแนะนำ “เขาเป็นคนรักของเสี่ยวเซวี่ย ชื่อเฟิงเยี่ยหานน่ะ”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านหันขวับมองถังเซวี่ยก่อนจะหันมองเฟิงเยี่ยหาน “พวกคุณสองคนเหมาะสมกันมาก”
ชายหนุ่มรูปงามกับสตรีแสนสวย ใครได้พบเจอก็มีความสุข
ตั้งแต่ที่มาบ้านของถังซวง นับแต่ถังชุนหยาน ทุกคนล้วนหน้าตาดีทั้งหมด แม้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่กลับหน้าตาดีเหมือนกัน จนทั้งสองคนรู้สึกว่าพวกเธอกินอาหารได้ทั้งวันถ้าอยู่ในบรรยากาศที่สบายตาอย่างนี้
เฟิงเยี่ยหานชอบที่จะได้ยินว่าเขากับถังเซวี่ยเป็นคู่ที่เหมาะสม จึงพยักหน้าทักทายต้วนเฟิ่งหยิงกับเจียนหวานหว่าน ก่อนจะพาถังเซวี่ยไปหาคุณปู่จิงและคุณย่าจิง จากนั้นก็ไปพบเฮ่อหลานกับเด็กแฝดทั้งสองคน
เฟิงเยี่ยหานไม่ชอบเด็ก เขารู้สึกว่าเด็กชอบส่งเสียงดังและรับมือยาก แต่เมื่อเขาได้เจอกับฟักทองน้อยและฟักขาวน้อย ใจของเขาคล้ายจะละลาย เด็กน้อยทั้งสองน่ารักจนเขาอยากจะกอดรัดเอาไว้ “ขอพี่ชายอุ้มหน่อยนะ”
เขาอายุมากพอที่จะเป็นอาได้แล้ว แต่เพราะทั้งสองคือน้องชายกับน้องสาวของถังเซวี่ย เขาจึงกลายเป็นคนรุ่นเดียวกันกับถังเซวี่ยโดยปริยาย
เฮ่อหลานที่เห็นความอ่อนโยนของเฟิงเยี่ยหาน ก็ยกยิ้ม “เสี่ยวเยี่ย ไม่คิดว่าเธอจะเข้าเมืองหลวงเลยนะ แล้วคราวนี้จะพักอยู่ที่นี่นานแค่ไหนหรือจ๊ะ?”
“อีกสองสามวันถึงจะกลับครับป้าเฮ่อ”
ถังเซวี่ยหดหู่ใจ เฟิงเยี่ยหานอยู่ที่นี่ไม่นานก็จะกลับอีกแล้ว
แน่นอนว่าเฮ่อหลานสังเกตเห็นลูกสาวคนเล็ก เธอเลยยิ้มแล้วพูดว่า “เสี่ยวเซวี่ย ลูกก็ต้องไปโรงเรียนเหมือนกัน หรือลูกจะให้เสี่ยวเยี่ยอยู่กับลูกตลอดเวลาหรือไง?”
“หนูไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย”
เฟิงเยี่ยหานมีความสุขที่เห็นว่าถังเซวี่ยไม่อยากให้เขากลับ แต่ช่วงนี้เขายุ่งมากเลยไม่สามารถอยู่ที่นี่นาน ๆ ได้ “เสี่ยวเซวี่ย ผมจะรีบกลับมาหาคุณครับ”
“ถ้าว่างแล้วก็ค่อยมาก็ได้ค่ะ”
เฮ่อหลานยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเซวี่ย ถ้าถึงวันหยุด ลูกจะไปหาเสี่ยวเยี่ยก็ได้นะ หรือถ้าไม่อยากไปคนเดียวก็ลองชวนพี่กับเจ๋อหยวนไปด้วยสิ”
ถังเซวี่ยเองก็เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน และหลังจากได้ยินแม่พูดอย่างนั้นแล้ว เธอยกยิ้มก่อนจะตอบรับ “ค่า”
เฟิงเยี่ยหานคิดไปว่าถ้าถังเซวี่ยจะมาหาเขาบ้าง เขาคงมีความสุข พร้อมคิดว่าถังเซวี่ยจะหยุดเมื่อไหร่
เฮ่อหลานมองลูกสาวคนเล็กกับเฟิงเยี่ยหาน หลังพูดคุยกับพวกเขา ทั้งสองก็ขอตัวออกไปหาถังซวง “กว่าจะได้เจอถังซวงสักครั้ง หายากมากเลยนะจ๊ะ แถมวันนี้เพื่อนร่วมชั้นของซวงเอ๋อร์ก็มาด้วย พวกเธอหนุ่มสาวน่าจะพูดคุยกันได้ง่าย”
“ครับ”
เฟิงเยี่ยหานพาถังเซวี่ยออกมาหาถังซวง และเห็นว่าถังชุนหยานพาต้วนเฟิ่งหยิงกับเจียนหวานหว่านไปทำสบู่
“โห… ชุนหยาน เธอเก่งจัง ทำได้จริง ๆ ด้วย”
ถังชุนหยานส่ายศีรษะก่อนจะพูดว่า “พี่สาวซวงเป็นคนสอนฉันค่ะ เธอเก่งกว่านี้อีก”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านหันมองถังซวงด้วยความประหลาดใจ “โห เธอก็ทำได้หรือ สุดยอด มีอะไรบ้างที่เธอทำไม่ได้น่ะ”
“พวกเธอสองคนรีบลงมือทำเถอะ ขืนพูดคุยกันต่อไป ถึงเวลากินข้าวก็คงทำไม่เสร็จ”
“ก็ได้ ๆ พวกเราไม่คุยแล้ว”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านหยุดพูดคุย และเริ่มทำตามถังชุนหยานอย่างรวดเร็ว
ถังเซวี่ยเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม “ก็คิดอยู่ว่าพวกพี่จะทำอะไรกัน กลายเป็นว่ามาทำสบู่กันอยู่หรือคะ ฉันเองก็อยากลองทำบ้างจัง”
“งั้นลองทำดูสิ”
ถังซวงยกยิ้ม เริ่มจัดการมันพร้อมกับโม่เจ๋อหยวน วันนี้สนุกมาก เพราะมีคนมากมาย
เฟิงเยี่ยหานก็เดินตามถังเซวี่ยไปทำสบู่ด้วย หลังจากทั้งสองคนทำเสร็จแล้ว พวกเขาได้แกะสลักอักษรไว้บนสบู่
โม่เจ๋อหยวนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ในตอนแรก หลังจากเห็นเฟิงเยี่ยหานทำ เขาก็ทำตามและแกะสลักข้อความไว้บนสบู่ของตัวเองก่อนจะมอบให้ถังซวง