การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 50 หยุด
บทที่ 50 หยุด
บทที่ 50 หยุด
เจ้านายพยักหน้าและเขาพูดว่า “เอาล่ะ งั้นพักกันที่นี่ก่อน เหล่าเอ้อร์คอยดูสาวน้อยพวกนั้นให้ดี อย่าปล่อยให้หนีไปได้”
เหล่าเอ้อร์หัวเราะ
“พี่ใหญ่ระวังตัวเกินไปแล้ว ก็แค่พวกเด็กสาว ที่นี่ไม่มีหมู่บ้านหรือร้านค้า จะไปไหนได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถูกมัดแบบนี้ ข้าวปลาก็ไม่ได้กินตั้งแต่ถูกพามา พวกเธอจะยังมีเรี่ยวแรงวิ่งอีกหรือ?”
เจ้านายมองเหล่าเอ้อร์ด้วยใบหน้ามืดทะมึนแล้วพูดว่า “ฉันบอกให้ระวังก็ระวัง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น นายคงจะรู้ผลที่ตามมา”
เมื่อเห็นสายตาของเจ้านาย เหล่าเอ้อร์ก็ตัวสั่น เขาลืมนิสัยของเจ้านายไปได้อย่างไร ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เขาคงไม่สามารถหนีได้อย่างแน่นอน “ครับ ผมจะไปดูเดี๋ยวนี้”
เหล่าเอ้อร์เดินตรงไปที่ด้านหลังของรถบรรทุก หยิบกุญแจออกมาแล้วเปิดประตูดู เขารู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าถังซวงและคนอื่น ๆ ยังถูกมัดเอาไว้
เมื่อถังซวงเห็นคนมา เธอก็ร้องไห้แล้วพูดว่า “ฉัน…ฉันอั้นไม่ไหวแล้ว ฉันทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ”
“อยู่แบบนั้นแหละ”
เหล่าเอ้อร์เพิ่งโดนเจ้านายดุไปจึงใจคอไม่ดี เขาปฏิเสธเด็กสาวไปพร้อมหยิบแม่กุญแจมาล็อกอีกครั้ง
“เหล่าเอ้อร์ เดี๋ยวก่อน…”
เหล่าซานเดินมาหาด้วยรอยยิ้ม “คนเราต่างก็ต้องปลดปล่อยออกมา ให้สาวน้อยคนนั้นไปปลดทุกข์หน่อยเถอะ”
เหล่าเอ้อร์ชำเลืองมองเหล่าซาน ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เหล่าซาน เจ้านายเพิ่งบอกว่าเราต้องดูแลเด็กพวกนี้ให้ดี เราต้องไม่ทำพลาด ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจินตนาการไม่ออกเลย”
เหล่าซานอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงเมื่อเขานึกถึงเจ้านาย แต่เมื่อเขานึกถึงรูปร่างหน้าตาและขาที่เรียวยาวของถังซวง เขาก็รู้สึกร้อนในใจ “เหล่าเอ้อร์ ฉันชอบหญิงสาวคนนี้ เธอแค่จะปลดทุกข์เท่านั้น กับแค่หญิงสาวตัวเล็ก ๆ จะพลิกโลกให้กลับหัวกลับหางได้เชียวหรือ?”
