การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 500 งานมงคลสมรสของเกอชิงเหม่ยและซ่างสยงเยี่ย
- Home
- การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย
- บทที่ 500 งานมงคลสมรสของเกอชิงเหม่ยและซ่างสยงเยี่ย
บทที่ 500 งานมงคลสมรสของเกอชิงเหม่ยและซ่างสยงเยี่ย
บทที่ 500 งานมงคลสมรสของเกอชิงเหม่ยและซ่างสยงเยี่ย
หลังจากหยินอี้จากไปแล้ว เหลิ่งตงปรากฏตัวขึ้นด้วยสีหน้ากังวลใจ
“คุณถังซวง เป็นความจริงหรือครับที่ว่า… ถังอวี้สือกับเหวินเจ๋อหลิ่วจะมาจากตระกูลอิ๋นซื่อ? ถ้าอย่างนั้น… เรื่องนี้คงไม่ง่ายแล้วละครับ”
ถังซวงหันมองเหลิ่งตงก่อนจะถามว่า “ทำไมหรือ?”
“ในตอนนั้นตระกูลอิ๋นซื่อช่วยเหลือประเทศให้รอดพ้นจากศัตรูจากต่างประเทศเอาไว้ พวกเขามีเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่น อย่างเว่ยเหิงที่คุณเคยเจอมาก่อน ตระกูลเว่ยของเขาเองก็เก่งกาจเรื่องการเร้นลับ เวลานั้นเมื่อเกิดสงคราม อาวุธเร้นลับของพวกเขาสร้างความได้เปรียบให้กับเรามาก และเปลี่ยนความเสียเปรียบกลับมาเป็นได้รับชัยชนะ ซึ่งคุณจูและเว่ยเหิงพบกันเมื่อคราวนั้น และเว่ยเหิงเป็นคนที่สอนวิธีการใช้อาวุธเร้นลับ อีกทั้ง…”
ดวงตาของเหลิ่งตงเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
“เว่ยเหิงคนนั้นสุดยอดมาก นอกจากทักษะการใช้อาวุธเร้นลับอย่างเชี่ยวชาญ ทักษะการต่อสู้ของเขานับว่ายอดเยี่ยม เขาเก่งกว่าผม แต่ผมไม่รู้ว่ามากขนาดไหน แต่เว่ยเหิงเป็นแค่สมาชิกของตระกูลเว่ย ผมเคยได้ยินว่าทายาทสายตรงของตระกูลเว่ยแข็งแกร่งมาก”
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น
“ดูเหมือนว่าทุกคนที่อยู่ในตระกูลอิ๋นซื่อจะรับมือไม่ง่ายเลยนะ”
“ครับ ตระกูลอิ๋นซื่อดำรงอยู่มานานหลายปี รากฐานของพวกเขาหยั่งลึกและมีอำนาจมากมาย”
เหลิ่งตงหันมองถังซวงด้วยแววตาซับซ้อน หากกล่าวตามเหตุและผล คนของตระกูลอิ๋นซื่อจะไม่ออกมาพบเจอกับผู้คนภายนอกแน่นอน แล้วทำไมถังอวี้สือกับเหวินเจ๋อหลิ่วถึงมุ่งเป้ามาที่ถังซวง?
