การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 560 ส่งครอบครัวของถังคุนเฉิน
บทที่ 560 ส่งครอบครัวของถังคุนเฉิน
ถังซวงประหลาดใจหลังได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าตระกูล
เธอไม่คิดว่าหลังจากเธอมอบใบสั่งยาให้เขา ผู้เฒ่าตระกูลก็ยังล้มเหลว หากวัดจากความคล่องแคล่วของเขา มันไม่ควรจะมีอะไรผิดพลาด
หลังจากคิดถึงความแปลกประหลาดของตำรับยาเล่มนี้ ถังซวงก็จำเป็นต้องยอมรับมัน บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับเลือกผู้นำตระกูลก็ได้ “ผู้เฒ่าตระกูลคะ อย่างนั้นคุณกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ ไว้เราค่อยพยายามด้วยกันใหม่”
ถึงผู้เฒ่าตระกูลจะรู้ว่าตนไม่มีวันประสบความสำเร็จ แต่เขาก็ยังปรารถนาจะทดลอง ชายชรายกยิ้มด้วยความขื่นขม ตอบกลับว่า “ขอบคุณผู้นำตระกูล ไว้เรามีโอกาสจะทดลองกันใหม่อีกครั้งนะ” เขาเหลือบมองถังซวงอย่างลังเล “ท่านผู้นำตระกูล เพราะเธอสามารถกลั่นยาได้ อย่างนั้นเธอช่วย… กลั่นยาเพิ่มสักหน่อยได้ไหม? ยาบางตัวมันมีประโยชน์มากจริง ๆ”
“ความจริงฉันก็อยากจะกลั่นมันให้มากขึ้นค่ะ แต่เพราะวัตถุดิบยาไม่เพียงพอเลยไม่สามารถทำได้”
ผู้เฒ่าตระกูลได้ยินแล้วรีบตอบรับทันที “ท่านผู้นำ เธอไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก ฉันจะตระเตรียมทุกอย่างไว้ให้เอง หรือถ้าหมายถึงวัตถุดิบยาที่หายาก ฉันจะสั่งให้คนออกตามหามันอย่างสุดความสามารถ และจะรีบมาบอกเธอทันทีที่ทุกอย่างพร้อมแล้ว”
“ตกลงค่ะ ฉันจะผลิตยาให้ ส่วนวัตถุดิบทำยานั้นให้เป็นหน้าที่ของคุณ”
“ตกลง ๆ”
เมื่อเห็นว่าถังซวงยอมรับข้อเสนอ ใบหน้าของผู้เฒ่าตระกูลก็เต็มไปด้วยความยินดี จากนั้นนึกไปถึงถังคุนเฉิน จึงกล่าวต่อ “ท่านผู้นำ ถังคุนเฉินและครอบครัวไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้วหลังจากนี้ วันพรุ่งนี้เราจะส่งพวกเขาไปอยู่ที่ซีเป่ย”
ถังซวงพยักหน้ารับ “ค่ะ ฉันจะไปส่งพวกเขาด้วย”
เช้าวันรุ่งขึ้น ถังซวงมาถึงห้องโถงใหญ่และเห็นว่าถังคุนหาวมาถึงแล้ว
“ซวงเอ๋อร์ ตาได้ยินว่าถังคุนเฉินกับครอบครัวกำลังจะออกเดินทางแล้ว”
ถังซวงพยักหน้า “ค่ะ หนูจะไปส่งพวกเขาด้วย”
“ตาก็จะไปด้วยเหมือนกัน”
ถังซวงพยักหน้า “งั้นพวกเราไปที่นั่นด้วยกันนะคะ”
หลังจากถังซวงและถังคุนหาวมาถึง พวกเขาเห็นว่าผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังก็อยู่ที่นี่ ผู้เฒ่าทั้งสองมองถังคุนเฉินอย่างไม่เต็มใจ “อาเฉิน ต่อให้ไปอยู่ที่ซีเป่ยแล้วก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ ไม่ต้องกังวลไป ในอนาคตลูกจะได้กลับมาที่นี่อีกแน่”
