การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 503 จ้องมอง
บทที่ 503 จ้องมอง
บทที่ 503 จ้องมอง
ถังอวี้สือได้ยินตาพูดอย่างนั้น เธอก็พยักหน้ารับอย่างรีบเร่งก่อนจะกล่าวต่อว่า “คุณตาไม่ต้องห่วงนะคะ พรุ่งนี้เธอจะมาเรียน และคุณตาจะได้พบเธอแน่ ๆ”
“ถัง… ซวง… อืม… บังเอิญจริง ๆ ที่สกุลถังเหมือนกัน”
ถังอวี้สือพยักหน้า “ค่ะ มันบังเอิญจริง ๆ”
ตาและหลานเดินออกไปพร้อมกันขณะพูดคุยไปด้วย
“คุณตาคะ นาน ๆ ทีจะเข้ามาในเมือง มีคนทำความสะอาดที่นี่ตลอดเวลา เรามาพักกันที่บ้านเถอะค่ะ” บ้านที่ว่าคือบ้านของตระกูลถังในเมืองหลวง มันทั้งเรียบง่าย หรูหรา และถูกรักษาไว้อย่างดี
ถังคุนเฉินไม่คัดค้านก่อนจะเดินตรงเข้าในบ้านหลังใหญ่
“อืม พวกเธอก็รีบไปนอนได้แล้ว”
“ค่ะ”
หลังจากถังคุนเฉินกลับไปที่ห้องของตัวเอง ถังอวี้สือและเหวินเจ๋อหลิ่วเดินไปที่ลานใกล้ ๆ
“คุณหนูใหญ่ พรุ่งนี้ฉันจะล่อถังซวงออกมาให้นายท่านรองเจอค่ะ”
ถังอวี้สือพยักหน้ารับ “อื้ม คุณตาน่าจะยืนยันได้หลังจากได้เจอกันแล้ว แต่… ถ้าถังซวงเป็นเชื้อสายของคุณตาใหญ่จริง ๆ นั่นหมายความว่าลูกสาวของคุณตาใหญ่ยังมีชีวิตอยู่น่ะสิ” ในตอนท้าย แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเย็นชา เดิมทีตาทวดและย่าทวดให้ความสำคัญกับครอบครัวของเธอมาก แต่ถ้ารู้ว่าลูกสาวของคุณตาใหญ่ยังมีชีวิต พวกเขาจะไม่เปลี่ยนไปหรือ?
เหวินเจ๋อหลิ่วได้ยินถังอวี้สือพูดอย่างนั้น อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ นายท่านรองคงจะคิดไว้แล้วละค่ะ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก”
เมื่อนึกถึงคุณตาที่ยอมมาหาถึงที่นี่ ถังอวี้สือพยักหน้าและตอบรับว่า “อื้ม คุณตาคงจะมีแผนแล้วละ”
เมื่อเห็นสีหน้าของถังอวี้สือดูดีขึ้น เหวินเจ๋อหลิ่วหันมองก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณหนูใหญ่ รีบไปนอนเถอะค่ะ พรุ่งนี้เรามีเรื่องต้องจัดการอีกมาก”
“อื้ม เธอเองก็ไปนอนได้แล้ว”
ถังซวงไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอกำลังถูกจับตามอง เธอพาจูรุ่ยออกไปเดินเล่นรอบเมืองหลวงเมื่อมีเวลา และให้จูรุ่ยอยู่กับถังชุนหยานเมื่อเธอต้องไปเรียนในวันจันทร์
“จูรุ่ย วันนี้อยู่กับชุนหยานไปก่อนนะ เดี๋ยวถ้าพอมีเวลา ช่วงเย็นฉันจะพาออกไปเดินเล่น”
จูรุ่ยรีบโบกมือทันที “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ รีบไปเรียนเถอะเดี๋ยวจะสายนะ ชุนหยานเองก็อยู่ด้วย หลังเลิกเรียนพี่ก็คงเหนื่อย พักผ่อนจะดีกว่า” เธอหันมองถังเซวี่ยแล้วพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเซวี่ย เธอก็รีบไปโรงเรียนได้แล้ว”
โม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานเองก็ตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ต่อ หลังจากพวกเขารู้เรื่องของถังอวี้สือและเหวินเจ๋อหลิ่ว และจะไปรับไปส่งคนรักของตนหลังจากนี้
จูรุ่ยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นถังซวง ถังเซวี่ย และคนอื่น ๆ อยู่กันพร้อมหน้า เธออดไม่ได้ที่จะสงสัยแล้วโบกมือลา “รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวจะสายนะ”
“อื้ม งั้นพวกฉันไปโรงเรียนก่อนนะ”
ถังซวงมามหาวิทยาลัยพร้อมกับโม่เจ๋อหยวน และนอกจากนี้ยังมีคนคุ้มกันใหม่ที่ผู้เฒ่าจิงส่งมา ส่วนถังเซวี่ยเองก็มีคนคุ้มกันด้วยเช่นกัน อีกทั้งเฟิงเยี่ยหานยังให้เฟิงอู๋และคนอื่น ๆ ติดตามถังเซวี่ย คอยปกป้องเธออยู่ในความมืด
เมื่อถังซวงและโม่เจ๋อหยวนมาถึงมหาวิทยาลัย ทั้งสองกำลังจะแยกย้ายกันไปเรียน