“เหล่าซาน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายกำลังคิดจะทำอะไร อย่าแตะต้องสาวน้อยเหล่านี้ มิฉะนั้นพวกเธอก็ไร้ค่า”
เหล่าซานเลิกคิ้วก่อนจะพูดว่า “อย่ากังวลไป ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก นายก็รู้จักฉัน เพราะงั้น… ปล่อยฉันไปกับสาวน้อยคนนั้นเถอะ”
“งั้นก็ดูแลตัวเองด้วย”
เหล่าเอ้อร์นึกถึงสิ่งที่เหล่าซานเคยทำมาก่อน และรู้ว่าอีกฝ่ายคงมีแผนอยู่ในหัวแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรอีก เขาดึงถังซวงออกมา “เดินไป ๆ ลำบากจริง ๆ รีบไปรีบกลับให้ไวด้วย”
“พี่สาว…”
คนที่อยู่ข้างในได้ยินการสนทนาระหว่างพวกเขาสองคนอย่างชัดเจน พวกเธอจึงรู้ความหมายของสิ่งที่เหล่าซานพูด ถังเซวี่ยจึงคว้ามือของถังซวงไว้
ถังซวงมองไปที่ถังเซวี่ย สบตาน้องสาวอย่างมั่นใจ
เมื่อเห็นว่าถังเซวี่ยยังคงต้องการที่จะออกมาพร้อมกับเธอ ถังซวงก็มองตรงไปที่ถังชุนหยานแล้วพูดว่า “ดูแลเสี่ยวเซวี่ยด้วย”
เมื่อสบสายตาของถังซวง ถังชุนหยานก็ตอบสนองทันที เธอคว้าถังเซวี่ยไว้แล้วพูดว่า “เสี่ยวเซวี่ย เดี๋ยวพี่ใหญ่ก็กลับมา เราแค่ต้องรอเอง”
ถังเซวี่ยมองไปที่การแสดงออกของถังซวง เธอหายใจเข้าลึก ๆ แล้วควบคุมตัวเองให้ไม่วิ่งตามไป
หลังจากที่ถังซวงกระโดดลงจากรถแล้ว เธอมองไปที่เหล่าซานอย่างเขินอายและพูดว่า “ถ้างั้น…รีบไปกันเถอะ ฉัน…ทนไม่ไหวแล้ว”
“ฮ่า ๆ ฉันจะพาเธอไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”
เหล่าซานพาถังซวงไปที่พุ่มไม้พลางมองเธออย่างหยาบโลนแล้วพูดว่า “สาวน้อย เร็วเข้า ฉันจะระวังตรงนี้ให้เอง”
“ฉัน…ฉันขออยู่ที่นี่คนเดียว คุณกลับก่อนได้ไหม?”
เหล่าซานปฏิเสธทันทีไม่แม้แต่จะคิด
“ไม่ดีหรอก ถ้าเธอเกิดหนีไปล่ะ?”
ถังซวงทำท่าทางอ่อนแรงและพูดว่า “แต่…แต่คุณจะเห็น”
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่อ่อนแอและน่ารังแกของถังซวง เหล่าซานก็รู้สึกว่าเขาแทบจะทนไม่ได้อีกต่อไป
“สาวน้อย เร็วเข้าดีกว่า ฉันไปไหนไม่ได้หรอก มามะ เดี๋ยวพี่ชายช่วยถอดกางเกงให้” พูดจบ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าความคิดนี้ดีมาก “ฮ่า ๆ ทำไมเธอยังไม่ขยับละ นี่ฉันจะช่วยเธอจริง ๆ นะ มาเร็ว” ขณะที่เขาพูด เขาก็สาวเท้าไปหาถังซวง
เมื่อเห็นการกระทำของเหล่าซาน นัยน์ตาที่หลุบลงของถังซวงก็วาบประกายเยือกเย็น แต่ในไม่ช้า เธอเงยหน้าขึ้นด้วยดวงตาของเด็กสาวที่ระมัดระวังตัวแล้วพูดว่า “ฉัน… ฉันควรไปที่พุ่มไม้ มันน่าจะสะดวกกว่า แต่ไกลนิดหน่อย” เธอถามต่ออย่างเป็นกังวล “ฉัน…ฉันไปคนเดียวได้ไหม?”
