การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 561 ตระกูลหัว
บทที่ 561 ตระกูลหัว
หัวเฟยเฟิ่งยกยิ้มตอบรับ “ค่ะคุณพ่อ พรุ่งนี้เช้าเราจะกลับไปด้วยกัน”
หัวเทียนจางมองคนอื่น ๆ ก่อนจะเอ่ยปากถาม “แล้วพวกเธอล่ะว่ายังไง?”
ถังซวงและคนอื่น ๆ ไม่คัดค้าน เดิมทีพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะไปบ้านตระกูลหัวอยู่แล้ว ถังหลานจึงตอบกลับว่า “พรุ่งนี้พวกเราจะกลับไปที่บ้านตระกูลหัวพร้อมกันค่ะ”
หัวเทียนจางยกยิ้มกว้าง “อื้ม ตกลง พวกเราจะกลับบ้านด้วยกัน”
หลังจากตกลงว่าจะไปเยี่ยมตระกูลหัว ถังซวงก็มาหาผู้เฒ่าตระกูลใหญ่และขอให้เขาจัดการเรื่องราวในตระกูลถังให้เป็นการชั่วคราว
“ท่านผู้นำไม่ต้องกังวล ฉันจะดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่หากมีเรื่องอะไรที่ต้องรอให้เธอตัดสินใจ ฉันจะส่งจดหมายไปที่ตระกูลหัวโดยเร็วที่สุด”
ถังซวงพยักหน้าตอบรับ “ค่ะ ยังไงก็รบกวนผู้เฒ่าตระกูลด้วยนะคะ”
ผู้เฒ่าตระกูลโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ท่านผู้นำตระกูลไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอก ทั้งหมดนี้เป็นไปตามหน้าที่อยู่แล้ว” เมื่อกล่าวถึงตระกูลหัว ผู้เฒ่าตระกูลก็มีสีหน้าโศกเศร้า “หากตระกูลหัวสืบทอดความสามารถของบรรพบุรุษได้ก็คงจะดี พวกเขาคงเปรียบกับได้รับพรจากพระเจ้า แต่น่าเสียดายที่ในตระกูลหัวไม่มีผู้มากพรสวรรค์แบบนั้นอีกแล้ว”
ถังซวงที่ไม่รู้เรื่องของตระกูลหัวเลย พอได้ยินที่ผู้เฒ่าตระกูลพูด เธอถามออกมาด้วยความสงสัย
“ตระกูลหัวมีความสามารถอะไรหรือคะ?”
ผู้อาวุโสของตระกูลหัวนั้นดูจะน่าชื่นชมพรสวรรค์ของตระกูลหัวจริง ๆ “ความจริงแล้วพรสวรรค์ของตระกูลหัวค่อนข้างลึกลับ ฉันได้ยินว่าผู้นำตระกูลหัวทุกคนล้วนแต่โชคดีโดยกำเนิด พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามต้องการ ตระกูลหัวเองก็เป็นเช่นเดียวกับตระกูลถัง ที่ไม่มีผู้มีความสามารถมาเกิดในตระกูลกว่าหลายร้อยปีแล้ว”
ใบหน้าของผู้เฒ่าตระกูลเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“โชคดีที่ตระกูลถังของเรามีเธอ เพราะหากสามารถผลิตยาในใบสั่งยาได้ ตระกูลถังของเราจะกลับมารุ่งเรืองได้อย่างแน่นอน”
อย่างไรก็ตามเวลานั้น ในใจของถังซวงเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก “พรสวรรค์ของตระกูลหัวคือความโชคดีหรือคะ? แต่เรื่องโชคลาภมันไม่สามารถเรียกได้ว่าพรสวรรค์นี่ บางคนโชคดีมาก แต่บางคนโชคร้าย สิ่งนี้นับว่าเป็นพรสวรรค์ด้วยหรือคะ?”
