การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 514 วางแผน
บทที่ 514 วางแผน
บทที่ 514 วางแผน
เมื่อเห็นถังคุนหาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า เฮ่อหลานกลับไม่รู้ว่าเธอจะพูดอะไรดี
ชายตรงหน้าทั้งสง่างามและหล่อเหลา ใบหน้าไม่มีร่องรอยความแก่ชราเลย เขาสวมเสื้อคลุมหลวม ๆ ยิ่งส่งให้เขาดูสง่างามมากขึ้น เพียงแค่มองก็รู้สึกเคลิบเคลิ้ม
เฮ่อหลานมองถังคุนหาว ถังคุนหาวก็มองเธอด้วยเช่นกัน
เพียงครู่เดียว ถังคุนหาวมั่นใจทันทีว่าผู้หญิงตรงหน้านี้คือลูกสาวของตน คิ้วและดวงตาของเธอเหมือนกับเขาทุกประการ มีความรู้สึกใกล้ชิดเกิดขึ้นในใจอย่างพูดไม่ถูก “เธอคือ… เธอคืออาหลาน?”
ในข้อความที่หัวเฟยเฟิ่งส่งมา หล่อนบอกเอาไว้ว่าลูกสาวของทั้งคู่ชื่อเฮ่อหลาน แต่หัวเฟยเฟิ่งเรียกเธอว่าอาหลาน เขาจึงเรียกขานตามนั้น
“ค่ะ ฉันชื่อเฮ่อหลาน”
เฮ่อหลานแนะนำตัวเองอย่างสุภาพ แต่ก็ยังมองถังคุนหาวโดยที่ยังไม่เรียกอีกฝ่ายว่าพ่อ
เมื่อเห็นว่าลูกสาวไม่ได้เรียกถังคุนหาวว่าพ่อ หัวเฟยเฟิ่งไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่แนะนำต่อว่า “นี่จิงเจ้อหรง สามีของอาหลาน ส่วนนี่ถังซวงและถังเซวี่ย พวกเธอคือลูกสาวของอาหลาน ส่วนที่อยู่ในเปลคือฟักทองน้อย และฟักขาวน้อย เป็นลูกฝาแฝดชายหญิงของอาหลาน”
หลังจากนั้นหัวเฟยเฟิ่งแนะนำโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหาน “นี่โม่เจ๋อหยวน คู่หมั้นของซวงเอ๋อร์ ส่วนนี่เฟิงเยี่ยหาน คนรักของเสี่ยวเซวี่ย”
ถังคุนหาวมองคนมากมายตรงหน้า ในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ทุกคนในครอบครัวของลูกสาวดูดีมากจริง ๆ แต่เมื่อนึกถึงตัวเองและหัวเฟยเฟิ่ง ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าทุกอย่างช่างเหมาะสม เพราะพวกเขาทั้งสองก็หน้าตาดีมาก
“สวัสดี ฉันถังคุนหาว เป็นพ่อของอาหลาน”
ถังคุนหาวเริ่มทักทายจิงเจ้อหรงก่อน
จิงเจ้อหรงมองพ่อตาของตัวเองที่ดูจะอ่อนเยาว์ใกล้เคียงกับเขา ก็ไม่ลังเลที่จะยิ้มทักทาย “สวัสดีครับคุณพ่อ”
ถังคุนหาวมีความสุขมากที่ได้ยินว่าจิงเจ้อหรงเรียกตนว่าคุณพ่อ แต่ลูกสาวของเขานี่สิที่ยังไม่เอ่ยปาก แต่ลูกเขยยอมเรียกแล้ว มันก็ถือว่าเป็นการยืนยันสถานะของเขา
จากนั้นเขาหันไปมองถังซวงและถังเซวี่ย
เมื่อเห็นหน้าของถังซวงชัด ๆ ถังคุนหาวอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง เพราะก่อนหน้านี้เขามัวแต่สนใจลูกสาวตัวเอง จึงไม่ได้มองหลานสาวให้ชัดเจน จนทำให้เขารู้สึกได้ว่ารูปลักษณ์ของหลานสาวคนโตมีความคล้ายกับแม่ของเขามาก
“ฉันเรียกเธอว่าซวงเอ๋อร์ได้ไหม? เธอดูเหมือนคุณย่าทวดมากตอนที่หล่อนยังสาว”
ถังซวงพยักหน้ารับก่อนจะพูดว่า “หนูทราบเรื่องนั้นแล้วค่ะ มีคนเคยพูดกับหนูอย่างนี้มาก่อน”
ถังคุนหาวไม่ได้แปลกใจอะไรนัก หัวเฟยเฟิ่งมาที่นี่ก่อนเขา น่าจะเป็นหล่อนที่บอกกล่าวกับถังซวง
แต่ถังซวงกลับกล่าวถึงถังคุนเฉิน “น้องชายของคุณตาพูดกับหนู ตอนที่เขามาหาหนูค่ะ”
“อะไรนะ… ถังคุนเฉินมาหาเธอหรือ?”
