การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 53 ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
บทที่ 53 ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
บทที่ 53 ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
เมื่อได้ยินคำพูดของซุนหง ถังซวงก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น และในที่สุดเธอก็บอกสิ่งที่ตนคาดเดา “ฉันสงสัยว่าเอ้อไหลจื่อในหมู่บ้านหลู่ฮวาจะติดต่อกับพวกค้ามนุษย์ค่ะ เพราะงั้นลุงซุนต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบสักหน่อยนะคะ”
ซุนหงไม่คาดคิดว่าถังซวงและคนอื่น ๆ จะถูกจับมาที่นี่
“ตอนนี้คนพวกนั้นอยู่ที่ไหน?”
ถังซวงรู้ว่าเธอไม่สามารถซ่อนมันได้ เธอจึงชี้ไปที่ด้านหลังแล้วพูดว่า “ตรงนั้นค่ะ”
โม่เจ๋อหยวนฟังสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วใบหน้าของเขาก็ยับย่น
“พวกค้ามนุษย์พวกนี้สมควรตาย”
“ใช่ พวกบัดซบ คราวนี้เรากำลังไล่จับแก๊งอาชญากรรายใหญ่ นี่เป็นแค่หนึ่งในสายงานของมันเท่านั้น ยังมีสายย่อยอีกหลายคนในพื้นที่อื่นอีก โชคดีที่ส่วนหนึ่งถูกจับกุมแล้ว พวกที่เหลือจะต้องอยู่ที่นั่นแน่ เราต้องจับให้หมด”
ซุนหงเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบเหตุการณ์นี้ หลังจากที่เขาสั่งให้คนของตัวเองคุ้มกัน เขาก็ตามถังซวงและคนอื่น ๆ ไปที่ด้านหน้า ระหว่างทาง เขาก็ได้พบกับจางฉินและคนอื่น ๆ ที่เหนื่อยล้า
“ทำไมเธอถึงกลับมาล่ะ?”
ถังซวงชี้ไปที่ซุนหงแล้วพูดว่า “มีคนมาช่วยเรา แล้วพวกค้ามนุษย์ทั้งหมดก็ถูกจับแล้ว เราเลยมานำทางน่ะ”
เมื่อได้ยินว่ามีคนมาช่วย หวังดันดันก็รู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด
“แล้ว… เราจะได้กลับบ้านกันใช่ไหมคะ?”
ซุนหงพยักหน้าและกล่าวว่า “แน่นอน พวกเธอกลับบ้านได้ ฉันจะส่งเธอกลับหลังจากที่ฉันจับคนร้ายทั้งหมดก่อนนะ”
“ตกลงค่ะ ๆ”
ใบหน้าของหวังดันดันเต็มไปด้วยความสุข อีกสองคนก็เช่นกัน
หลังจากนั้นหวังดันดันและคนอื่น ๆ ก็ตามมาข้างหลัง
เมื่อซุนหงมาถึงที่เกิดเหตุและเห็นความยุ่งเหยิง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
“นี่… เธอวางระเบิดใส่คนพวกนี้หรือ?” เมื่อครู่นี้ถังซวงเพิ่งเล่าอย่างใจเย็นว่าเธอจัดการพวกค้ามนุษย์ แต่เธอไม่ได้พูดถึงรายละเอียดเลย ปรากฎว่าเธอทั้ง
แทงและวางระเบิดเขา
ถังซวงพยักหน้าอย่างใจเย็นแล้วพูดว่า “ใช่ค่ะ”
“เธอเอาระเบิดมาจากไหน?”
วัตถุระเบิดเป็นสินค้าต้องห้าม และคนธรรมดาไม่สามารถแตะต้องได้เลย
“หลังจากเสี่ยวเซวี่ยหายตัวไป ฉันตามหาเธอทุกที่ และในขณะเดียวกันฉันก็เริ่มสงสัยว่าเธอถูกคนร้ายพาตัวไปหรือเปล่า ฉันเลยเตรียมของหลายอย่าง ทั้งซื้อขนมปังและน้ำ แม้กระทั่งเตรียมมีดปอกผลไม้และประทัดเผื่อไว้เลย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซุนหงรู้สึกประหลาดใจมาก แต่เขาได้ตรวจดูอาการของต้วนหยงแล้ว และเขาได้รับบาดเจ็บจากดินระเบิดที่ทำขึ้นเองจากประทัด “เธอซื้อประทัดเหล่านี้มาจากไหน?”
