การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 545 สถานการณ์พลิกผัน
บทที่ 545 สถานการณ์พลิกผัน
ไม่ต้องกล่าวถึงคนรอบข้างภายในงาน แม้แต่ผู้เฒ่าตระกูลเองก็ยังหันมองถังอวี้สือด้วยความประหลาดใจ เขาเองก็อยากจะรับชมหญ้าวิหคเพลิงในมือของผู้เฒ่าถังด้วยเช่นกัน แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเท่าไหร่นัก จึงทำได้เพียงรอโอกาส
ถังซวงเหลือบมองถังอวี้สือ
เธอเคยอ่านเจอเกี่ยวกับหญ้าวิหคเพลิง มันอยู่ในหนังสือทักษะการแพทย์ที่ยืมมาจากผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ เธอได้ยินว่าหญ้าวิหคเพลิงสามารถยืดอายุขัยของผู้คนได้ และเธอไม่รู้เลยว่านั่นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่เมื่อเห็นว่าผู้เฒ่าถังยินดีมากขนาดนั้น มันคงจะเป็นความจริง ยิ่งกว่านั้นหนังสือที่ผู้เฒ่าตระกูลให้ยืมมาก็คงไม่ใช่ของปลอม
เวลานี้ ทุกคนต่างพูดถึงหญ้าวิหคเพลิงและยกย่องถังอวี้สือด้วยความอื้ออึง
เมื่อได้รับฟังคำชมรอบตัว ถังอวี้สือก็ยกยิ้ม
เธอเคยรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนหนุ่มสาวของตระกูลถัง จนกระทั่งได้พบกับถังซวง เธอจึงทราบว่ามีคนที่เทียบเท่ากับเธออยู่ และตัวเธอเองก็ยังไม่มีความโดดเด่นอะไรมากนัก หลังจากนั้น ถังซวงกลับกลายเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอจริง ๆ เธอจึงยิ่งรู้สึกว่าต้องพัฒนาตัวเองอย่างเร่งด่วน และในที่สุดคราวนี้เธอก็สามารถเอาชนะถังซวงได้
ถังอวี้สือลอบแอบมองถังซวง ก่อนจะรีบละสายตาไปทางอื่น
แต่อย่างไรก็ตาม ประสาทสัมผัสของถังซวงนั้นเฉียบคม เธอมองเห็นสายตาของถังอวี้สือ แต่ก็ไม่ได้คิดสนใจอะไร และยังนั่งสงบเสงี่ยมเหมือนเดิม
หลังจากถังอวี้สือ ยังมีสมาชิกตระกูลถังที่อายุน้อยกว่าเข้ามามอบของขวัญให้กับผู้เฒ่าถังอย่างต่อเนื่อง
ของขวัญของคนอื่น ๆ ไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่ทว่าของขวัญของถังอวี้เทียนกลับดึงดูดความสนใจของถังซวงได้
มันคือแผ่นหยกจารึกที่เธอรู้สึกคุ้นเคยไม่น้อย ถังซวงอยากจะมองมันใกล้ ๆ แต่เวลานี้ถังอวี้เทียนยื่นแผ่นหยกจารึกนั้นให้ผู้เฒ่าถังไปเสียแล้ว “ผู้เฒ่าถัง นี่คือแผ่นหยกมีค่า ทันทีที่ฉันเห็นมัน ฉันคิดว่ามันเหมาะสมกับคุณมาก หวังว่าท่านผู้เฒ่าจะชอบค่ะ”
ผู้เฒ่าถังมองแผ่นหยกจารึกคุณภาพดีและเรียบง่ายตรงหน้า ก็พยักหน้ารับ “ฉันชอบมาก”
แม้ถังอวี้เทียนจะไร้มารยาทในเรื่องทางเพศ แต่ความจริงแล้วเธอฉลาดมาก เมื่อเห็นท่าทีตอบรับอย่างลวก ๆ ของผู้เฒ่าถัง จึงอดไม่ได้ที่จะหน้ามุ่ย แต่เมื่อนึกได้ว่านี่คืองานเลี้ยงฉลองวันเกิดของผู้เฒ่าถัง เธอก็รีบยกยิ้มอีกครั้ง
ถังซวงมองถังอวี้เทียนสักครู่ก่อนจะละสายตาไป
แผ่นหยกจารึกนี้เหมือนกับที่อาจารย์จวงเหวินเหอเคยมอบให้เธอทุกประการ แต่ว่า… แผ่นหยกเหล่านี้เป็นมรดกสืบทอดของตระกูลจวงไม่ใช่หรือ ทำไมจึงถูกนำมาขาย?