เห็นความตื่นตระหนกของถังคุนหาวแล้ว ถังซวงเล่าเรื่องราวด้วยรอยยิ้มและพูดต่อว่า “ค่ะ ถ้าคุณยายไม่เข้ามาช่วย เราคงไม่มีวันได้พบกันค่ะ”
“เป็นไปไม่ได้…”
ถังคุนหาวปฏิเสธออกมาโดยไม่รู้ตัว ในความรู้สึกของเขา น้องชายคนนี้เคารพเขาเสมอมา และยังกตัญญูต่อพ่อแม่มากด้วย ทั้งสุภาพและถ่อมตัว ใจดีกับทุกคน อีกฝ่ายจะถึงขั้นลงมือทำร้ายเด็กผู้หญิงได้ยังไง
เห็นถังคุนหาวดูจะไม่เชื่อ สีหน้าของถังซวงก็กลายเป็นเย็นชาอย่างไม่สบอารมณ์
ดูหัวเฟยเฟิ่งจะสัมผัสถึงอารมณ์ของถังซวงได้เช่นกัน เธอลูบมือของหลานสาวแผ่วเบาก่อนจะพูดว่า “ซวงเอ๋อร์ อย่าโกรธเลยนะ นั่งลงก่อนเถอะจ้ะ ตาแก่คนนี้ไม่ค่อยจะมีสมองเท่าไหร่ อย่าไปสนใจเขาเลย เดี๋ยวเราค่อยมาพูดคุยกันดี ๆ นะ”
“คุณยายไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ หนูไม่ได้โกรธ”
เธอไม่ได้โกรธจริง ๆ เพราะเธอไม่ได้คาดหวังอะไรกับถังคุนหาวตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นเธอเลยไม่รู้สึกผิดหวัง เพราะไม่ได้คาดหวังตั้งแต่แรก
แต่กลับกัน เฮ่อหลานที่ยืนอยู่ด้านข้างกลับโกรธจัด
“คุณ… คุณพูดอย่างนี้ได้ยังไง? คุณไม่เชื่อคำพูดหลานสาวตัวเองงั้นหรือคะ? ซวงเอ๋อร์ไม่เคยโกหก และคราวนี้สถานการณ์ก็เลวร้ายมาก คนที่ปกป้องซวงเอ๋อร์รวมถึงเจ๋อหยวนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าคุณแม่ไม่มาช่วย พวกเขาทั้งสองคนจะต้องตกอยู่ในอันตรายที่หนักหนากว่านี้แน่”
ถังคุนหาวเห็นความโกรธของเฮ่อหลานแล้วยิ่งลนลาน เขารีบกล่าวแย้งทันที “อาหลาน อย่าเพิ่งโกรธเลยนะ คือพ่อ… พ่อไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
ส่วนจิงเจ้อหรงที่ใจเย็นที่สุด พูดขึ้นว่า “เดี๋ยวพวกเราเข้าไปนั่งด้านในกันก่อนเถอะครับ”
หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว หัวเฟยเฟิ่งมองถังคุนหาวแล้วพูดเสียงเข้ม “ถังคุนหาว ฉันขอแนะนำว่าคุณอย่าพูดมากจะดีกว่า เดี๋ยวอาหลานกับถังซวงจะหงุดหงิดเพราะปากของคุณเอา หน้าที่ของคุณมีแค่ตั้งใจฟังเท่านั้น”
ถังคุนหาวนึกถึงความขุ่นเคืองของเฮ่อหลานก่อนหน้านี้ ก็ไม่กล้าคัดค้านก่อนจะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย “อื้ม ผมเข้าใจแล้ว”
หัวเฟยเฟิ่งมองถังซวงแล้วพูดต่อว่า “ซวงเอ๋อร์ บอกเรื่องทั้งหมดมาเถอะจ้ะ ให้ชายชราคนนี้ก็จะเห็นว่าใครกันแน่ที่ชั่ว”
ถังซวงเคยเล่าเรื่องทั้งหมดไปแล้ว แต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากบอกเล่ามันอีกครั้ง
“เธอบอกว่า… มีถังอวี้สือเป็นเพื่อนร่วมชั้นงั้นหรือ อีกทั้งพวกเขารู้ว่าเธอหน้าตาคล้ายกับคุณย่าทวด? พวกนั้นเลยสงสัยในต้นกำเนิดของเธอ แล้วคุณตาของถังอวี้สือก็บุกมาเพื่อทำร้ายเธอ?”