ถังคุนเฉินรู้ดีว่าเขากับครอบครัวไม่มีทางได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว สำหรับตัวเขาเองนั้นไม่สนใจเรื่องนี้ แต่เขาอดไม่ได้ที่จะเสียดาย เพราะถังอวี้สือมีความสามารถขึ้นเป็นผู้นำตระกูลถังได้ แต่เธอกลับไม่มีโอกาสนั้นแล้ว
“พ่อครับ แม่ครับ ไม่ต้องห่วง พวกเราจะดูแลตัวเองให้ดี”
ถังคุนเฉินแทบจะหมดความทะเยอทะยาน เขาไม่สนใจอะไรและไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้าง เพราะผ่านพ้นความเปลี่ยนแปลงที่หนักหนาในชีวิต
เห็นอย่างนั้น ผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังยิ่งเสียใจ
ทั้งสองคนเห็นถังซวงเดินเข้ามา ในแววตาฉายความสับสนอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งที่พวกเขาควรที่จะภูมิใจในตัวของถังซวง เพราะหลานคนนี้กลั่นยาอายุวัฒนะที่ไม่มีใครกลั่นสำเร็จได้ในรอบหลายร้อยปี แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของถังคุนเฉินต้องระหกระเหินไปจากบ้าน พวกเขาได้แต่เก็บกลั้นความเกลียดชังไว้ในใจ
และอีกคนที่รู้สึกเกลียดชังคือถังอวี้สือ
เธอคืออัจฉริยะของในหมู่คนรุ่นหลังของตระกูลถัง และเป็นบุคคลที่คนในตระกูลถังยกย่อง แต่เพราะถังซวง เธอจึงต้องสูญเสียทุกอย่าง และตอนนี้เธอต้องสูญเสียทักษะยอดเยี่ยมไปด้วย แล้วจะไม่ให้เธอเกลียดหล่อนได้อย่างไร?
แน่นอนว่าถังซวงเห็นสายตาเหล่านั้น แต่ไม่คิดสนใจ พยักหน้าให้กับเหล่าผู้คุ้มกัน “ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของพวกคุณนะคะ”
พวกเขารีบโบกมือก่อนจะพูดต่อว่า “เป็นหน้าที่ของพวกเราครับ”
ถึงอย่างนั้น ถังซวงก็ยังมอบรางวัลให้อย่างใจกว้าง
เมื่อเห็นความมีน้ำใจของถังซวง คนเหล่านั้นรู้สึกยินดีมาก “ท่านผู้นำตระกูล ไม่ต้องห่วงพวกเราจะส่งพวกเขาไปที่ซีเป่ยอย่างปลอดภัย และจะจับตาดูพวกเขาอย่างใกล้ชิด”
“ค่ะ”
ถังซวงพยักหน้าพร้อมยกยิ้ม
แม่เฒ่าถังได้ยินอย่างนั้นเธอเอ่ยอย่างเย็นชา “ถังซวง นี่มันมากเกินไปหรือเปล่า อาเฉินเป็นตาของเธอด้วยเหมือนกัน และเป็นญาติสายตรงของครอบครัวเธอ นี่เธอยังคิดจะให้พวกเขาอยู่ซีเป่ยตลอดไปอีกงั้นหรือ?”
ถังซวงหันมองแม่เฒ่าถังด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ ฉันจะให้พวกเขาอยู่ที่นั่นตลอดไป”
“เธอ…”
แม่เฒ่าถังมองถังซวงด้วยความตกตะลึง “อย่ามาเหิมเกริมให้มากนัก”
ก่อนถังซวงจะได้ตอบกลับ ถังคุนหาวกลับกล่าวขึ้นก่อนว่า “แม่ครับ อย่าลืมสิว่าตอนนี้ซวงเอ๋อร์เป็นผู้นำตระกูลถัง แม่ไม่ควรจะพูดมาก เพราะถังซวงตัดสินใจเรื่องนี้ไปแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการตัดสินใจเพราะคนอื่น”
“อ้าว ลูก… ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปแล้ว?”