ผู้เฒ่าตระกูลพยักหน้ารับ “ใช่ สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นพรสวรรค์ด้วย หากโชคดีสักหน่อย ก็จะได้รับโชคลาภ คนแบบนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ไม่มีชีวิตที่เลวร้าย นี่คือสิ่งที่ตระกูลหัวเป็นเสมอมา”
ถังซวงยังคงสับสน
“แต่… สุดท้ายเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นโชคลาภ แล้วแบบนี้จะถือว่ามันเป็นพรสวรรค์ได้ยังไงล่ะคะ ตระกูลหัวจะตัดสินได้ยังไงว่าโชคของบุคคลผู้นั้นดีหรือไม่ดี?”
ผู้เฒ่าตระกูลเองก็ไม่รู้เรื่องนี้มากนัก
“เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าผู้นำตระกูลหัวไม่มีคนโชคดีมาหลายร้อยปีแล้ว และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้นำถูกคัดเลือกกันเองโดยไม่ได้คำนึงถึงพรสวรรค์ใด ๆ”
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงจึงหยุดถาม
แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะคาดเดา ถังเซวี่ยน้องของเธอเองก็นับว่ามีโชคมาก เธอไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะถูกเรียกว่าพรสวรรค์หรือเปล่า เธอจึงคิดว่าจะถามหัวเฟยเฟิ่งในภายหลัง
“ผู้เฒ่าตระกูลคะ อย่างนั้นฉันฝากเรื่องตระกูลถังด้วยนะคะ ขอตัวก่อน”
“ท่านผู้นำโปรดวางใจได้”
หลังจากถังซวงแยกกับผู้เฒ่าตระกูลแล้ว เธอตรงไปหาหัวเฟยเฟิ่งทันที
หัวเฟยเฟิ่งประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นถังซวงมาหาตน “ซวงเอ๋อร์ มาหายายมีอะไรหรือจ๊ะ?”
“คุณยายคะ หนูอยากถามเรื่องของตระกูลหัวน่ะค่ะ พรุ่งนี้เราจะไปที่นั่นแล้วแต่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตระกูลหัวเลย ไหนจะต้องเตรียมของขวัญอีก”
หัวเฟยเฟิ่งรีบโบกไม้โบกมือ “ซวงเอ๋อร์ หลานไม่จำเป็นต้องเตรียมของขวัญหรอก ตระกูลหัวเสียมากกว่าที่ควรจะเตรียมของขวัญสำหรับหลานและเสี่ยวเซวี่ย”
“คุณยายคะ ตอนนี้หนูเป็นผู้นำตระกูลถังแล้ว หนูต้องเตรียมของขวัญด้วยสิคะ”
หัวเฟยเฟิ่งจึงตอบกลับ “อ้อ จริงด้วยสิ อืม… หลานควรจะเตรียมของขวัญจริง ๆ นั่นแหละ” ขณะนั้นเธอก็เริ่มเล่าถึงตระกูลหัวสั้น ๆ
“ตอนนี้คุณทวดของหลานเป็นผู้นำตระกูลหัว และยายก็เป็นลูกสาวคนเดียวแล้วก็ได้แต่งงานเข้าตระกูลถัง ดังนั้นยายจึงไม่สามารถสืบทอดตระกูลหัวได้ คุณทวดของหลานจึงรับลูกชายจากอาของยายชื่อหัวเฟยหลงเป็นบุตรบุญธรรม ถ้าหลานได้พบเจอคน ๆ นั้นก็เรียกเขาว่าคุณตาแล้วกันนะ”
ถังซวงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “เป็นชื่อที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ คำแรกคือมังกร และอีกคำคือหงส์”
“ใครก็พูดแบบนั้น แต่เดี๋ยวก็ชินไปเอง” หัวเฟยเฟิ่งแนะนำสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลหัวเพิ่มเติม “ไว้ยายจะแนะนำให้รู้จักพวกเขาทีละคนหลังจากเราได้พบกันนะ”
ถังซวงพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
หลังจากนั้นถังซวงเริ่มถามเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ ในตระกูลหัว รวมไปถึงพรสวรรค์ของพวกเขาด้วย
“อ้อ… เป็นความจริงที่ตระกูลหัวของเราไม่มีผู้มีพรสวรรค์มานานหลายปี บางทีความสามารถนี้อาจจะไม่มีอีกแล้วก็ได้ มันหายไปกว่าหลายร้อยปีแล้ว แต่ว่าพ่อของยายกับคนอื่น ๆ ยังไม่อยากยอมรับ”
ถังซวงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “คุณยายคะ บางทีอาจจะยังไม่จบก็ได้ พวกเขาอาจจะพูดถูกนะคะ”
“ซวงเอ๋อร์ หลานกำลังกล่าวถึงครอบครัวของเราสินะ”
ทั้งสองพูดคุยกันพร้อมกับหัวเราะอย่างสนุกสนาน และในที่สุดถังซวงก็ได้รู้เกี่ยวกับพรสวรรค์ของตระกูลหัว มันเป็นสิ่งที่ลึกลับมาก และทั้งหมดล้วนแต่ขึ้นอยู่กับความโชคดีจริง ๆ
“แบบนี้มันจะไม่หละหลวมไปหน่อยหรือคะ?”