ถังซวงรู้สึกสับสน แต่ไม่ว่าจะพยายามนึกคิดอย่างไรเธอก็ไม่เข้าใจ จึงได้แต่ปล่อยมันไป
หลังจากมอบของขวัญวันเกิดเสร็จสิ้นแล้ว ผู้เฒ่าถังเชิญชวนให้ทุกคนร่วมรับประทานอาหารและดื่มด้วยกัน
วันนี้ตระกูลถังจัดงานยิ่งใหญ่ เตรียมอาหารไว้มากมาย ไม่ว่าจะสัตว์ปีก สัตว์บก สัตว์ทะเล ถังซวงยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชมขณะรับประทาน “วัตถุดิบสดมาก พ่อครัวก็ฝีมือดีมากด้วย”
“ใช่ค่ะ อร่อยมากจริง ๆ”
ถังเซวี่ยไม่สามารถหยุดกินได้เลย
เฟิงเยี่ยหานมองถังเซวี่ยด้วยรอยยิ้มขบขัน และช่วยคีบอาหารให้อย่างเอาอกเอาใจ
โม่เจ๋อหยวนเองก็ไม่ได้สนใจที่จะกินอาหารนี้มากนัก เขาคีบอาหารที่คิดว่าอร่อยให้กับถังซวง แล้วยังเทน้ำผลไม้ให้เธอด้วย “ซวงเอ๋อร์ ค่อย ๆ กินนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ขณะทุกคนกำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย โต๊ะอื่น ๆ ก็กำลังพูดคุยกันอย่างสนุก ผู้เฒ่าถังเองก็ไม่ได้อยู่เฉย เดินเข้าหาชายชราที่ตนเคารพและรำลึกช่วงเวลาดี ๆ กับพวกเขา ทั้งกล่าวขอบคุณและร่วมดื่มด้วยกัน
งานเลี้ยงดำเนินการไปอย่างราบรื่น เมื่อผู้เฒ่าถังดื่มอวยพรเสร็จแล้ว เขากลับไปนั่งที่ของตัวเอง
ขณะนั้นเอง ผู้เฒ่าตระกูลรองลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าหาผู้เฒ่าถัง “ท่านผู้นำตระกูล วันนี้เป็นวันมงคล ฉันคิดว่าคุณควรใช้โอกาสนี้เลือกทายาทลำดับต่อไปได้แล้วนะ”
“ผู้เฒ่าตระกูลรอง…”
ได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าตระกูลรองแล้ว ใบหน้าของผู้เฒ่าถังก็มืดมน ไม่คิดมาก่อนว่าผู้เฒ่าตระกูลรองจะกล้าพูดจาแบบนี้ แม้ตระกูลถังต้องเลือกทายาท แต่ยังไม่ใช่วันนี้และเวลานี้ “เราจะหารือเรื่องนี้ร่วมกันภายหลัง คุณกลับไปนั่งที่เถอะ”
อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่าตระกูลรองไม่ขยับเขยื้อน จ้องมองผู้เฒ่าถังสักครู่ก่อนจะพูดต่อว่า “ผู้นำตระกูล มันจะดีกว่าหากเลือกทายาทสืบทอดโดยเร็ว ทุกคนก็อยู่ที่นี่พร้อมเพรียงแล้ว”
“คุณ…”
ความสุขก่อนหน้าของผู้เฒ่าถังเหือดหายหมดสิ้น
ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่มองดูสถานการณ์โดยรอบก่อนจะก้าวไปด้านหน้าแล้วพูดว่า “น้องรอง นายคิดจะทำอะไร? อยากให้ตระกูลถังของเราต้องอับอายต่อหน้าผู้คนงั้นหรือ?”
