การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 55 วิ่งหนีด้วยความสิ้นหวัง(รีไรท์)
- Home
- การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย
- บทที่ 55 วิ่งหนีด้วยความสิ้นหวัง(รีไรท์)
บทที่ 55 วิ่งหนีด้วยความสิ้นหวัง(รีไรท์)
บทที่ 55 วิ่งหนีด้วยความสิ้นหวัง(รีไรท์)
เมื่อเห็นสายตาของถังซวง แม่ม่ายหลิวก็รู้สึกหวาดกลัว เธอรีบสะกิดถังเจี้ยนกั๋ว และพูดว่า “เจี้ยนกั๋ว ไปกันเถอะ… เรากลับกันก่อน”
เธอลืมไปได้อย่างไรว่าแม้เฮ่อหลานจะเป็นคนขี้ขลาดและอ่อนแอ แต่ลูกสาวคนโตของเธอเป็นคนเจ้าเล่ห์มาก ทั้งยังรู้เรื่องของตนเยอะมากเช่นกัน หากเธอทำอะไรผิดพลาดขึ้นมา คงไม่สามารถรักษาชีวิตที่สงบสุขไว้ได้
ส่วนถังเจี้ยนกั๋วก็กังวลเช่นกันเมื่อเห็นถังซวง
ตอนนี้ลูกสาวคนโตคนนี้ค่อนข้างร้ายกาจ และเขารู้สึกว่าการพบเธอในแต่ละครั้งไม่ส่งผลดีเลยสักครั้ง แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าความภาคภูมิใจในตนเองในฐานะผู้ชายถูกเหยียบย่ำ และการที่เฮ่อหลานอยู่กับผู้ชายคนอื่นคือการทำให้เขาผู้เป็นสามี เหมือนกับยอมให้ภรรยามีชู้ “เฮ่อหลาน ฉันไม่อนุญาต… ”
แต่ก่อนที่ถังเจี้ยนกั๋วจะพูดจบ เขาก็ถูกขัดจังหวะโดยถังซวง
“ถังเจี้ยนกั๋ว เราไม่เกี่ยวข้องกับตุณอีกต่อไป และคุณควรเลิกทำตัวจองหองและคิดว่ายังสามารถมีอิทธิพลต่อพวกเราได้แล้ว”
“แก…แกมันลูกอกตัญญู ฉันเป็นพ่อของแกนะ!”
“ฉันไม่มีพ่อที่ต้องการฆ่าและขายฉันให้กับฆาตกรหรอก”
เดิมทีหลังจากได้ยินคำพูดของถังเจี้ยนกั๋ว ผู้คนรอบข้างคิดว่าถังซวงนั้นทำเกินไปสำหรับการปฏิบัติต่อบิดาผู้ให้กำเนิดแบบนี้ แต่ตอนนี้หลังจากได้ยินคำพูดของถังซวง พวกเขาทั้งหมดก็มองไปที่ถังเจี้ยนกั๋วด้วยความดูถูก
แม้ว่าหญิงสาวจะร้ายกาจแค่ไหน แม้แต่เสือมันยังไม่ทำร้ายลูกของตัวเอง ถังเจี้ยนกั๋วต้องการฆ่าลูกสาวของเขา และต้องการขายเธอให้กับฆาตกร ซึ่งไร้ยางอายอย่างมาก
เมื่อเห็นสายตาดูถูกเหยียดหยามของผู้คนรอบข้าง ถังเจี้ยนกั๋วก็รู้สึกอับอายขึ้นมา
ส่วนแม่ม่ายหลิวก็รู้สึกว่าทุกคนกำลังมองเธออย่างตลกขบขัน ดังนั้นเธอจึงรีบดึงถังเจี้ยนกั๋ว และพูดว่า “เจี้ยนกั๋ว ออกไปเร็ว ๆ เถอะ”
ถังเจี้ยนกั๋วมองถังซวงและเฮ่อหลานอย่างเคียดแค้น แต่ในที่สุดก็ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับแม่ม่ายหลิวด้วยความสิ้นหวัง
หลังจากที่ทั้งสองจากไป เฮ่อหลานมองไปที่จิงเจ้อหรงด้วยความรู้สึกผิดและพูดว่า “คุณจิงคะ ฉันขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้คุณต้องมาเจอปัญหาแบบนี้นะคะ”
จิงเจ้อหรงส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ มันเป็นพวกเขาต่างหากที่พูดมากเกินไป ยิ่งกว่านั้น พวกเขาต่างหากที่ต้องเสียใจแทนพวกคุณสามแม่ลูก แต่กลับพูดจาแบบนั้นได้ยังไง?”
