การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 543 งานเลี้ยงวันเกิด
บทที่ 543 งานเลี้ยงวันเกิด
เมื่อได้ยินถ้อยคำของหลานอี้ไป๋ หัวเฟยเฟิ่งระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก่อนจะพูดว่า “เมื่อก่อนก็เมื่อก่อน ตอนนี้ก็คือตอนนี้ ก่อนหน้านี้เราไม่มีอาหลาน และเมื่อเราได้พบอาหลานแล้ว ครอบครัวใหญ่จึงจะกลับมาทำหน้าที่เป็นธรรมดา และนี่คือหน้าที่ของครอบครัวลูกชายคนโต”
ใบหน้าของหลานอี้ไป๋ยิ่งบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด
เธอไม่คิดสนใจคำพูดของหัวเฟยเฟิ่ง และเดินไปด้านหน้าก่อนจะส่งเสียงฟึดฟัดด้วยความไม่พอใจ
“ฮึ่ม… ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่จะขายหน้า ยังไงพวกเราก็รับหน้าที่เหล่านี้มานานแล้ว”
หัวเฟยเฟิ่งมองแผ่นหลังของหลานอี้ไป๋ด้วยความเย็นชาก่อนจะเอ่ยปาก “ฉัน แนะนำว่าอย่าสร้างความวุ่นวายจะดีกว่า เธอคงไม่รู้ว่าในปีนี้ผู้เฒ่าถังมอบหน้าที่รับแขกให้กับเรา”
“เป็นไปไม่ได้… คุณพ่อบอกแบบนั้นเมื่อไหร่กัน?”
“เมื่อเช้านี้”
หัวเฟยเฟิ่งเตรียมการมาอย่างดี และคราวนี้เธอจัดเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว
ในคราวแรกผู้เฒ่าถังไม่เห็นด้วย แต่เพราะเธอมีแรงสนับสนุนจากตระกูลหัว คราวนี้พ่อผู้ให้กำเนิดของเธอจะมาพบถังหลานด้วยตัวเอง และจะมาร่วมอวยพรวันเกิดให้กับผู้เฒ่าถังด้วย
หัวเฟยเฟิ่งมองหลานอี้ไป๋ด้วยรอยยิ้มก่อนจะตอบกลับว่า “เดี๋ยวพ่อฉันคงส่งคนมาแจ้งเธอเอง”
ทันทีที่พูดอย่างนั้น พ่อบ้านถังวิ่งเข้ามา
“นายหญิงรองครับ ผู้เฒ่าถังมีเรื่องจะคุยกับคุณ โปรดตามผมมาเถอะครับ”
“แต่ว่า… ฉันกำลังจะไปที่ประตูต้อนรับแขก”
พ่อบ้านถังยกยิ้มตอบกลับ “นายหญิงรองไม่ต้องกังวล เดี๋ยวนายหญิงใหญ่และคนอื่น ๆ จะทำหน้าที่ต้อนรับแขกเอง ดังนั้นโปรดติดตามผมมาเถอะครับ”
ใบหน้าของหลานอี้ไป๋แข็งทื่อ ก่อนจะหันขวับกลับมาหาหัวเฟยเฟิ่งอย่างอดกลั้น สุดท้ายทำได้เพียงติดตามพ่อบ้านถังไป
ส่วนถังหวยรุ่ยไม่พอใจอย่างมาก
“แม่คะ เรา…”
“หุบปากแล้วรีบเดินตามมาเร็วเข้า”
หลานอี้ไป๋จ้องมองลูกสาวแสนโง่เขลาของตัวเองพร้อมตำหนิให้อีกฝ่ายสงบปากสงบคำ
ถังอวี้สือเองก็ผลักให้แม่ของเธอตามหลานอี้ไป๋พร้อมกับพ่อบ้านถังไป
หลังจากครอบครัวรองออกไปแล้ว หัวเฟยเฟิ่งหันมองถังหลานด้วยรอยยิ้มก่อนจะพูดว่า “อาหลาน เราก็ไปกันเถอะจ้ะ”
ถังหลานพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
เวลานี้ถังเซวี่ยคว้าแขนของหัวเฟยเฟิ่งเอาไว้ก่อนจะพูดว่า “คุณยายเก่งที่สุดเลยค่ะ”