สีหน้าของถังซวงกลายเป็นมืดมนหลังได้ยินคำพูดของเหลิ่งตง อย่างไรก็ตามตอนนี้ถังอวี้สือและเหวินเจ๋อหลิ่วมีเจตนาร้ายต่อเธอ ไม่ว่ายังไงเธอจะไม่นั่งรอความตายแน่นอน ต้องเตรียมรับมือเรื่องนี้ให้ดี
ถังซวงหยุดคิดถึงเรื่องนี้
“เหลิ่งตง อย่างนั้นช่วยตรวจสอบถังอวี้สือกับเหวินเจ๋อหลิ่วอย่างละเอียดให้หน่อยนะ”
“ครับ”
เขาพยักหน้ารับก่อนจะหายไปในความมืด
ถังซวงกลับมาที่หอพักเพื่อเก็บข้าวของแล้วเตรียมตัวกลับบ้าน พรุ่งนี้จะเป็นงานแต่งงานของเกอชิงเหม่ยกับซ่างสยงเยี่ย เธอจะต้องกลับบ้าน
หลังจากถังซวงเก็บของเสร็จและลงมาด้านล่างหอพัก เธอก็ได้พบกับโม่เจ๋อหยวน เมื่อเห็นเขาเธอก็ประหลาดใจ “อาหยวน ทำไมถึงมาที่นี่ได้? แล้วมายืนรอนานหรือยัง ทำไมไม่ให้ใครไปเรียกฉันล่ะ”
“ฉันเพิ่งถึง มารับเธอกลับบ้านน่ะ”
โม่เจ๋อหยวนยิ้มก่อนจะคว้ากระเป๋าของถังซวงมาถือไว้และพาเธอเดินออกไปหน้าประตูมหาวิทยาลัย “ซวงเอ๋อร์ ฉันจัดของมาด้วยเหมือนกัน คืนนี้ฉันจะนอนที่บ้านเธอนะ”
ถังซวงเหลือบมองโม่เจ๋อหยวนด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะนึกถึงเรื่องบางอย่างแล้วหัวเราะออกมา “เฟิงเยี่ยหานมาแล้วใช่ไหมคะ”
“สมกับเป็นซวงเอ๋อร์จริง ๆ”
โม่เจ๋อหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้ยินว่าเฟิงเยี่ยหานอยู่ที่บ้านของเธอแล้วน่ะ”
“ฉันไม่คิดมาก่อนว่าพวกพี่สองคนจะสนิทกัน”
โม่เจ๋อหยวนไม่ปฏิเสธก่อนจะพยักหน้ารับ “อื้ม เราสองคนค่อนข้างคุยกันถูกคอ”
ทั้งสองเดินและพูดคุยกันไปตามถนน ไม่นานก็กลับมาถึงบ้านตระกูลจิง
“ซวงเอ๋อร์ เจ๋อหยวน มาแล้วหรือจ๊ะ เข้ามาด้านในก่อนสิ”
คุณนายจิงเห็นว่าทั้งสองคนกลับมาแล้ว โบกไม้โบกมือให้พวกเขา จากนั้นชี้ไปทางเฟิงเยี่ยหาน “เสี่ยวเยี่ยก็มาถึงแล้วเหมือนกัน ครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันสักที” หญิงชราอายุมากแล้ว สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือให้บ้านหลังนี้มีชีวิตชีวา
เฟิงเยี่ยหานที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยกยิ้ม “คุณย่าครับ ผมคงต้องอยู่ที่นี่สักพัก ต้องรบกวนด้วยนะครับ”
คุณนายจิงโบกมืออย่างรวดเร็ว “รบกวนอะไรกันล่ะ ฉันอยากให้เธออยู่ที่นี่ตลอดไปเลยจ้ะ”
คำพูดนั้นทำให้เฟิงเยี่ยหานจ้องมองถังเซวี่ยที่ด้านข้าง “ครับ ผมจะอยู่ที่นี่ตลอดไปเลย”
ได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกในใจของเฟิงเยี่ยหาน ยิ่งทำให้คุณนายจิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ถังเซวี่ยเองเขินอายที่เฟิงเยี่ยหานจ้องมองและพูดแบบนั้น เธอถลึงตาใส่เขา
เฟิงเยี่ยหานจึงรีบหันมองทางอื่น
ในตอนเย็น หลี่จงอี้และซูเหนียนอวิ๋นมาพร้อมกับเกอชิงเหม่ยและซ่างสยงเยี่ย โต๊ะใหญ่สองโต๊ะถูกตระเตรียมไว้ในบ้านตระกูลจิง และสองโต๊ะนั้นแทบจะนั่งไม่เพียงพอ
เพราะพรุ่งนี้คือวันมงคลสมรสของซ่างสยงเยี่ยกับเกอชิงเหม่ย ทุกคนจึงไม่ได้ดื่มมากนัก ทานอาหารง่าย ๆ ก่อนจะแยกย้ายกันไป
