การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 494 พบเจอเว่ยเหิงอีกครั้ง
บทที่ 494 พบเจอเว่ยเหิงอีกครั้ง
บทที่ 494 พบเจอเว่ยเหิงอีกครั้ง
ฝูเซียงหยางปล่อยให้ถังซวงและถังอวี้สือจัดการในขั้นตอนสุดท้าย
ทำให้เฉารุ่ยและสวีซาประหลาดใจ พวกเขาสองคนรู้ว่าอาจารย์เชื่อในตัวของถังซวงมาก แต่ถังอวี้สือ? ทำไมอาจารย์ถึงให้หล่อนทำขั้นตอนสำคัญแบบนี้ ดูไม่เหมาะกับนิสัยรอบคอบของอาจารย์เลย
ทว่าถังอวี้สือเพิกเฉยต่อคนอื่น ๆ หันมองถังซวงด้วยรอยยิ้ม “เพื่อนร่วมชั้นถังซวง เรามาเริ่มกันเถอะ”
ถังซวงเหลือบมองอวี้สือก่อนจะยกยิ้มเช่นกัน “อื้ม เริ่มกันเลย แต่ฉันจะเริ่มก่อน”
เห็นแบบนี้เฉารุ่ยและสวีซายิ่งกังวล พวกเขามองถังซวงและถังอวี้สือตาไม่กะพริบ แต่ทักษะของถังซวงเก่งมาก เธอย่อมไม่ทำพลาดแน่นอน และพวกเขาไม่ได้กังวลเรื่องของถังซวงเลย แต่กังวลถังอวี้สือต่างหาก
ถังซวงลุกขึ้นก่อนจะหยุดพักสักครู่ ก่อนจะหันมองถังอวี้สือแล้วพูดขึ้นว่า “เพื่อนร่วมชั้นถังอวี้สือ จากนี้เป็นหน้าที่ของเธอ”
“อื้ม”
ถังอวี้สือยกยิ้มก่อนจะเข้าแทนช่วงของถังซวง
“ยังไง… ระวังด้วยนะ”
เฉารุ่ยและสวีซาเอ่ยปากเตือนด้วยความกังวล
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเชื่อมั่นในตัวถังอวี้สือ เหวินเจ๋อหลิ่วยิ่งหงุดหงิดก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “อวี้สือจะไม่ทำพลาด ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น”
ถังอวี้สือเริ่มลงมือแล้ว เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเธอ ทุกคนจึงรู้ว่าเธอเป็นคนมีประสบการณ์ และโล่งอกทันที
ฝูเซียงหยางหันมองถังอวี้สือ อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าพึงพอใจ แต่ไม่นานก็เผยแววตาประหลาดใจออกมา นึกย้อนถึงตนเองก่อนหน้านี้ว่าทำไมถึงยอมให้ถังอวี้สือเข้าจัดการในขั้นตอนสุดท้ายนี้ ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจรวดเร็วไปหน่อย
ฝูเซียงหยางอดไม่ได้ที่จะนึกเสียใจและหวาดกลัว แต่ตอนนี้ถังอวี้สือเริ่มลงมือแล้ว ซึ่งเขาทำได้เพียงเฝ้ามอง
โชคดีที่ถังอวี้สือมีทักษะยอดเยี่ยมเทียบเท่ากับถังซวงได้เลย
ถังซวงเลิกคิ้วก่อนจะหันมองถังอวี้สือแล้วคิดในใจ ถังอวี้สือคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เธอน่าจะปรุงยาได้ดี
และเพราะขั้นตอนสุดท้ายใช้เวลานานมาก ถังซวงและถังอวี้สือจึงสลับกันทำ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ทั้งคู่รู้สึกเหนื่อยไม่น้อย
จนเฉารุ่ยและสวีซาที่อยู่ใกล้ ๆ ต้องการเข้ามาช่วย แต่พวกเขากลัวว่าจะเกิดข้อผิดพลาด จึงไม่กล้าจะเอ่ยปาก