“เห็นมีคนแอบขายก็เลยซื้อไว้ค่ะ ไม่ได้ซื้อผ่านช่องทางการ แล้วอาจหาไม่ได้อีกแล้วด้วย”
นี่คือเหตุผลที่ถังซวงคิดไว้นานแล้ว พอซุนหงถามมา เธอก็แค่พูดตรง ๆ
ซุนหงได้ยินคำพูดนั้นก็ไม่ได้ถามคำถามใด ๆ เพิ่มเติม ถังซวงอาจซื้อมาจากพวกเก็งกำไร ต้องใช้เวลามากในการค้นหาบุคคลนี้ การจัดการกับเรื่องเฉพาะหน้าตอนนี้สำคัญกว่า
เขาเอาตัวเหล่าเอ้อร์และเหล่าซานที่สลบออกมาก่อน และในที่สุดเขาก็รีบส่งต้วนหยงและเหล่าซื่อไปโรงพยาบาล
“ถังซวง เมื่อถึงเวลา เธออาจต้องไปสำนักงานด้วยกันและทำบันทึกหน่อยนะ”
ถังซวงพยักหน้าอย่างให้ความร่วมมือและพูดว่า “ตกลงค่ะ”
เมื่อเห็นว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เคยขี้อายกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่กล้าหาญ มีไหวพริบ และดุร้าย ดวงตาของซุนหงเต็มไปด้วยความโล่งใจ “ถังซวง เธอดีขึ้นเรื่อย ๆ เลย และนี่คือสิ่งที่เด็กสาวควรทำแล้ว”
“ขอบคุณค่ะลุงซุน”
ถังเซวี่ยมองไปที่ซุนหงอย่างสงสัย อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณคือลุงซุนสินะคะ พี่สาวของหนูพูดถึงคุณให้เราฟังด้วย” เดิมทีเธออยากจะขอบคุณเขาที่สอนพี่สาวของเธอมากมาย แต่ก่อนที่เธอจะพูดต่อ ถังเซวี่ยรู้สึกว่าถังซวงดึงเธอเบา ๆ จึงหยุดพูด
เมื่อซุนหงเห็นว่าถังเซวี่ยเป็นเพียงสาวน้อยน่ารัก สีหน้าก็อ่อนโยนขึ้นแล้วพูดว่า “สวัสดีเสี่ยวเซวี่ย ฉันได้ยินพี่สาวของเธอพูดถึงเธอด้วยนะ ครั้งนี้เธอและพี่สาวของเธอทำได้ดีมาก พวกเธอกลับบ้านได้แล้วล่ะ”
“ดีเลยค่ะ”
วันนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น ถังเซวี่ยต้องการที่จะกลับไปโดยเร็วเช่นกัน เธอคิดถึงแม่ของเธอมาก
ซุนหงจัดแจงทุกอย่างและเตรียมพาถังซวงและคนอื่น ๆ กลับ จากนั้นก็มองโม่เจ๋อหยวนด้วยความประหลาดใจก่อนจะถามว่า “นายมาที่นี่ได้ยังไง?”