หัวเฟยเฟิ่งลูบศีรษะของถังเซวี่ยอย่างอ่อนโยน “จ้ะ ยายจะต้องแข็งแกร่งที่สุดสิ เพื่อที่จะปกป้องพวกหลาน ยายจะไม่ปล่อยให้มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเธออีกแล้ว”
ถังเซวี่ยรู้ดีว่ายายของเธอยังเจ็บปวดกับเรื่องที่สูญเสียถังหลานไปก่อนหน้านี้ “คุณยายไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้พวกเราทุกคนโตแล้ว แล้วเราก็จะดูแลตัวเองให้ดีค่ะ” แม้เธอจะไม่ได้เก่งกล้าอะไร แต่ก็รู้ว่าสถานการณ์ในตระกูลถังนี้เลวร้ายมาก ต้องระมัดระวังตัวให้มากที่สุด
“จ้ะ พวกหลานทุกคนเป็นเด็กดีของยายจริง ๆ”
หัวเฟยเฟิ่งสบายใจขึ้นมาก
เมื่อทุกคนมาถึงประตูภูเขา จึงเห็นว่าถังคุนหาวยืนรออยู่แล้ว
“อาหลาน อาเจ้อ พวกลูกสองคนมานี่สิ”
ถังคุนหาวโบกมือเรียกลูกสาวและลูกเขยพร้อมกัน แล้วพาทั้งคู่ไปต้อนรับแขก
โดยมีถังซวง ถังเซวี่ย โม่เจ๋อหยวน และเฟิงเยี่ยหานคอยยืนช่วยเหลืออยู่ด้านหลัง
“อ้าว… ทำไมถึงไม่ใช่อวี้สือกับคนอื่นล่ะ?”
ทันทีที่เว่ยชื่อเหอมาถึงและไม่เห็นถังอวี้สือ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยก่อนจะเอ่ยถามออกมา
เว่ยเหิงที่อยู่ข้าง ๆ หันมองเว่ยชื่อเหอก่อนจะหันมาพูดกับถังคุนหาวด้วยรอยยิ้ม “คุนหาว หลานคนนี้ถูกผมตามใจซะจนเสียนิสัย และเขาเองก็สนิทสนมกับอวี้สือมาก เมื่อไม่เจอกันก็เลยหลุดปากพูดออกมาอย่างนั้น อย่าได้ถือสาเขาเลยนะ”
ถังคุนหาวส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “ครับ ผมไม่ถือสาหรอก เชิญพี่เว่ยเข้าไปด้านในเถอะครับ”
เว่ยเหิงยกยิ้มก่อนพยักหน้ารับ ก่อนจะหันมองถังซวงแล้วพูดต่อว่า “สาวน้อยสรุปว่าเธอมาจากตระกูลถังจริง ๆ สินะ ไม่แปลกเลยว่าทำไมฉันถึงคุ้นหน้าเธอนัก และเธอก็คล้ายกับแม่เฒ่าถังตอนสาว ๆ มาก แต่ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไร แล้วกลับกลายเป็นว่าเธอคือหลานสาวของคุนหาวจริง ๆ”
ถังคุนหาวเองก็ได้ยินเรื่องนี้
น่าจะเป็นครั้งที่เว่ยชื่อเหอไปหาถังอวี้สือ บังเอิญได้พบเจอกับถังซวงและรู้สึกคุ้นเคย เขาพูดบางอย่างกับถังอวี้สือ และหลังจากนั้นถังคุนเฉินก็ไปที่เมืองหลวง แล้วอาจเป็นเพราะคำพูดของเว่ยเหิงก็ได้ที่ทำให้เฟยเฟิ่งได้พบเจอลูกสาวที่แท้จริง
แต่เว่ยเหิงและคนอื่น ๆ ก็มีสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวรองเสมอมา เมื่อวันนี้ถังคุนหาวได้เจอกับเขาอีกครั้ง เขาจึงไม่ได้กระตือรือร้นเช่นเดิมอีกต่อไป
นับตั้งแต่รู้ว่าน้องชายคิดจะกำจัดลูกสาวตนเอง ท่าทีของคุนหาวที่มีต่อครอบครัวรองก็เปลี่ยนไป เมื่อได้พบใครที่สนิทสนมกับครอบครัวรอง มันก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