ฝูเซียงหยางมองทั้งสองคนก่อนจะพูดว่า “ทำไมพวกคุณสองคนไม่กลับไปก่อนล่ะ? เดี๋ยวผมจะติดต่อไปหลังจากทราบผลแล้ว”
“ไม่ครับ พวกเราจะอยู่ต่อ”
เห็นเฉารุ่ยและสวีซาไม่ยอมกลับไป ฝูเซียงหยางก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถึงจะไม่หิวแต่ถังซวงและถังอวี้สือก็ต้องกินอะไรบ้าง ไม่อย่างนั้นพวกเธอจะหมดแรงเอาได้ “ถ้าไม่อยากกลับบ้านก็ไปซื้ออะไรมาให้กินหน่อยสิ ผมหิวแล้ว ซื้อมาเผื่อทุกคนด้วย”
“ครับอาจารย์”
เฉารุ่ยและสวีซาออกไปซื้ออาหาร และเมื่อกลับมา ทุกคนก็เริ่มสลับกันกินอาหาร
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว เฉารุ่ยและสวีซาอดไม่ได้ที่จะถามฝูเซียงหยางว่า “อาจารย์ ทำไมคุณไม่กลับไปพักผ่อนล่ะครับ? เดี๋ยวพวกเราเฝ้าอยู่ที่นี่เอง”
“ไม่ ผมไม่อยากกลับ”
ฝูเซียงหยางอยากดูว่าในขั้นตอนสุดท้ายนี้มันจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เขาไม่คิดที่จะกลับออกไป แต่มองดูถังซวงและถังอวี้สือที่กำลังทำขั้นตอนสุดท้ายอยู่
“เสร็จแล้ว”
หลังจากกลั่นยาเสร็จสิ้น เหวินเจ๋อหลิ่วเป็นคนแรกที่พูดออกมา ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “สังเคราะห์ตัวต้นแบบเสร็จแล้ว”
“ไหน ขอผมดูหน่อย”
ฝูเซียงหยางก้าวไปด้วยความประหลาดใจ ส่วนเฉารุ่ยและสวีซาเองก็ชะเง้อมอง หลังจากเห็นผลลัพธ์ตรงหน้าแล้ว พวกเขาทั้งหมดแทบจะไม่เชื่อสายตา “ความร้อนในขั้นตอนสุดท้ายไม่เพียงพอจริง ๆ ด้วย พวกเราคงต้องพยายามให้มากกว่านี้”
ถังซวงหาวก่อนจะหันมองฝูเซียงหยางแล้วพูดขึ้นว่า “อาจารย์ฝูคะ ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ฉันกลับก่อนนะคะ”
ถังอวี้สือพูดขึ้น “ฉันก็จะกลับแล้ว”
“อื้มครับ พวกคุณกลับได้เลย ไม่ต้องห่วง ผมบอกอาจารย์ของพวกคุณไว้แล้วว่าวันนี้พวกคุณสองคนต้องลา พักผ่อนให้เต็มที่แล้วค่อยกลับมาเรียนนะ”
“ขอบคุณค่ะอาจารย์ฝู”
ถังซวงและถังอวี้สือเดินออกจากห้องทดลอง ขณะถังซวงกำลังจะเดินออกไป ถังอวี้สือกลับหยุดเธอเอาไว้ด้วยการชวนคุย
“ถังซวง เธอเก่งจัง ฉันที่คุ้นเคยกับวัสดุทำยาตั้งแต่เด็กคิดว่าตัวเองคือหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดของสาขาเภสัชวิทยาของเรา แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอเองก็เก่งมากขนาดนี้”
ถังซวงหันมองถังอวี้สือก่อนจะพูดตอบว่า “เธอก็เก่งมาก”
ถังอวี้สือหัวเราะ
“ฮ่า ๆ… ถึงเธอจะคิดว่าฉันเก่ง แต่จริง ๆ แล้วเธอก็ยังคิดใช่ไหมว่าตัวเองเก่งกว่า? แต่รู้ไว้เถอะว่าเรื่องนั้นมันไม่จริง”
ถังซวงไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเธอเองก็คิดว่าทักษะของตัวเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร
