การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 549 ตอบโต้
บทที่ 549 ตอบโต้
เมื่อผู้เฒ่าตระกูลใหญ่เห็นทักษะที่ยอดเยี่ยมของผู้เฒ่าตระกูลแปด เขาถึงกับประหลาดใจ
“มันเป็นยาระเบิดพลังจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์ของมันจะยอดเยี่ยมแบบนี้ เจ้าแปดถึงกับทรงพลังขนาดนั้น”
แน่นอนว่าคนอื่น ๆ เห็นทักษะของผู้เฒ่าตระกูลแปดเช่นกัน และพวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกวูบไหวในใจ
เวลานี้ ทั้งตระกูลถังเชื่อคำพูดของถังซวงแล้ว เด็กคนนี้สามารถกลั่นยาในตำราโบราณเล่มนั้นได้จริง ๆ และเป็นผู้นำตระกูลถังที่ฟ้าลิขิตเอาไว้แล้ว
“แต่…”
ใบหน้าของถังคุนเฉินเต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือ แม้แต่ถังอวี้สือด้านหลังก็ซีดเซียว “ไม่… เป็นไปไม่ได้ ถังซวงจะกลั่นยาในตำราโบราณได้ยังไง…”
เธออ่านมันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่สามารถกลั่นยานั่นได้เลย ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ เธอคิดว่าตำราเล่มนี้ไร้ประโยชน์ และใบสั่งยาทั้งหมดคงเป็นของหลอกลวง ทว่าถังซวงกลับทำสำเร็จ มันทำให้เธอรู้สึกอับอายมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
หัวเฟยเฟิ่งเห็นภาพตรงหน้าชัดเจน จึงระเบิดเสียงหัวเราะและพูดต่อว่า “ซวงเอ๋อร์ของยายเก่งที่สุด วันนี้ครอบครัวของพวกเราได้อำนาจกลับมาอีกครั้งแล้ว”
จากนั้น หัวเฟยเฟิ่งก็ยิงพลุสัญญาณขึ้นฟ้า ไม่นานเสียงฝีเท้าจำนวนมากก็ดังขึ้น
“หัวเฟยเฟิ่ง นี่พี่ทำอะไร?”
ถังคุนเฉินหันมองหัวเฟยเฟิ่งด้วยความประหลาดใจและใจของเขาวูบไหว แม้จะมีแผนสำรองเอาไว้ แต่คนที่พามาด้วยถูกคนของผู้เฒ่าตระกูลใหญ่และผู้เฒ่าแปดล้อมไว้ ถ้าหากหัวเฟยเฟิ่งพาคนมาเพิ่ม เขาคงไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้
หัวเฟยเฟิ่งหันมองถังคุนเฉินด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรมาก ฉันแค่จะสั่งสอนบทเรียนที่นายจะไม่มีวันลืม”
พูดจบ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามา
“นายหญิงใหญ่”
คนเหล่านั้นรีบทำความเคารพหัวเฟยเฟิ่ง
หัวเฟยเฟิ่งมองพวกเขาก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชา “จับถังคุนเฉินกับหลานอี้ไป๋”
“รับทราบครับ”
คนเหล่านั้นรับคำสั่งของหัวเฟยเฟิ่ง ก่อนจะพุ่งเข้าหาถังคุนเฉินและหลานอี้ไป๋โดยไม่พูดพร่ำ
“หัวเฟยเฟิ่ง เธอคิดจะทำอะไร!”
แม่เฒ่ามองหัวเฟยเฟิ่งด้วยความโกรธ “ฉันรู้ว่าเธอโกรธแค้น แต่ตอนนี้อาหลานก็สบายดีแล้ว และเราก็ลงโทษเจ้ารองกับภรรยาแล้ว เธอยังต้องการอะไรอีก? อยากจะให้ครอบครัวของเราพังทลายงั้นหรือ? รีบบอกให้คนพวกนั้นปล่อยตัวเขาเดี๋ยวนี้!”
