การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 538 วันหยุด
บทที่ 538 วันหยุด
ทุกคนประหลาดใจมากหลังได้ยินคำอธิบายของถังอวี้สือ
“พวกเธอเป็นญาติกัน และเพิ่งได้รู้เมื่อไม่นานนี้หรือ สุดยอดเลย”
“ใช่ ใช่ ถ้ามองดี ๆ ถังซวงกับถังอวี้สือก็ดูคล้ายกันอยู่นิดหน่อยนะ”
“อื้ม… คล้ายจริง ๆ ด้วย แต่สวยทั้งคู่เลย”
ได้ยินคำพูดจากคนรอบข้าง ถังซวงก็เหลือบมองถังอวี้สือก่อนจะยกยิ้มบาง “ฉันว่าเป็นเหมือนเดิมดีกว่านะเพื่อนร่วมชั้นถังอวี้สือ แม้เราจะเป็นญาติกัน แต่เราไม่ได้สนิทสนมกันแบบนั้นเลยนี่”
“เธอ…”
เหวินเจ๋อหลิ่วเอ่ยปากขึ้นทั้งที่เงียบมาตั้งแต่แรก จริง ๆ แล้วเธอไม่อยากให้ถังอวี้สือพูดกับถังซวงด้วยซ้ำ มันดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังตีสนิท แต่ถึงจะทำขนาดนี้ ถังซวงกลับไม่ไยดี แต่ยังบอกออกมาตามตรงว่าไม่ได้สนิทกัน แล้วแบบนี้เธอยอมรับมันได้ยังไง?
ก่อนเหวินเจ๋อหลิ่วจะได้ทำอะไร ถังอวี้สือก็คว้าเธอไว้ ก่อนจะหันมองถังซวงแล้วพูดต่อว่า “ลูกพี่ลูกน้อง ฉันไม่คิดอย่างรอบคอบเอง เธอเพิ่งกลับตระกูลของพวกเราแท้ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็คิดว่าเราเป็นญาติกัน แม้ก่อนหน้านี้เราจะเป็นคนแปลกหน้า แต่อีกไม่นานก็คงสนิทสนมกันนะจ๊ะ”
ถังซวงมองรอยยิ้มของถังอวี้สือและรับฟังคำพูดสวยหรู อดไม่ได้ที่จะกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย
ถังอวี้สือคนนี้เสแสร้งเก่งเป็นที่สุด การพูดแบบนี้ทำให้ตัวเธอกลายเป็นคนไร้เหตุผล ขณะที่ถังอวี้สือดูใจกว้างและมีน้ำใจ และกำลังอดทนต่อถังซวงที่ไร้เหตุผลอย่างหนัก
“ถังอวี้สือ เธอคงยังไม่ลืมสิ่งที่ตาของเธอทำเอาไว้หรอกใช่ไหม? ครอบครัวของเราสองคนจะไม่มีวันสนิทสนมกัน และ… ฉันไม่สนว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่อยู่ให้ห่างจากฉัน”
“เธอ…”
ถังอวี้สือไม่คิดมาก่อนว่าถังซวงจะรับมือได้ยากขนาดนี้ ถึงขนาดที่กล้าพูดเรื่องส่วนตัวต่อหน้าสาธารณชน เหวินเจ๋อหลิ่วที่อยู่ด้านข้างยิ่งไม่พอใจ เธอไม่ชอบถังซวงตั้งแต่แรก และยิ่งเมื่อเห็นถังซวงฉีกหน้าถังอวี้สืออย่างไม่แยแส ก็คิดจะสั่งสอนบทเรียนให้กับถังซวงบ้าง
ทว่าถังอวี้สือที่หยุดเธอเอาไว้ก่อน
“เจ๋อหลิ่ว หยุดเดี๋ยวนี้ จะลงมือให้ได้อะไรขึ้นมา? ลืมไปแล้วหรือว่าเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังซวง?”
ถังอวี้สือกล่าวเตือนแผ่วเบา ทำให้เหวินเจ๋อหลิ่วสงบลงทันที… ใช่แล้ว เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังซวง ดังนั้นไม่ว่าจะโกรธแค่ไหนก็ต้องกล้ำกลืนมันเอาไว้ เรื่องนี้ทำให้เหวินเจ๋อหลิ่วรู้สึกเสียใจมาก
ส่วนนักศึกษาที่อยู่โดยรอบคิดว่าถังซวงใจแคบเกินไป แต่เมื่อได้ยินคำพูดนั้น พวกเขาจึงเข้าใจว่าคงมีบางอย่างเกิดขึ้นในตระกูลของพวกเธอ แต่เมื่อถังซวงไม่ได้พูด พวกเขาก็จะไม่ถาม แล้วก็จะไม่คาดเดาหรือต่อว่าถังซวงด้วย
ถังซวงเดินตรงเข้าหาต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านก่อนจะนั่งลง จากนั้นหยิบหนังสือออกมาอ่าน
ถังอวี้สือมองถังซวงก่อนจะนั่งลงข้างเหวินเจ๋อหลิ่ว
อาจารย์เดินเข้ามาภายในห้อง นักศึกษาทุกคนในชั้นเรียนเงียบลง และเริ่มเรียนอย่างตั้งใจ
หลังจากชั้นเรียนจบลง ต้วนเฟิ่งหยิงหันมองถังซวงด้วยสีหน้าหยอกเย้า “ถังซวง เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องกับถังอวี้สือจริง ๆ หรือ? เหลือเชื่อจริง ๆ พวกเธอไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่กลับเป็นญาติกันเนี่ย” แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ถังซวงพูดก่อนหน้านี้ ต้วนเฟิ่งหยิงก็กลัวว่าตนจะกล่าวอะไรผิดไป