ก่อนหน้านี้การตรวจสอบค่อนข้างเร่งรีบ เขาจึงไม่พบว่าถังเจี้ยนกั๋วต้องการขายถังซวง อีกฝ่ายไม่สมควรเป็นพ่อคนจริง ๆ
ในเวลานี้ ถังซวงมองไปที่จิงเจ้อหรง และพูดว่า “คุณจิงคะ ขอบคุณที่พาแม่ของฉันมาที่โรงพยาบาลนะคะ และขอบคุณที่ให้คนจำนวนมากตามหาพวกเรา ขอบคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มากจริง ๆ ค่ะ”
“เรื่องใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้นในเมืองเวิงชาน แน่นอนว่าฉันต้องช่วยตามหาอยู่แล้ว เพราะงั้นเธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก อ่อ ฉันได้ยินจากซุนหงว่าเธอสามารถหลบหนีได้ด้วยตัวเอง ดูเหมือนว่าเสี่ยวถังจะยอดเยี่ยมจริง ๆ”
ถังซวงกล่าวอย่างถ่อมตัวว่า “พวกค้ามนุษย์พวกนั้นประเมินฉันต่ำเกินไป ดังนั้นฉันเลยจัดการพวกเขาได้ มันเป็นเรื่องบังเอิญน่ะค่ะ”
ถึงกระนั้นก็ยังพิสูจน์ได้ว่าถังซวงนั้นแข็งแกร่งมากจิงเจ้อหรงจึงชมเชยอีกสองสามคำ
เฮ่อหลานมองลูกสาวทั้งสองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และเมื่อเห็นว่าพวกเธอไม่เป็นอันตราย เธอจึงโล่งใจได้จริง ๆ “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ดีแล้วที่พวกลูกไม่เป็นอะไร”
“แม่คะ เราทำให้แม่ต้องเป็นห่วงแท้ ๆ เลย”
ถังซวงและถังเซวี่ยก้าวไปข้างหน้า และกอดเฮ่อหลานอย่างอ่อนโยน
แม่และลูกสาวกอดกันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
ถังชุนหยานที่อยู่ด้านข้างเห็นสามแม่ลูกกอดกัน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอิจฉา จ้าวเหม่ยฉิน แม่ของเธอให้ความสำคัญกับพี่ชายของเธอมากกว่าลูกสาวอย่างเธอเสมอ แม่ไม่สนใจเธอเลยแม้แต่เล็กน้อย แม้ว่าเธอจะทำได้ดีกว่าผู้หญิงบางคนในหมู่บ้านก็ตาม เมื่อเทียบกับเฮ่อหลานแล้ว แม่ที่รักลูกสาวของตนเอง จ้าวเหม่ยฉินไม่สามารถเทียบได้เลย
เป็นเวลานานมากแล้ว แต่พ่อกับแม่ของเธอก็ยังไม่มาตามหาเธอ พวกเขาไม่รู้ว่าเธอที่หายไปงั้นสินะ “พี่สาว งั้นฉันกลับก่อนนะ”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เธอยังกลับไปไม่ได้ เราต้องไปที่สำนักงานเจก่อน”
“อ่อ… ใช่ ฉันเกือบลืมไปเลย”
ถังชุนหยานลืมไปแล้วจริง ๆ แต่เธอก็กังวลเล็กน้อยเช่นกันว่ามันจะสายเกินไปและเธอจะไม่สามารถกลับบ้านได้
เมื่อถังซวงเห็นแบบนั้น เธอก็พูดตรง ๆ ว่า “อย่ากังวลเลย ถึงเธอจะกลับไปบ้านไม่ได้ แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอนอนข้างถนนหรอก เพราะงั้นอย่าคิดมาก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังชุนหยานก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เฮ่อหลานเห็นถังชุนหยานก็ยิ้มและพยักหน้าให้เธอ
ถังชุนหยานต้องการเรียกเฮ่อหลานว่าคุณป้ารองเหมือนแต่ก่อน แต่เมื่อคิดถึงความทุกข์ทรมานที่ป้ารองและถังซวงต้องเจอ เธอจึงรีบเปลี่ยนคำพูดของเธอ “สวัสดีค่ะ ป้าหลาน”