เมื่อเห็นว่าสถานที่ปัจจุบันอยู่ใกล้รถมาก เหล่าซานก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ ถ้าไปที่นั่นจะไม่มีใครเห็นเธอ แต่ฉันจะไปที่นั่นกับเธอแน่นอน รีบไปกันเถอะ” หลังจากพูดจบ เขารอไม่ไหวแล้ว เขารีบลากถังซวงไปทันที
ถังซวงมองไปยังมือที่จับเธอไว้อย่างเย็นชาพลางนึกเย้ยหยันแล้วเดินตามไป
“สาวน้อย ให้ฉันช่วยไหม?”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองจะไม่ถูกเห็นแน่นอน เหล่าซานก็ไม่ปิดบังความตั้งใจของเขาอีกต่อไป เขารีบเข้าหาถังซวงด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
“เฮ้อ… ทันพอดีเลย”
ถังซวงตอบเขาด้วยรอยยิ้ม เมื่อเหล่าซานรู้สึกว่าเขากำลังจะได้กอดถังซวง เด็กสาวก็ฟาดไปที่คอของเขาด้วยฝ่ามือ เหล่าซานไม่มีโอกาสแม้แต่จะตะโกน เพียงแค่หลับตาและหมดสติไป
เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นหมดสติ ถังซวงก็รีบลากเขาไปที่พุ่มไม้ มัดเขาด้วยเชือก และในขณะเดียวกันก็ฉีดยาให้เขาอีกเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ตื่นในเร็ว ๆ นี้
หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว ถังซวงก็เดินไปที่รถบรรทุกอย่างเงียบ ๆ
เหล่าเอ้อร์อยู่ที่นั่นตลอดเวลา เมื่อเห็นว่าถังซวงและเหล่าซานไม่กลับมา เขาก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่งแล้วพูดว่า “ไอ้บ้าเหล่าซานแม่ง พอเห็นสวย ๆ เข้าหน่อยก็อยากจะทำขึ้นมา แล้วนี่ยังไม่กลับมาอีก ถ้าเจ้านายรู้เข้า ได้เป็นเรื่องแน่”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เหล่าเอ้อร์ก็กังวล เขามองไปยังรถที่อยู่ข้างหลัง และวางแผนที่จะล็อกประตูเพื่อไปหาเหล่าซาน
แต่เมื่อเขาหันหลังกลับไปเพื่อล็อกประตู เขาก็รู้สึกถึงลมกระโชกแรงที่พัดมาจากด้านหลัง ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบโต้ การมองเห็นของเขาก็มืดลงและเขาก็หมดสติไป
ถังซวงรีบจับเขาไว้ แล้วค่อย ๆ วางเขาไว้ที่ท้ายรถ
“อะ…”
เด็กสาวคนหนึ่งไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว
ถังเซวี่ยตอบสนองอย่างรวดเร็ว รีบวิ่งไปหาเด็กสาวคนนั้นพร้อมกับปิดปากของเธอไว้ “จะทำอะไร? จะเรียกไอ้พวกที่เหลือมารึไง?”
เด็กสาวรู้ว่าตัวเองผิดจึงรีบขอโทษ
“เปล่า…”
ก่อนที่เธอจะขอโทษเสร็จ ถังซวงพูดอย่างเย็นชาว่า “เร็วเข้า อย่าช้า ลงจากรถซะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตกตะลึง ก่อนจะแก้เชือกอย่างง่ายดายแล้วลงจากรถทีละคน
เมื่อเห็นว่าทุกคนเคลื่อนไหวเร็วพอ สีหน้าของถังซวงก็สดใสขึ้นเล็กน้อย “ไปทางนี้กันเถอะ”
“อื้ม”
เมื่อเห็นโอกาสที่จะหลบหนี ทุกคนก็ตื่นเต้น พวกเธอเชื่อฟังถังซวงมาก แต่ก็กลัวอยู่ว่าจะไม่สามารถหลบหนีได้
“โอ๊ย”
ตอนนี้ก็ยังเป็นเด็กสาวคนเดิมที่ร้องออกมา เธอสะดุดก้อนหินและล้มลงกับพื้นจนส่งเสียงดัง
“ลุกขึ้นเร็วเข้า”
ถังซวงขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นเด็กทึ่มคนนี้
เป็นเพราะเสียงนี้ที่ทำให้เจ้านายและเหล่าซื่อที่อยู่ข้างหน้าตื่นตระหนก พวกเขารีบมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“หยุดนะ!”