แม้ว่าเจียนหวานหว่านจะอยากรู้ แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม พวกเธอรู้ดีว่าถังซวงไม่ชอบถังอวี้สือ และพวกเธอเองก็ไม่ชอบถังอวี้สือและเหวินเจ๋อหลิ่วเช่นกัน
ถังซวงเห็นว่าทั้งสองคนไม่ได้ถามอะไรต่อ เธอยกยิ้มอย่างผ่อนคลาย
วันนี้มีคาบเรียนตลอดทั้งวัน ถังซวงจดบันทึกมากมาย หลังจากหมดคาบเรียนแล้วก็เก็บข้าวของเตรียมที่จะกลับบ้าน
ตอนนี้ผู้อาวุโสตระกูลเฮ่อทั้งสองยังคงอยู่บ้านตระกูลจิง พวกเขาจะย้ายเข้าบ้านหลังใหม่หลังจากปรับปรุงและทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ทำให้ตอนนี้มีคนมากมายอยู่ในบ้านจนดูมีชีวิตชีวามาก วันนี้เธอให้สัญญากับหญิงชราไว้ว่าจะเอาของบางอย่างมาให้ด้วย
“ถังซวง เจอกันพรุ่งนี้นะ”
ต้วนเฟิ่งหยิงและเจียนหวานหว่านรู้ว่าถังซวงกำลังจะกลับ จึงโบกมือให้กับเธอ “พวกเราว่าจะไปโรงอาหาร เธอกลับไปก่อนก็ได้”
“อื้ม”
หลังโบกมือลากัน ถังซวงก็เก็บกระเป๋าก่อนจะเดินออกไป และเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนยืนรออยู่
ถังซวงก็รีบเดินเข้าหา
“อาหยวน พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
โม่เจ๋อหยวนยิ้ม “เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี่เอง เธอบอกว่าตอนเที่ยงจะช่วยคุณป้าซื้อของไม่ใช่หรือ? เราไปกันเถอะ”
“ค่า”
ถังซวงพยักหน้ารับ
โม่เจ๋อหยวนหยิบกระเป๋าจากมือของถังซวงแล้วสะพายไว้บนหลัง ทั้งสองเดินไปบนถนนเพื่อซื้อของด้วยกัน จากนั้นกลับไปที่บ้านตระกูลจิง
“ซวงเอ๋อร์ เดี๋ยวหลังมื้อเย็นฉันต้องกลับบ้านก่อน”
วันนี้เฟิงเยี่ยหานกลับไปแล้ว จะให้เขาอยู่ที่ตระกูลจิงต่อคงไม่เหมาะเท่าไหร่
ถังซวงเองก็คิดไว้แล้วเหมือนกัน หลังจากเฟิงเยี่ยหานจากไปแล้ว โม่เจ๋อหยวนคงจะกลับบ้าน เธอจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ค่ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ ยังไงซะเราก็ได้เจอกันที่มหาวิทยาลัยทุกวันอยู่แล้ว”
“อื้ม”
โม่เจ๋อหยวนเห็นว่าถังซวงไม่ได้เศร้าที่ต้องแยกจาก ก็ยกยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาคิดไปว่าถังซวงจะไม่อยากให้เขากลับบ้านซะอีก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากไปสักหน่อย เป็นเขามากกว่าที่ไม่อยากจะกลับ
ถังซวงไม่รู้เลยว่าโม่เจ๋อหยวนคิดอะไร เธอส่งของให้กับหญิงชราก่อนจะพูดต่อว่า “คุณป้าคะ ลองดูสิคะว่าใช่ขนมนี้ไหม”
ก่อนหญิงชราจะพูดตอบ ผู้เฒ่าเฮ่อเดินเข้ามาก่อนจะอุทานออกด้วยความประหลาดใจ “ใช่จริง ๆ ด้วย ฉันจำได้ว่าเคยกินมันตอนเด็ก ๆ”
ถังซวงยิ้มก่อนจะพูดว่า “ดีเลยค่ะ พวกตายายทั้งสองคนรีบชิมมันนะคะ จะได้ยืนยันว่านี่เป็นรสชาติในวัยเด็กจริงหรือเปล่า”
ผู้อาวุโสทั้งสองคนชิมขนมคนละชิ้นก่อนจะถอนหายใจ “ถึงหน้าตาจะเหมือนกันมาก แต่รสชาติก็เปลี่ยนไป ไม่อร่อยเหมือนเดิม”
จากนั้นผู้เฒ่าเฮ่อก็พูดว่า “ใช่ นี่คงจะไม่ใช่เจ้าเดิมแล้วละ รสชาติเลยเปลี่ยนไปหมดเลย” แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีความสุขมากหลังได้กินขนมที่ชื่นชอบ ทั้งสองนั่งคุยกับถังซวงสักพักหนึ่ง
วันต่อมา ถังซวง ถังเซวี่ย และโม่เจ๋อหยวนไปเรียนพร้อมกัน และวันหยุดก็ใกล้เข้ามาเต็มที ถังซวงรอคอยวันนั้นอย่างใจจดใจจ่อ
อย่างไรก็ตาม ในวันแรกของวันหยุด เธอเห็นแขกไม่ได้รับเชิญมาที่บ้าน ทำให้อารมณ์สดชื่นของเธอหายไปหมดสิ้น
“พวกเธอมาทำอะไรที่นี่?”
เมื่อมองถังอวี้สือและเหวินเจ๋อหลิ่วตรงหน้า ถังซวงก็เผยสีหน้าเย็นชาและไม่คิดเปิดประตูให้ทั้งสองคนเข้าไปด้านใน