วันรุ่งขึ้นเฮ่อหลานพาถังซวง ถังเซวี่ย และถังชุนหยานไปที่บ้านของหลี่จงอี้เพื่อช่วยเหลือในวันงาน
ส่วนเกอชิงเหม่ยนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งด้วยสีหน้าว่างเปล่า เธอไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี
เมื่อเฮ่อหลานและคนอื่น ๆ เข้ามา พวกเธอเห็นว่าเกอชิงเหม่ยยังไม่ได้ทำอะไรเลย
ถังชุนหยานก้าวเข้ามาเป็นคนแรกแล้วพูดขึ้นว่า “ป้าเกอคะ วันนี้ให้ฉันแต่งหน้าให้นะ ฉันเอาเครื่องสำอางที่ผลิตใหม่มาด้วย”
เกอชิงเหม่ยนึกยินดีตอบตกลงทันที “จ้ะ”
แม้เธอจะอายุมากแล้ว แต่นี่คือการแต่งงานครั้งแรก เธอค่อนข้างกังวลและกลัวว่าคนอื่นจะหัวเราะเยาะ แต่ถ้ามีถังชุนหยานคอยช่วยเหลือก็คงจะดี
ถังชุนหยานแต่งหน้าเก่งขึ้นมาก เธอได้เรียนรู้ทักษะมากมายจากถังซวง ทำให้ค่อนข้างเชี่ยวชาญการแต่งหน้าเจ้าสาว
ถังซวงและถังเซวี่ยเองก็ช่วยเช่นกัน เพราะยังไงงานแต่งงานก็มีเรื่องให้ทำมากมาย
ในฐานะผู้มีประสบการณ์ เฮ่อหลานเห็นแล้วว่าเกอชิงเหม่ยกำลังประหม่า เธอจึงยืนข้าง ๆ ก่อนจะกล่าวพูดคุยอย่างปลอบประโลม “พี่คะ หลังจากแต่งงานกับคุณซ่างแล้ว พี่จะไปก่างเฉิงเลยไหม? แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่หรือ?” แม้จะสัมผัสได้ถึงความกังวลใจของเกอชิงเหม่ย และรู้ว่าเกอชิงเหม่ยจะกลับมา แต่เฮ่อหลานก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่
พอได้ยินอย่างนั้นแล้วเกอชิงเหม่ยถึงกับหัวเราะออกมา “ออกเดินทางหลังจากนี้ห้าวันน่ะ แล้วจะอยู่ที่นั่นหนึ่งเดือนก่อนจะกลับมาจ้ะ”
เฮ่อหลานดูจะตื่นเต้นทันทีที่ได้ยินว่าเกอชิงเหม่ยจะกลับมาในเร็ววัน
ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนเกอชิงเหม่ยลืมเรื่องที่กังวลไปเสียสนิท
หลังจากถังชุนหยานแต่งหน้าให้เกอชิงเหม่ยแล้ว ถังซวงก็ช่วยทำผม
เกอชิงเหม่ยมองตัวเองที่สวยขึ้นมากก่อนจะยกยิ้มออกมา “พวกเธอนี่มีฝีมือจริง ๆ นะ ฉันดูอายุหายไปหลายปีเลยละ”
“ป้าสวยอยู่แล้วต่างหาก”
ถังเซวี่ยหยิบเสื้อคลุมสีแดงมาให้เกอชิงเหม่ยสวม
หลังจากเกอชิงเหม่ยเก็บข้าวของเสร็จแล้ว แขกบางคนก็เริ่มทยอยมาถึง โม่เจ๋อหยวน เฟิงเยี่ยหาน และจิงเจ้อหรงเดินเข้ามา ด้านเฮ่อหลานเห็นจิงเจ้อหรงมาคนเดียว จึงรีบถาม “ฟักทองน้อยกับฟักขาวน้อยล่ะคะ?”
“ไม่ต้องห่วง คุณพ่อกับคุณแม่กำลังดูอยู่ เดี๋ยวถึงเวลางาน สองคนนั้นก็จะไปที่โรงแรมพร้อมกับพวกท่านเลย”
เฮ่อหลานโล่งใจหลังได้ยินคำตอบ
ถังซวงเห็นซ่างสยงเยี่ยเชิญญาติและเพื่อนฝูงมากมายมาร่วมงานด้วย และในหมู่คนมากมายเหล่านี้มีบางคนที่เธอคุ้นเคย
“พี่สาวซวง เสี่ยวเซวี่ย เราได้เจอกันสักทีนะคะ”
จูรุ่ยเห็นถังซวงและคนอื่น ๆ ก็วิ่งมาหาด้วยรอยยิ้ม “ดีใจที่ได้พบนะคะ”
ถังซวงประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นจูรุ่ย “ทำไมเธอถึงมาที่เมืองหลวงได้ล่ะ?”
“ฉันก็มาร่วมงานแต่งงานของคุณซ่างสิคะ”