เห็นถังซวงยอมรับอย่างนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของถังอวี้สือยังคงประดับเอาไว้เช่นเดิม เธอหันมองถังซวงก่อนจะกล่าวเน้นย้ำ “ไม่ต้องคิดมากหรอก ฉันแค่จะบอกว่าระหว่างเธอกับฉันยังมีช่องว่างระหว่างกันมากอยู่ พรสวรรค์ของฉันยอดเยี่ยมที่สุดในสาขาเภสัชวิทยา ต่อให้เธอจะได้คะแนนสูงสุดในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชิงหวา แต่ยังไงฉันก็เป็นอันดับหนึ่ง” ถังอวี้สือเป็นบุตรสาวคนโตของตระกูลถัง เธอจะต้องเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด แน่นอนว่าเธอไม่คิดยอมแพ้ถังซวง
ทว่าถังซวงที่ได้ยิน กลับตอบอย่างไม่ใส่ใจ “อื้ม เธอเก่งที่สุด”
ถังซวงเดินออกไปอย่างไม่แยแส
เห็นความเย็นชาอย่างนั้น เหวินเจ๋อหลิ่วโกรธมาก แม้แต่ถังอวี้สือก็ยังกระวนกระวายในใจ ดวงตาของเธอยิ่งเย็นชา แต่ก่อนที่ทั้งสองจะกลับไปที่หอพัก ก็มีคนเข้ามาตามหาพวกเขา “ถังอวี้สือ เหวินเจ๋อหลิ่ว มีคนมารอพบพวกเธออยู่ที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย เขาบอกว่าเป็นคนแซ่เว่ย”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ถังอวี้สือพูดขึ้นว่า “แซ่เว่ย หรือว่าจะเป็นเว่ยชื่อเหอ”
เหวินเจ๋อหลิ่วเห็นด้วย “คุณหนู น่าจะเป็นเว่ยชื่อเหอนะคะ เห็นเขาบ่นว่าอยากพบคุณมานานแล้ว”
“อย่างนั้นเราออกไปกันเถอะ”
ขณะที่ถังอวี้สือและเหวินเจ๋อหลิ่วมาถึงประตูหน้า พวกเธอเห็นถังซวงเดินออกมาพร้อมกับหนังสือสองสามเล่มเช่นกัน
ซึ่งถังซวงเห็นทั้งสองคน แต่ไม่คิดสนใจ เดินออกไปอย่างไม่แยแส
และถังอวี้สือกับเหวินเจ๋อหลิ่วเองก็ได้พบกับบุคคลที่มาพบแล้ว เป็นเว่ยชื่อเหอจริง ๆ
“อวี้สือ… ทางนี้”
เว่ยชื่อเหอโบกมือเรียกถังอวี้สือและเหวินเจ๋อหลิ่วด้วยรอยยิ้ม
ถังซวงที่ได้ยินคนเรียกหาถังอวี้สือ หันไปมองและเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นชายร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลา ทั้งยังมีไฝที่หว่างคิ้วดูมีเสน่ห์ไม่เบา ค่อนข้างโดดเด่นมากจริง ๆ
แต่ถังซวงหันมองเพียงครู่เดียวก่อนจะหันกลับไปอย่างไม่สนใจ
ขณะที่เธอกำลังจะจากไป เธอกลับเห็นรถจอดอยู่ข้างถนน ซึ่งเธอเคยได้พบกับคนที่นั่งอยู่ภายในรถนั่น
เว่ยเหิง…
เว่ยเหิงเองก็จ้องมองถังซวงด้วยเหมือนกัน แน่นอนว่าเขาจดจำถังซวงได้ และเมื่อเห็นถังซวงอีกครั้ง ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นมาทันที เขารู้สึกหงุดหงิดที่ตัวเองนึกไม่ออกว่าเคยเจอกับผู้หญิงคนนี้ที่ไหน ไม่ว่ายังไงก็จำไม่ได้สักที