“ซวงเอ๋อร์ ระวังตัวนะ ฉันกลัวว่าถังอวี้สือกับเหวินเจ๋อหลิ่วกำลังคิดจะลงมือทำอะไรบางอย่าง”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นความกังวลของโม่เจ๋อหยวน “อาหยวน ที่นี่มหาวิทยาลัยนะคะ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรหรอก”
ถึงอย่างนั้นโม่เจ๋อหยวนก็ยังเป็นกังวลมาก
“ซวงเอ๋อร์ ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องระวังตัวนะ”
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว รีบไปเรียนเถอะ”
โม่เจ๋อหยวนได้ยินอย่างนั้นจึงพยักหน้ารับแล้วพูดต่อ “อื้ม เธอก็รีบไปเรียนได้แล้ว”
หลังจากถังซวงมาถึงห้องเรียน เธอรู้สึกว่ามีคนคอยจับจ้องเธอตลอดเวลา เมื่อหันมองกลับไปจึงเห็นว่าเป็นถังอวี้สือและเหวินเจ๋อหลิ่ว อย่างไรก็ตามเมื่อถังซวงจ้องมองกลับ ทั้งสองกลับหลบสายตาทันที
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านนั่งอยู่แถวหลังโบกมือให้กับถังซวง
“ถังซวง ทางนี้ ทางนี้”
ถังซวงเดินไปหาต้วนเฟิงหยิ่งและเจียนหวานหว่านก่อนจะนั่งลง จากนั้นอาจารย์เดินเข้ามาและเริ่มชั้นเรียน
หลังจากการเรียนคาบเช้าจบลงแล้ว ถังอวี้สือที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันกลับมาหาถังซวงแล้วพูดกับเธอว่า “ถังซวง เธอมาจากเมืองหลวงหนิ คงจะคุ้นเคยกับสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองหลวงไม่น้อย อย่างนั้นฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”
ได้ยินอย่างนั้น แววตาของถังซวงวูบไหวก่อนจะตอบรับ “อืม”
“ดีเลย งั้นไว้คุยกันนะ”
เห็นว่าถังซวงยินดี ถังอวี้สือก็ตกใจ เพราะเธอเตรียมคำพูดโน้มน้าวไว้มากมาย แต่ถังซวงกลับตอบตกลงง่าย ๆ จนเธอค่อนข้างประหลาดใจ กลืนคำพูดทั้งหมดลงท้องไปทันที
ถังอวี้สือไม่เผยสีหน้าใด เพียงยกยิ้มอย่างอ่อนโยน “อื้ม”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านอยากพาถังซวงไปทานมื้อกลางวันด้วยกัน แต่ถังซวงกลับบอกให้ทั้งสองไปที่โรงอาหารก่อน “พวกเธอไปกันก่อนเลย เดี๋ยวฉันตามไป”
“เดี๋ยวฉันรอก็ได้นะ”
ถังซวงส่ายศีรษะ “ไม่เป็นไร ไปต่อแถวเถอะ”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านไม่ดื้อรั้น ไปโรงอาหารก่อน
ถังซวงเงยหน้าขึ้นมองถังอวี้สือและเหวินเจ๋อหลิ่วด้วยรอยยิ้ม “เมื่อกี้จะถามฉันว่าอะไรหรือ?”
“เพื่อนร่วมชั้นถังซวง เราไปคุยกันตรงนั้นเถอะ”
ถังซวงรู้ดีว่ามีเหตุผลบางอย่างที่ทั้งสองต้องการให้เธอเดินตามไป และเธอเองก็ต้องการดูแผนการของอีกฝ่ายจึงตัดสินใจเดินตามไปยังลานกว้างด้านหลังอาคารเรียน
“เอาละ เรามาคุยกันดีกว่า เธอต้องการอะไรจากฉัน?”
ถังอวี้สือมองถังซวงด้วยแววตาซับซ้อน “ความจริงแล้วไม่มีอะไร ฉันแค่อยากพาเธอมาที่นี่”
แต่เหวินเจ๋อหลิ่วทนไม่ไหว เธอจ้องมองถังซวงก่อนจะกล่าวทีละคำ “ถังซวง แค่ยืนนิ่ง ๆ”
ถังซวงคิดว่าถังอวี้สือกับเหวินเจ๋อหลิ่วกำลังจะลงมือทำอะไรบางอย่าง แต่กลับกัน ทั้งสองกลับไม่ทำอะไรเลย เอาแต่ยืนจ้องมองเธออยู่อย่างนั้น สถานการณ์นี้ทำให้เธอรู้สึกสับสนว่าพวกหล่อนต้องการอะไรกันแน่
“ในเมื่อไม่มีอะไร งั้นฉันกลับก่อน”
ขณะที่ถังซวงกำลังจะกลับออกไป เธอก็เห็นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบหรือห้าสิบยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณ…”
ทันทีที่เห็นหน้าชายวัยกลางคนคนนี้ สีหน้าของถังซวงแปรเปลี่ยน เธอสัมผัสไม่ได้ถึงการมาของเขาเลย เขามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?
ถังคุนเฉินจ้องมองถังซวงด้วยสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ แต่มันค่อย ๆ เผยบางอย่างออกมา
“ดู… ดูเหมือน เหมือนแม่ของฉันตอนเด็ก ๆ เลย…”
สีหน้าของถังคุนเฉินเปลี่ยนเป็นโกรธเคือง จ้องมองถังซวงด้วยแววตาเย็นชา “แม่ของเธอชื่ออะไร?”
…………………………………………………