“ค่ะ”
ถังซวงพยักหน้ารับ
“เรื่องนี้… เป็นไปได้ยังไง?”
หัวเฟยเฟิ่งถึงกับเอ่ยปากเย้ยหยัน “แล้วทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ถังคุนเฉินไม่เคยออกมาที่โลกภายนอก แต่ทำไมคราวนี้เขาถึงมาที่เมืองหลวงได้? เมื่อเห็นว่าซวงเอ๋อร์หน้าตาคล้ายกับคุณแม่ในตอนสาว ๆ เขาก็คิดลงมือจัดการกับซวงเอ๋อร์ทันที สมองของคุณสามารถคิดได้ไหมว่าทั้งหมดนี้หมายความว่ายังไง?”
“ผม…”
ถังคุนหาวเงียบไปครู่หนึ่ง เต็มไปด้วยคำถามมากมายในหัว เป็นไปได้หรือเปล่าว่าถังคุนเฉินที่เขารู้จักไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของหมอนั่น?
เมื่อเห็นว่าถังคุนหาวพูดอะไรไม่ออก หัวเฟยเฟิ่งมองเขาอย่างรังเกียจ ก่อนจะพูดว่า “พอได้แล้ว ฉันแค่จะบอกให้คุณทราบ และควรรู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ ที่ฉันเรียกคุณมาครั้งนี้เพราะฉันจะพาอาหลานกลับไปที่ตระกูลถัง”
ถังคุนหาวมีความสุขมากเมื่อได้ยินว่าเฮ่อหลานจะกลับไปที่ตระกูลถัง
“อาหลาน พูดจริงหรือ? ลูกจะกลับบ้านกับพวกเราหรือ? อย่างนั้นเราควรจะรีบไปกันเลย”
เมื่อเห็นถังคุนหาวพร้อมจะกลับแล้ว หัวเฟยเฟิ่งก็กล่าวขัดเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณคิดว่าจะไปก็ไปได้เลยงั้นหรือ? จะไม่เตรียมตัวหน่อยหรือไง? ไม่กลัวว่าอาหลานกับคนอื่น ๆ จะไม่ได้กลับออกมาจากตระกูลถังหรือไง?”
“เรื่องแบบนั้น… ไม่น่าเกิดขึ้นได้”
“แล้วจะให้ฉันมั่นใจได้ยังไง? คุณสามารถรับประกันความปลอดภัยของอาหลานและคนอื่น ๆ ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม?”
ถังคุนหาวเห็นว่าหัวเฟยเฟิ่งทำตัวไม่เกรงใจเขาเลย และยังไม่ไว้หน้าอีกด้วย ใบหน้าของเขาก็บึ้งตึงแต่ก็พยายามอดทน เพราะเขาก็ห่วงใยและรักลูกสาวมาก จะไม่พูดอะไรวู่วาม ทำได้เพียงพยักหน้ารับความเห็นของภรรยา “เอาละ งั้นเรามาวางแผนกันก่อน”
…………………………………………………