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าโม่เจ๋อหยวนมาที่นี่เพื่อตามหาถังซวงและคนอื่น ๆ น่าทึ่งจริง ๆ ที่เขาสามารถหาสถานที่นี้ได้ด้วยตัวเอง
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น โม่เจ๋อหยวนก็พูดตรง ๆ ว่า “ผมเจอรถผ่านมาเลยขอติดมาด้วยน่ะ ก็ไม่คิดว่าซวงเอ๋อร์กับคนอื่น ๆ จะอยู่ที่นี่ โชคดีจังเลย” ในตอนท้าย เขาเสริมว่า “ให้ผมส่งพวกซวงเอ๋อร์ไหมครับ? คุณต้องส่งเด็กสาวอีกสามคนกลับบ้านด้วย แล้วเท่าที่ผมรู้ พวกเธอสามคนก็ไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ด้วย”
“ใช่ เราไม่ได้มาจากเมืองเวิงชาน เรามาจากเมืองหมิงโจว เพราะงั้น…คุณจะส่งเรากลับบ้านจริง ๆ หรือ?” ในตอนท้าย พวกเธอทั้งสามรู้สึกประหม่าเล็กน้อย กลัวว่าซุนหงจะไม่ส่งพวกเธอกลับบ้านอย่างที่บอก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซุนหงก็พูดทันทีว่า “อย่ากังวลเลย ฉันจะส่งพวกเธอกลับบ้านแน่นอน”
ขณะที่พูด ซุนหงมองไปที่โม่เจ๋อหยวนแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นนายพาพวกถังซวงกลับไปก่อนได้เลย แล้วเราจะไปเจอกันที่เมืองเวิงซาน”
“ตกลงครับลุงซุน ผมจะส่งพวกเธออย่างปลอดภัย แล้วเจอกันครับ”
หลังจากนั้นโม่เจ๋อหยวนก็พาถังซวง ถังเซวี่ย และถังชุนหยานเข้าไปในรถ
หลังจากเข้าไปในรถแล้ว ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่โม่มีทักษะการแกะรอยดีเลยนะถึงสามารถหาที่นี้ได้ แต่แม่ของฉันรู้เรื่องนี้รึเปล่า? คงจะดีถ้าได้บอกแม่ว่าเราปลอดภัยแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น โม่เจ๋อหยวนก็พูดตรง ๆ ว่า “ฉันก็โชคดีเหมือนกันที่เจอที่นี่ทันเวลา ส่วนป้าหลาน เธอรู้เรื่องการหายตัวไปของพวกเธอแล้ว กำลังตามหาอยู่เลย ตอนฉันมา ลุงของฉันและคนของคุณจิงก็กำลังตามหาเธออยู่เหมือนกัน ถ้าเธอต้องการโทรหา เราสามารถไปที่เมืองข้างหน้าเพื่อโทรได้นะ”
“คุณจิง?”
ถังซวงรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“คุณจิงรู้เรื่องการหายตัวไปของเราได้ยังไง?”
โม่เจ๋อหยวนเล่าเรื่องเฮ่อหลานถูกรถชน
ถังซวงและถังเซวี่ยลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันที “ตอนนี้แม่เราเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรร้ายแรงหรือเปล่า?”
“อย่ากังวลไป ป้าหลานแค่ฟกช้ำเล็กน้อย ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก”
เมื่อสองพี่น้องได้ยินดังนั้นก็โล่งใจ
ถังชุนหยานอดไม่ได้ที่จะถามว่า “พ่อแม่ของฉันรู้ไหมว่าฉันหายไป?”
โม่เจ๋อหยวนส่ายหัวพลางพูดว่า “ฉันไม่รู้เรื่องนั้นเลย พอฉันได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับซวงเอ๋อร์และเสี่ยวเซวี่ย ฉันก็รีบมาทันที”
ได้ยินแบบนี้แล้ว ถังชุนหยานก็ไม่ถามอะไรอีก
เมื่อพวกเขามาถึงเมืองที่ใกล้ที่สุด โม่เจ๋อหยวนก็โทรหาหลินหมิงซู่
หลินหมิงซู่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเขารู้ว่า ถังซวงและถังเซวี่ยสบายดี “เยี่ยมมาก ลุงจะบอกพี่หลานเดี๋ยวนี้เลย”
“คุณลุงครับ ถ้าอย่างนั้นผมรบกวนด้วยนะครับ”
ถังซวงพูดอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้ม จากนั้นวางสายโทรศัพท์หลังจากคุยกับหลินหมิงซู่
พวกเขาออกเดินทางอีกครั้งหลังจากโทรสายเรียบร้อย
ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อหลินหมิงซู่พบเฮ่อหลาน และกำลังจะพูดคุยเกี่ยวกับถังซวงและถังเซวี่ย จิงเจ้อหรงก็เดินเข้ามาและพูดก่อนว่า “คุณเฮ่อครับ ลูกสาวสองคนของคุณสบายดี พวกเธอกำลังมาที่นี่แล้ว อีกไม่นานก็จะถึงแล้วครับ”