แม้จะไม่พอใจกับสิ่งที่ลูกชายคนเล็กทำ แต่แม่เฒ่าถังยังเข้าข้างเขาอย่างไม่รู้ตัว เธออยากเห็นครอบครัวกลับมารักใคร่กันอีกครั้ง ครอบครัวของเธอไม่ควรแตกแยกแบบนี้
หัวเฟยเฟิ่งมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา “อย่างที่พวกคุณทำไม่เรียกว่าการลงโทษหรอก… ฉันทำเองดีกว่า”
“เธอ…”
เห็นความไม่แยแสและไร้ซึ่งความเคารพของหัวเฟยเฟิ่ง แม่เฒ่าถังยิ่งโกรธจัดแต่ไม่สามารถทำอะไรได้
ผู้เฒ่าถังที่อยู่ด้านข้างก็โกรธมากเช่นกัน เขาเอามือของกุมหัวใจแน่น คล้ายว่าตอนนี้หายใจยากลำบาก
เมื่อถังซวงเห็นว่าคนเหล่านั้นเข้ามา เธอจึงรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนที่หัวเฟยเฟิ่งเตรียมเอาไว้ พวกเขามาที่นี่เพื่อเรียกคืนความยุติธรรมให้กับพวกตน เด็กสาวยกยิ้มก่อนจะก้าวเข้าไป “คุณยายคะ หนูไปด้วย”
หัวเฟยเฟิ่งส่ายศีรษะ “ไม่ ไม่ได้ ยายขอจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”
ถังซวงไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเข้าใจดีว่าทั้งหมดเป็นปมในใจของคุณยาย และอีกฝ่ายต้องแก้มันด้วยตัวเอง
ถังคุนหาวมองผู้เฒ่าถังที่กำลังกุมหัวใจไว้แน่น อยากจะก้าวเข้าไปหา แต่แล้วเขาก็หยุดฝีเท้า เรื่องราวดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาคงทำอะไรไม่ได้อีก
ขณะนี้ หัวเฟยเฟิ่งพุ่งออกไปพร้อมกับคนของตน เธอจะให้ถังคุนเฉินกับหลานอี้ไป๋จ่ายชดใช้อย่างสาสม
ถังหลานเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าหัวเฟยเฟิ่งออกไปอย่างนั้น
แต่เธอมีจิงเจ้อหรงคอยปลอบโยน “อาหลานไม่ต้องกังวลนะ คุณแม่เก่งมาก คุณต้องเชื่อมั่นในตัวคุณแม่นะ”
“ค่ะ ฉันรู้”
แม้ถังหลานจะเชื่ออย่างนั้น แต่ก็ยังกังวลและจ้องมองการต่อสู้ตรงหน้าไม่กะพริบตา
ด้านหัวเฟยเฟิ่งไม่ได้เข้าไปหาถังคุนเฉิน เพราะเป้าหมายของเธอคือหลานอี้ไป๋
เมื่อหลานอี้ไป๋เห็นว่าหัวเฟยเฟิ่งกำลังเข้ามาหาตน เธอก็ส่งสัญญาณผ่านหยกในมือทันที
หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามา
หัวเฟยเฟิ่งที่เห็นอย่างนั้น อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะ “ดูเหมือนว่าพวกเธอจะมีแผนสำรองเหมือนกันสินะ”