ถังซวงเธอยกยิ้มก่อนจะตอบกลับ “ฉันต้องขอบคุณคุณเว่ยมากค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ แม่ของฉันคงไม่ได้พบเจอญาติพี่น้อง”
“ฮ่าฮ่า… ฉันไม่กล้าที่จะเข้ามายุ่งเรื่องนี้หรอก แค่คุนหาวตามหาลูกสาวของเขาจนพบ ก็ถือว่าเป็นโชคชะตากำหนดไว้แล้ว”
หลังพูดคุยต่อเล็ก ๆ น้อย ๆ เว่ยเหิงพาเว่ยชื่อเหอเข้าไปด้านใน
หลังจากนั้นถังคุนหาวพาถังหลานกับคนอื่น ๆ ต้อนรับแขกต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็แนะนำให้ถังหลานและครอบครัวรู้จักกับแขกที่มาร่วมงานคราวนี้ด้วย
อีกด้านหนึ่ง เว่ยชื่อเหอที่ได้พบกับถังอวี้สือก็พูดขึ้น “อวี้สือ ฉันนึกว่าเธอจะอยู่ที่หน้าประตูภูเขาเหมือนปีที่แล้วซะอีก ไม่ได้คิดว่าลุงใหญ่กับครอบครัวของเขาจะทำหน้าที่นี้แทน”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของถังอวี้สือนิ่งค้างไปทันที “วันนี้คุณทวดมอบหมายงานอื่นให้พวกเรา หน้าที่ต้อนรับแขกที่ประตูจึงไม่ใช่พวกเราแล้วน่ะค่ะ”
“เป็นพวกเธอก็ดีอยู่แล้วแท้ ๆ ทำไมถึงโดนย้ายไปทำอย่างอื่นล่ะ”
เว่ยชื่อเหอรู้สึกไม่พอใจแทนถังอวี้สือมาก “คงจะเป็นถังซวงที่รังแกเธออยู่ตลอดสินะ”
ถังอวี้สือรีบส่ายศีรษะทันที “ชื่อเหอ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ลูกพี่ลูกน้องถังซวงแค่แข็งแกร่งกว่า แต่เธอไม่ได้รังแกอะไรฉันหรอกนะ”
“อวี้สือ เธอน่ะไร้เดียงสาเกินไป หล่อนกล้ารังแกเธอ แต่ว่าเธอกลับไม่ปกป้องตัวเองด้วยซ้ำ”
คราวนี้ถังอวี้สือก้มศีรษะลงราวกับว่าเธอมีความคับข้องใจมากมายอยู่ภายใน
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ถังอวี้เทียนก็เดินเข้ามา ทันทีที่ได้พบเจอกับเว่ยชื่อเหอ แววตาของเธอเปล่งประกายสดใส “พี่ชื่อเหอ… พี่ก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน หล่อขึ้นเยอะเลยนะคะ”
เว่ยชื่อเหอที่ได้ยิน ถึงกับหน้าบึ้งตึง
ทุกครั้งที่เขาพบกับถังอวี้เทียน อีกฝ่ายมักจะแทะโลมเขาเสมอ และนี่ก็เป็นอีกครั้ง เขาจึงไม่อยากจะพูดคุยกับผู้หญิงคนนี้
ถังอวี้เทียนเห็นเว่ยชื่อเหอเงียบไปก็เหลือบมองเขากับถังอวี้สือ ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “งั้นพวกคุณคุยกันไปเถอะ ฉันจะไปทำอย่างอื่น”
พูดจบเธอเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ถังซวงได้พบเจอกับผู้คนมากมาย และพวกเขายังไม่ได้กลับไปที่ลานของตัวเอง ทุกคนต้องมารอต้อนรับแขกในอีกสองวันข้างหน้าด้วย เลยวุ่นวายอยู่ที่ประตูด้วยกัน
และแล้ววันสุดท้ายของการต้อนรับก็มาถึง งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของผู้เฒ่าถังจึงเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