เมื่อได้ยินคำทักทายของถังชุนหยาน เฮ่อหลานก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง จากนั้นดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีจ้ะ วันนี้พวกเธอคงต้องทนหน่อยนะ ไว้พรุ่งนี้ป้าจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้กิน”
ถังชุนหยานไม่ตอบสนองทันที แต่มองไปที่ถังซวงอย่างเงียบ ๆ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เธอมองฉันทำไม ในเมื่อแม่ฉันพูดอย่างนั้นแล้ว ก็ตามนั้นแหละ แม่อยากให้มากินข้าวด้วยกัน ดังนั้นอย่าลืมมาบ้านฉันในวันพรุ่งนี้นะ”
“ได้สิ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของถังชุนหยานก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นก็ไปที่สำนักงานเจในท้องถิ่น ซึ่งซุนหงและคนอื่น ๆ ก็อยู่ที่นั่น “ถังซวง เธออยู่ที่นี่เอง”
เฮ่อหลานมองไปที่ซุนหงอย่างอยากรู้อยากเห็น เธอไม่รู้รายละเอียดมากนัก ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าซุนหงเป็นบุคคลที่รับผิดชอบการดำเนินการครั้งนี้ นับประสาอะไรกับที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนคนนี้เคยอยู่ในหมู่บ้านหลู่ฮวา
“แม่คะ นี่ลุงซุนค่ะ ต้องขอบคุณที่เขามาทันเวลาพอดี เราเลยได้กลับมาเร็วขนาดนี้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฮ่อหลานรีบไปข้างหน้าและขอบคุณเขาทันที
ซุนหงรู้สึกอายเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ถังซวงและคนอื่น ๆ ก็รอดพ้นจากอันตรายมาได้อยู่ดีแม้จะไม่มีพวกเขา
“แม่คะ นี่คือลุงซุนที่ฉันเล่าให้ฟัง เขาสอนฉันหลายอย่างมากในตอนนั้น”
เฮ่อหลานไม่เข้าใจในตอนแรก และใช้เวลาสักครู่ก่อนที่เธอจะพูดด้วยความประหลาดใจว่า “คุณ…คือลุงซุนที่ซวงเอ๋อร์พูดถึงใช่ไหมคะ? ลุงซุนที่เคยอยู่ที่หมู่บ้านหลู่ฮวามาก่อน?”
ซุนหงยิ้มและพูดว่า “ใช่ ผมเอง ผมยังไม่ได้ขอบคุณถังซวงที่ช่วยผมก่อนหน้านี้เลย” แม้ว่ามันจะเป็นเพียงมันเทศเพียงเล็กน้อย แต่มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตเขาไว้จริง ๆ ในตอนนั้น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลุงซุนคะ ครั้งนี้ลุงก็ช่วยฉันไว้มาก เราสองคนหายกันแล้วนะ”
เฮ่อหลานรีบพูดจากด้านข้างว่า “ใช่ค่ะ คุณช่วยซวงเอ๋อร์มามากแล้ว ทั้งก่อนหน้านี้…”
เมื่อถังซวงกำลังจะพูดอะไรเพื่อขัดจังหวะ เจ้าพนักงานก็มาเรียกพวกเขา เธอจึงรีบมองไปที่เฮ่อหลานและพูดว่า “แม่คะ เราจะเข้าไปข้างในก่อน แม่รอเราอยู่ที่นี่นะ”
“จ้ะ”
เฮ่อหลานพยักหน้าอย่างรีบร้อนเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ถังซวงช่วยให้คดีดำเนินการไปอย่างรวดเร็วมาก เธอเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นตามลำดับ ถังเซวี่ยและถังชุนหยานก็เช่นกัน พวกเธอเล่าเรื่องราวการจับกุมอย่างละเอียด และก็เล่าเรื่องการช่วยเหลือของถังซวง ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า “คุณลุงคะ คนพวกนั้นแย่มาก เราต้องจับพวกมันให้หมดนะ”