“หึ… หัวเฟยเฟิ่ง ในเมื่อพี่อยากจะตาย ฉันก็จะสนองพี่เอง” แววตาของหลานอี้ไป๋เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ทว่าหัวเฟยเฟิ่งกลับยกยิ้มบางก่อนจะพูดว่า “ใช่ ฉันเองก็คิดแบบนั้น แต่มันขึ้นอยู่กับว่าใครจะเอาชนะได้ก่อนกัน”
ถังคุนเฉินที่ได้ยินถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นว่าหลานอี้ไป๋เผยไพ่ตายใบสุดท้ายของเขาทั้งหมด นี่ยังไม่ถึงเวลา ทำไมหลานอี้ไป๋จึงเรียกคนเหล่านั้นออกมาแล้วล่ะ? แต่หลานอี้ไป๋กลับไม่คิดสนใจถังคุนเฉิน ขณะนี้ในสายตาของเธอมีเพียงหัวเฟยเฟิ่งเท่านั้น ทั้งสองเริ่มต่อสู้กันทันที
“แม่…”
ถังหวยรุ่ยหวาดกลัวกับสถานการณ์ตรงหน้า ยิ่งเห็นหลานอี้ไป๋กับหัวเฟยเฟิ่งสู้กัน เธอยิ่งไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
ส่วนถังอวี้สือที่รู้ถึงแผนการของคุณตาอยู่แล้ว ก็ไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายมากขนาดนี้ เธอพยายามระงับความตื่นตระหนก และวางแผนว่าจะช่วยเหลือคุณตากับคุณยายก่อน
เหวินเจ๋อหลิ่วเองก็ตามถังอวี้สือไปด้วย
ถังซวงเห็นถังอวี้สือกับเหวินเจ๋อหลิ่วเริ่มเคลื่อนไหว แววตาของเด็กสาวกลายเป็นเย็นชาแล้วเดินเข้าไปในการต่อสู้ทันที
เหวินเจ๋อหลิ่วและถังอวี้สือสร้างปัญหาให้กับเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้วันนี้จะไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุด แต่ด้วยความวุ่นวายในตอนนี้ เธอจะไม่พลาดเด็ดขาด
โม่เจ๋อหยวนเห็นถังซวงออกไป เขาก็ไม่รอช้าและรีบวิ่งเข้าไปด้วย
ถังเซวี่ยเห็นอย่างนั้นยิ่งกังวล จึงหันไปมองเฟิงเยี่ยหาน “เฟิงเยี่ยหาน เราเข้าไปช่วยพวกเขากันเถอะ”
แต่เฟิงเยี่ยหานจับมือถังเซวี่ยแล้วพูดขึ้นว่า “เสี่ยวเซวี่ย แค่พี่สาวกับพี่เขยคุณก็พอแล้ว เราดูสถานการณ์อยู่ด้านนอกนี่แหละ”
ถังเซวี่ยมองไปที่ทุกคน และเห็นว่าถังซวงสามารถจัดการถังอวี้สือได้อย่างง่ายดาย และแม้ว่าทักษะของโม่เจ๋อหยวนไม่ดีเท่ากับถังซวง แต่เขายังมีเหลิ่งตงและคนอื่น ๆ คอยช่วยเหลือ “อื้ม… หวังว่าพี่จะไม่เป็นไร”
แน่นอนว่าถังซวงไม่เป็นไร เธอคว้าถังอวี้สือเอาไว้ และคิดจะสั่งสอนบทเรียนให้อีกฝ่าย แต่เว่ยชื่อเหอกลับวิ่งเข้ามาเสียก่อน “นังสารเลว หยุดเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยมือจากอวี้สือซะ!”