“พี่ใหญ่ ทำไมเราต้องอายด้วย? ผมก็แค่อยากให้ผู้นำเลือกทายาทเสียให้จบสิ้น อีกอย่างมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เพราะผู้นำตระกูลเองก็มีลูกชายเพียงสองคนเท่านั้น และลูกชายของพวกเขาก็มีลูกสาวเพียงคนเดียว มันไม่น่ายุ่งยากอะไรนี่”
เมื่อเห็นผู้เฒ่าตระกูลรองมีความมั่นใจเช่นนั้น ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
แม้ผู้เฒ่าตระกูลรองจะขัดแย้งกับตนเสมอมา แต่อีกฝ่ายไม่เคยแสดงท่าทีต่อต้านหนักเช่นนี้มาก่อน ทำไมต้องรีบเลือกทายาท? หลังตระหนักได้อย่างนั้น ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ก็หันมองถังคุนเฉินทันที
ขณะนี้ถังซวงเองก็หันมองถังคุนเฉินด้วย เธอสัมผัสได้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวข้องกับครอบครัวรองแน่
แม้แต่ผู้เฒ่าถังเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันมองถังคุนเฉินด้วยความสงสัย
ทันใด ถังคุนเฉินยกยิ้มก่อนจะยืนขึ้น “พ่อครับ ผมคิดว่าที่ผู้เฒ่าตระกูลรองกล่าวออกมาก็มีเหตุผล พ่อควรจะเลือกทายาทสืบทอดตระกูลได้แล้ว”
“คุนเฉิน ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าแกจะใจร้อนขนาดนี้”
ถังคุนเฉินยังคงมีรอยยิ้มประดับใบหน้าเช่นเดิม “พ่อครับ ผมใจร้อนจริง ๆ นั่นแหละ เพราะผมกับอี้ไป๋จำเป็นต้องไปซีเป่ย กว่าหนึ่งปีถึงจะได้กลับมา การเลือกทายาทก่อนที่พวกเราจะไปไม่ดีกว่าหรือครับ? ยังไงซะทุกคนก็อยู่ที่นี่และร่วมเป็นสักขีพยานแล้ว”
เวลานี้ผู้เฒ่าตระกูลสาม และผู้เฒ่าตระกูลหกก็ยืนขึ้น “ผู้นำตระกูล โปรดตัดสินใจโดยเร็วเถอะ วันนี้ทุกคนมารวมตัวกันพร้อมเพรียงแล้ว พวกเราจะเป็นสักขีพยานให้การเลือกทายาทสืบทอดของตระกูลถังเอง”
หลังจากนั้นแม้แต่ผู้เฒ่าตระกูลสี่ และห้าก็ยืนขึ้น และเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้
“พวกคุณ…”
ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่หันมองผู้เฒ่าตระกูลสี่และห้าด้วยความไม่เชื่อสายตา ปกติแล้วสองคนนี้มักสนับสนุนเขาเสมอ แต่วันนี้พวกเขากลับไปอยู่ฝ่ายเดียวกับผู้เฒ่าตระกูลรองเสียแล้ว
เมื่อผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ต้องการพูดบางอย่าง ทันใดเขาตระหนักได้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายตนเอง
“อั่ก…”
ผู้เฒ่าตระกูลใหญ่บ้วนโลหิตออกมาคำโต เซจนล้มไปด้านหลัง
“ผู้เฒ่าตระกูล…”
เห็นอย่างนี้แล้วทุกคนร้องตะโกนออกมาพร้อมกัน ถังซวงรีบพุ่งตัวไปคว้าร่างกายของอีกฝ่ายเอาไว้ได้ทันเวลา “ผู้เฒ่าตระกูล…”