หัวเฟยเฟิ่งยิ้มพร้อมส่ายศีรษะ “ไม่เลย มันไม่ใช่การคาดเดาจ้ะ มันมีบางสิ่งที่น่าเชื่อถือกว่านั้น”
ถังซวงไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่เธอไม่คิดถามต่อ และกลับไปเตรียมของขวัญ
เช้าวันถัดมา หัวเทียนจางพาถังซวงและคนอื่น ๆ กลับไปที่ตระกูลหัว
“ถึงแล้ว ตระกูลหัวอยู่ด้านหน้านี่เอง”
ถังซวงมองพื้นที่ตรงหน้าและพบว่าพื้นที่ของตระกูลหัวเองก็ไม่ใช่เล็ก ๆ เลย แต่หากเทียบกับตระกูลถัง แน่นอนว่ามันย่อมเล็กกว่า
“อาหลาน นี่เป็นครั้งแรกที่หลานมาเยี่ยมตระกูลหัว อย่างนั้นไว้เราไปเดินเล่นเพื่อดูรอบ ๆ นะ”
“ขอบคุณค่ะคุณตา”
เมื่อหัวเทียนจางพาถังซวงและคนอื่น ๆ เข้ามาด้านใน ก็มีชายวัยกลางคนร่างสูงเอ่ยขึ้นว่า “พ่อครับ ผมได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่พบลูกสาวแล้ว พาผมไปพบหลานสาวของผมหน่อยได้ไหมครับ”
เมื่อหัวเทียนจางเห็นหัวเฟยหลงเดินเข้ามา เขาโบกมือให้อีกฝ่ายก่อนจะร้องเรียก “เฟยหลง มานี่เร็วเข้า ลูกสาวของพี่สาวลูกอยู่ที่นี่แล้ว วันนี้บ้านเรามีแขกนะ”
หลังจากหัวเฟยหลงเดินเข้ามา เขาเห็นถังหลานและคนอื่น ๆ ทันที “โอ้ ดีจัง ผมเตรียมอาหารไว้มากมาย เดี๋ยวเราไปรับประทานพร้อมกันนะครับ”
หัวเทียนจางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “อื้ม ไปกันเถอะ”
แม้ตระกูลหัวจะอยู่ไม่ไกลจากตระกูลถังมากนัก แต่พวกเขาก็ใช้เวลาตลอดช่วงเช้าเพื่อเดินทางมาที่นี่ จนเวลานี้เป็นเวลาของมื้อเที่ยงแล้ว
เดิมทีถังซวงคิดว่าจะต้องไปที่ห้องอาหาร แต่จู่ ๆ หัวเฟยหลงก็พาพวกเขามาที่โถงด้านหน้าเสียก่อน เธอจึงเห็นว่ามีโต๊ะมากมายในพื้นที่โล่งตรงหน้า และมีผู้คนนั่งรออยู่
“ยินดีต้อนรับผู้นำตระกูล และยินดีต้อนรับคุณหนูใหญ่กับครอบครัวกลับสู่ตระกูลหัว”
…………………………………………………