การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 490 เข้าร่วมโครงการ
บทที่ 490 เข้าร่วมโครงการ
บทที่ 490 เข้าร่วมโครงการ
ถังซวงรับสบู่จากโม่เจ๋อหยวนและเห็นข้อความ ‘ฉันรักเธอ’
ถ้อยคำง่าย ๆ แสดงออกถึงความรักทั้งหมดของโม่เจ๋อหยวน ถังซวงเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายผู้มีแววตาอ่อนโยน และรอยยิ้มกว้าง
โม่เจ๋อหยวนเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของถังซวง ชายหนุ่มหัวเราะออกมา
ด้านถังเซวี่ยและเฟิงเยี่ยหานก็หวานไม่แพ้กัน
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านที่เห็นภาพนั้น อดไม่ได้ที่จะกล่าวหยอกล้อ “ฉันไม่คิดว่าการที่เรามาทานอาหารที่บ้านของถังซวงจะได้เห็นความน่ารักของพวกเขามากขนาดนี้ ดูสิ ถังเซวี่ยเรียนอยู่ในชั้นมัธยมปลายกลับพบคู่ครองที่ดีซะแล้ว แต่เราสองคนกลับยังโสดและไร้วี่แววอย่างนี้”
“ใช่ ฉันละอิจฉาจริง ๆ ถ้าฉันได้เจอคนอย่างโม่เจ๋อหยวนหรือเฟิงเยี่ยหาน ฉันจะตอบตกลงทันทีเลย”
ต้วนเฟิ่งหยิงเห็นท่าทางอิจฉาของเจียนหวานหว่าน รีบกล่าวเตือนว่า “เธอหวังมากเกินไปหรือเปล่า กว่าจะได้เจอผู้ชายแบบพวกเขา ฉันไม่ได้หวังสูงหรอกนะ แค่เข้ากันได้ก็พอ”
เจียนหวานหว่านเป็นคนหน้าตาดี เธอจะโหยหาชายหนุ่มที่หล่อเหลาเป็นธรรมดา แต่เมื่อต้วนเฟิ่งหยิงราดน้ำเย็นใส่เธออย่างนี้ เธอบ่นพึมพำว่า “ปล่อยให้ฉันฝันต่อไปสักหน่อยก็ไม่ได้”
“มีสติเอาไว้จะดีกว่า”
เจียนหวานหว่านเพ้อฝันอะไรต่อไม่ได้แล้วเมื่อได้ยินคำพูดของต้วนเฟิ่งหยิง
จากนั้น เฮ่อหลานเดินเข้ามาและเห็นทุกคนกำลังยุ่งอยู่ ก็ยกยิ้มก่อนจะกล่าวเชิญ “ถึงเวลาทานอาหารแล้วจ้ะ”
ระหว่างทานอาหาร จิงเจ้อหรงกลับมาที่บ้าน ช่วงนี้หากเขาพอมีเวลา เขาจะกลับมาหาลูกน้อยทั้งสองคนในช่วงเที่ยง อีกทั้งวันนี้เพื่อนร่วมชั้นของถังซวงมาเยี่ยมที่บ้าน เขาจึงกลับมาเร็วขึ้นสักหน่อย
“พ่อคะ กลับมาแล้วหรือ”
ถังซวงและถังเซวี่ยเห็นว่าจิงเจ้อหรงกลับมาแล้ว ก็กล่าวทักทายทันที
ทันทีที่ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านเห็นจิงเจ้อหรง ทั้งสองก็รีบกล่าวทักทายอย่างสุภาพ และอดไม่ได้ที่จะพึมพำในใจ ‘ครอบครัวของถังซวงมีแต่คนหน้าตาดีจริง ๆ สินะ ทุกคนเหมือนกับดาราดังไม่มีผิด’
หลังจากทุกคนนั่งลง พวกเขาทานอาหารกันอย่างมีความสุข
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านกลับไปที่มหาวิทยาลัยหลังจากทานอาหารเสร็จ
“ทำไมไม่กลับหลังทานมื้อเย็นล่ะ”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านโบกมือทันที “ไม่ล่ะ พวกเราจะกลับแล้ว”
“ทำไมรีบจังเลย”
“ไม่ได้รีบหรอก แต่ตอนนี้พวกเรากินอิ่มแล้ว เราต้องกลับก่อน ไว้คราวหน้าค่อยมาใหม่”
ถังซวงพยักหน้ารับ “อื้ม งั้นไว้โอกาสหน้าก็ได้”
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนมาส่งทั้งสองคนที่มหาวิทยาลัย ก่อนจะกลับมาที่บ้าน
“อาหยวน โครงการที่พี่ไปร่วมก่อนหน้านี้เป็นยังไงบ้าง? ยังยุ่งอยู่ไหมคะ?”