แม่เฒ่าถังมองถังคุนหาวด้วยความประหลาดใจ ราวกับว่าตนไม่รู้จักลูกชายคนโตคนนี้เลย
ทันใดนั้นถังคุนเฉินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม “แม่ครับ แม่คิดว่าพี่ใหญ่เป็นคนซื่อสัตย์และใจกว้างจริง ๆ หรือ? เขาทำลายทักษะพวกเราด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าเราจะกลับมาอีก ผมก็ไม่คิดมาก่อนว่าพี่ใหญ่จะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้”
“อะไรนะ…”
ผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ยิ่งเมื่อได้ยินว่าทักษะครอบครัวลูกชายคนเล็กถูกทำลาย ทั้งสองยิ่งเจ็บปวดจากก้นบึ้งของหัวใจ “ถังคุนหาว ลูกทำให้น้องชายของตัวเองพิการจริง ๆ งั้นหรือ? ทำไมถึงโหดเหี้ยมแบบนี้ ทำไมถึงทำแบบนี้!”
“พ่อครับ แม่ครับ ถังคุนเฉินต้องการฆ่าผู้เฒ่าตระกูลใหญ่ และทำลายครอบครัวของผม ทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่คิดว่าเขาโหดเหี้ยมบ้างล่ะครับ? พ่อกับแม่นั่นแหละที่ทำเกินไป”
“พวกเรา…”
ก่อนผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังจะทันได้พูดอะไร ถังคุนหาวกล่าวขัดจังหวะ
“พวกเขาควรจะรีบออกเดินทางได้แล้ว นี่มันเกินกำหนดมาพอสมควร เดี๋ยวทุกอย่างจะล่าช้าไปเสียหมด”
ถังซวงพยักหน้า “ค่ะ ออกเดินทางได้”
คนคุ้มกันที่ได้ยินพยักหน้ารับกับถังซวง “ครับท่านผู้นำตระกูล เราจะออกเดินทางทันที”
ก่อนที่ผู้เฒ่าถังและแม่เฒ่าถังจะได้บอกลาถังคุนเฉิน พวกเขาทั้งหมดก็ถูกพาตัวออกไปเสียแล้ว
เมื่อมองกลุ่มคนที่เดินจากไปแล้ว ถังซวงมองถังคุนหาวก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณตาคะ เรากลับกันเถอะ”
“อื้ม”
เมื่อเห็นถังซวงกับถังคุนหาวกำลังจะออกไป แม่เฒ่าถังก็หยุดพวกเขาไว้ “เดี๋ยว ฉันมีบางอย่างจะพูดคุยด้วย”
ถังซวงไม่รู้สึกสนใจหญิงชราคนนี้เลย เพราะไม่ว่าเธอจะพูดเรื่องอะไร มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน เธอจึงหันมองผู้เฒ่าตระกูลก่อนจะพูดขึ้นว่า “ฉันฝากเรื่องนี้ให้ผู้เฒ่าตระกูลจัดการด้วยนะคะ เราจะกลับกันก่อน”
ผู้เฒ่าตระกูลพยักหน้า “ตกลง”
ถังซวงและถังคุนหาวจากไปโดยไม่หันกลับมา ทำให้แม่เฒ่าถังรู้สึกว่าอวัยวะข้างในของเธอกำลังบีบรัดอย่างเจ็บปวด
ส่วนผู้เฒ่าตระกูลมองทั้งสองคนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “เธอสองคนไม่ทราบสถานะของตัวเองในตอนนี้หรือไง? ถ้ายังคิดจะทำอย่างนี้อีก ไม่ช้าก็เร็วท่านผู้นำตระกูลตัวจริงคงจะเบื่อหน่าย และวันนั้นจะเป็นพวกเธอที่ต้องทุกข์ทรมาน ทำอะไรก็ช่วยคิดให้ดีก่อนล่ะ” พูดจบ เขาก็ออกไปโดยไม่คิดหันกลับมา
หลังจากถังซวงและถังคุนหาวกลับมาถึงแล้ว หัวเทียนจางจึงเอ่ยปากถามถึงเรื่องกลับไปเยี่ยมตระกูลหัว “ซวงเอ๋อร์ พวกเรากลับไปที่ตระกูลหัวพรุ่งนี้เช้าดีไหม?”