เว่ยเหิงรีบก้าวไปด้านหน้าและคว้าตัวของเว่ยชื่อเหอเอาไว้
“กลับมาเดี๋ยวนี้ นั่นเป็นเรื่องภายในตระกูลถัง หลานไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่ง”
เว่ยชื่อเหอดิ้นอย่างหนัก “คุณปู่ ปล่อยผม อวี้สือตกอยู่ในอันตรายนะ”
น่าเสียดายที่เว่ยชื่อเหอไม่สามารถขัดขืนเว่ยเหิงได้ เขาถูกจับเอาไว้ ไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่นิดเดียว
ถังซวงหันมองอีกฝ่าย จากนั้นหันกลับมาหาถังอวี้สือแล้วแค่นหัวเราะ “มีคนชอบเธอมากมาย แต่… เธอกลับมาวุ่นวายกับฉัน อีกอย่างเมื่อถังคุนเฉินคิดก่อกบฏ เธอคงจะเตรียมใจรับจุดจบนี้ไว้อยู่แล้วสินะ”
เหวินเจ๋อหลิ่วถูกโม่เจ๋อหยวนและคนอื่น ๆ จับตัวไว้ได้เช่นกัน เมื่อเห็นว่าถังอวี้สือเองก็ถูกจับ เธอคำรามลั่น “ถังซวง ปล่อยคุณหนูใหญ่เดี๋ยวนี้ มีอะไรมาลงที่ฉันสิ นังสารเลว ถ้าแกกล้าทำอะไรคุณหนูใหญ่ รับรองว่าแกไม่ตายดีแน่!”
ถังซวงโยนถังอวี้สือลงพื้นก่อนจะเหยียบหน้าอกของอีกฝ่ายอย่างแรง จากนั้นหันกลับมาหาเหวินเจ๋อหลิ่วแล้วถามว่า “แล้วถ้าฉันทำแบบนี้ล่ะ เธอจะทำอะไรฉัน?”
“แก… ถังซวง ฉันจะฆ่าแก”
ดวงตาของเหวินเจ๋อหลิ่วแดงก่ำ อยากกระโจนเข้าหาถังซวงเต็มที
ผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังที่เห็นว่าถังอวี้สือผู้เปรียบเสมือนดวงใจถูกย่ำยี ก็คิดว่าถังซวงลงมือหนักเกินไปจึงตะโกนออกมา “ถังซวง รีบปล่อยอวี้สือเถอะ เธอไม่มีความคับข้องใจใดต่อกัน แล้วไปยุ่งกับอวี้สือทำไม? ปล่อยหล่อนเดี๋ยวนี้”
แต่ถังซวงยังไม่ขยับเขยื้อนใด ๆ
ถังอวี้สือไม่คิดมาก่อนว่าถังซวงจะทำให้เธออับอายได้มากเช่นนี้ วันนี้เธอไม่เหลือศักดิ์ศรีแล้ว
ส่วนเหวินเจ๋อหลิ่วทนไม่ได้เมื่อเห็นถังอวี้สือถูกปฏิบัติอย่างนั้น เธอใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อดิ้นออกจากพันธนาการ จากนั้นพุ่งเข้าหาถังซวงพร้อมกระชับกริชในมือไว้แน่น
“ซวงเอ๋อร์… ระวัง…”
ถังซวงตอบสนองอย่างรวดเร็ว เตะถังอวี้สือออกไปก่อนจะหลบไปด้านข้าง หลังจากคู่ต่อสู้มาถึง เธอใช้หลังมือทุบอีกฝ่ายอย่างแรงก่อนจะคว้าข้อมือของเหวินเจ๋อหลิ่วแล้วหักกลับ ส่งผลให้กริชเล่มนั้นหันกลับไปหาเหวินเจ๋อหลิ่วในทันที
“ไม่…”
เมื่อถังอวี้สือเห็นสถานการณ์ตรงหน้า หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ถังซวงกล้าฆ่าคนต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้งั้นหรือ
แน่นอน ถังซวงกล้า เพราะเหวินเจ๋อหลิ่วต้องการฆ่าเธอก่อน แล้วจะให้เก็บเหวินเจ๋อหลิ่วไว้ได้อีกหรือ? ยิ่งกว่านั้นเหวินเจ๋อหลิ่วคือคนที่สร้างปัญหาให้เธอไม่จบสิ้น
ฉึ่บ…
เสียงกริชเสียบแทงทะลุหน้าอกของเหวินเจ๋อหลิ่วดังเข้ามาในสองใบหูของเธอ เหวินเจ๋อหลิ่วจ้องมองกริชที่เสียบหน้าอกของตนด้วยความไม่เชื่อถือ “แก… แก…”