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนยุ่งมาก ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันมากนัก มีแค่วันนี้ที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน ทั้งสองจับมือเดินไปตามทางอย่างช้า ๆ
หลังจากกลับมาแล้ว ถังซวงนึกถึงกำไลทองสองเส้นที่ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านให้ เธอเอาไปมอบให้เด็กสองคนกับเฮ่อหลาน “แม่คะ นี่ของที่เฟิ่งหยิงกับหวานหว่านเตรียมมาให้ค่ะ”
ทันทีที่เฮ่อหลานเห็นของขวัญ เธอหันมองถังซวงอย่างนึกเสียใจ “ซวงเอ๋อร์ ทำไมลูกถึงรับของขวัญราคาแพงอย่างนี้มาล่ะ เฟิ่งหยิงกับหวานหว่านยังเรียนอยู่ พวกเธอไม่ควรใช้เงินเพื่อซื้อมันขนาดนี้นะ”
“เดี๋ยวถ้าหนูกลับไปที่มหาวิทยาลัย หนูจะเตรียมของขวัญไปให้พวกเธอค่ะ”
เฮ่อหลานรีบพยักหน้า “จ้ะ เตรียมให้ดีเลย”
“ค่ะ”
เพราะเฟิงเยี่ยหานมาที่เมืองหลวง เขาจึงไปพักผ่อนในห้องที่เคยอยู่ และโม่เจ๋อหยวนก็ตามเขาเข้ามาด้วย เพราะมีทั้งสองคนอยู่ บ้านตระกูลจิงจึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
คุณนายจิงชอบความมีชีวิตชีวานี้มาก เธออยากให้โม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสักพัก “เสี่ยวเยี่ย เจ๋อหยวน คิดซะว่าที่นี่เป็นบ้านตัวเองนะจ๊ะ อย่าทำตัวเหมือนแขกเลย”
“ครับคุณย่า”
คุณนายจิงมีความสุขมากเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนเรียกเธอว่าคุณย่า แม้ว่าจะได้ยินหลายครั้งแล้วก็เถอะ
ถังซวงกับคนอื่น ๆ ยังเรียนอยู่ เมื่อถึงวันจันทร์ ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนออกไปมหาวิทยาลัยพร้อมกัน ส่วนเฟิงเยี่ยหานไปส่งถังเซวี่ยที่โรงเรียน
หลังจากถังซวงและโม่เจ๋อหยวนมาถึงมหาวิทยาลัย ทั้งสองตรงไปที่ชั้นเรียนของตัวเองทันที
ด้านต้วนเฟิ่งหยิงเห็นว่าถังซวงมาถึง รีบโบกมือทักทาย ส่วนเจียนหวานหว่านมานั่งแถวหลังกับถังซวง
ทันทีที่ถังซวงนั่งลง ต้วนเฟิ่งหยิงเป็นคนเปิดปากขึ้นก่อน
“ถังซวง ติงไหลตี้เปลี่ยนวิชาเอกไปแล้ว ไม่ได้อยู่ในชั้นเรียนของเราอีกแล้ว”
ถังซวงประหลาดใจ “เปลี่ยนวิชาเอกเลยหรือ?”
“ใช่ คงไม่ได้พบเจอกันอีกแล้วละ”
ถังซวงพยักหน้ารับ “ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องมีปัญหากันอีก”
ขณะกำลังคุยกัน ถังอวี้สือที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันกลับมาหาถังซวง “ถังซวง ฉันได้ยินว่าเธอจะเข้าร่วมโครงการของอาจารย์ฝูเหมือนกัน หลังจากนี้เราคงได้เป็นเพื่อนร่วมงานกันนะจ๊ะ”
“เพื่อนร่วมงาน?”
ถังอวี้สือยิ้ม “อื้ม ฉันเข้าร่วมโครงการของอาจารย์ฝูแล้วละ หลังจากนี้เราคงได้ทำงานร่วมกัน”
ถังซวงไม่คิดจริง ๆ ว่าถังอวี้สือจะเข้าร่วมโครงการของฝูเซียงหยางด้วย แต่เธอยังไม่ได้เข้าร่วมและไม่ทราบสถานการณ์ภายใน จึงไม่ได้พูดอะไรมากเพียงพยักหน้ารับ “อื้ม มาตั้งใจทำงานกันเถอะ”
เห็นถังซวงยังคงนิ่งเฉย ถังอวี้สือก็ยกยิ้ม “อื้ม พยายามด้วยกันนะ”
เหวินเจ๋อหลิ่วที่นั่งอยู่ข้างถังอวี้สือ เห็นถังซวงไม่ตื่นเต้น จึงอยากแขวะสักคำสองคำ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ถังอวี้สือบอกไว้ก่อนหน้า เธอจึงไม่ได้พูดอะไรและกล่าวเพียงว่า “ถังซวง ฉันเองก็เข้าร่วมโครงการของอาจารย์ฝูเหมือนกัน หลังจากนี้เราคงจะได้ช่วยเหลือและทำงานร่วมกันนะ”
“เธอด้วยหรือ?”
ถังซวงมองเหวินเจ๋อหลิ่วด้วยความประหลาดใจ
ส่วนเหวินเจ๋อหลิ่วได้ยินอย่างนั้น ก็ถามออกไปอย่างอดไม่ได้ “หมายความว่ายังไง? ฉันเข้าร่วมด้วยไม่ได้หรือ?”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น อืม มาพยายามด้วยกันเถอะ”
เหวินเจ๋อหลิ่วอยากจะพูดต่อ แต่สายตาของถังอวี้สือกลับหยุดเธอเอาไว้ เธอจึงสงบปากลง
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านที่เงียบมาตลอดทาง ทั้งสองไม่รู้ว่าอาจารย์ฝูมีโครงการอะไร จนถึงตอนนี้ถังซวงและคนอื่น ๆ ได้เข้าร่วมแล้ว แม้จะรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจว่าตนเองต้องพยายามตั้งใจเรียนต่อไป
เมื่อชั้นเรียนเริ่มต้นขึ้น ทั้งสองตั้งใจเรียนเป็นพิเศษ
หลังจากถังซวงจัดการทุกอย่างหมดแล้ว เธอก็มาเข้าร่วมโครงการของฝูเซียงหยางตามที่ตกลงไว้
“ถังซวง ยินดีต้อนรับสู่ทีมของพวกเรานะ หลังจากนี้พวกเรามาช่วยกันทำงานวิจัยด้วยกันเถอะ”