การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 566-2 สั่งสอนบทเรียน (2)
บทที่ 566 สั่งสอนบทเรียน (2)
“หัวโย่วเฉิง สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คือหัวอวี้เหวินใส่ร้ายเสี่ยวเซวี่ย แต่แกยังกล้าพูดแบบนี้ ฉันล่ะประทับใจจริง ๆ แต่ฉันขอบอกไว้เลยว่าเรื่องวันนี้จบไม่สวยแน่”
แม้หัวอวี้เหวินจะกลัวหัวเทียนจาง แต่เธอก็ยังคงสงบสติอารมณ์ได้ และกล่าวโต้แย้ง “คุณปู่คะ หนูมั่นใจว่าจี้หยกอยู่กับถังเซวี่ย ถ้าคิดว่าพวกเราใส่ร้าย ก็แค่ให้เราเข้าไปค้นหามัน”
“หึ… อยากค้นก็ค้นได้เลยงั้นหรือ? ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร แต่เธอไม่มีสิทธิ์พูด”
หัวเฟยเฟิ่งหันมองหัวอวี้เหวินอย่างไม่พอใจ เธอรู้ว่าทั้งหมดนี้คือกับดัก และเธอคิดว่าคงจะมีใครเอาจี้หยกไปวางไว้ในห้องของถังเซวี่ยแล้ว ไม่อย่างนั้นหัวอวี้เหวินคงไม่มั่นใจมากขนาดนี้
หลังจากตระหนักได้ หัวเฟยเฟิ่งหันมองหัวอวี้เหวินด้วยความเย็นชายิ่งกว่าเดิม
หัวโย่วเฉิงเห็นว่าหัวเฟยเฟิ่งกำลังสั่งสอนลูกสาวของตน เขาอดไม่ได้ที่จะบ่น “หัวเฟยเฟิ่ง อวี้เหวินก็เป็นหลานสาวของพี่ด้วยเหมือนกัน นี่เป็นวิธีที่พี่ดูแลหลานงั้นหรือ? ยิ่งกว่านั้นอวี้เหวินของพวกเราไม่สมควรถูกต่อว่าอย่างนี้ ทั้งที่ลูกสาวของพี่ไม่มีอะไรเลยแท้ ๆ เป็นแค่คนที่เติบโตในโลกภายนอก ไม่ได้มีอะไรดีนอกจากหน้าตา”
“หัวโย่วเฉิง…”
ถังหลานเป็นดั่งดวงใจของหัวเฟยเฟิ่ง เมื่อหัวโย่วเฉิงดูหมิ่นถังหลาน หล่อนไม่อาจระงับความโกรธได้ พุ่งเข้าหาหัวโย่วเฉิงทันที
หัวโย่วเฉิงไม่ได้ยืนนิ่งเพื่อรอความเจ็บปวด รับมือกับหัวเฟยเฟิ่งอย่างรวดเร็ว
ความสงบก่อนหน้ากลับกลายเป็นวุ่นวายอีกครั้ง และเป็นหัวเฟยหลงที่เข้ามาช่วย เขาเห็นหัวเฟยเฟิ่งและหัวโย่วเฉิงกำลังต่อสู้กันจึงรีบวิ่งเข้ามาหยุดทั้งสองฝ่าย “พี่ชาย พี่เฟยเฟิ่ง เกิดอะไรขึ้น? นี่เป็นอะไรกันไปหมด?”
ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรตอบกลับ เป็นหัวเทียนจางที่เล่าว่าเกิดอะไรขึ้นแทน
หลังจากได้ยินว่าเป็นเพราะจี้หยก มันก็มีเสียงพึมพำแผ่วเบาดังขึ้น “เพราะ… จี้หยกงั้นหรือ?”
ทุกคนหันกลับมามองและพบว่าคนที่พูดคือหัวสือหลิน หลานชายของหัวเฟยหลง อีกทั้งยังมีจี้หยกใสผุดผ่องวางอยู่บนฝ่ามือของเขา ซึ่งมันสลักคำว่า ‘เหวิน’ บนนั้น
“เป็น… เป็นไปได้ยังไง…”
หัวอวี้เหวินตกตะลึงเมื่อเห็นว่าจี้หยกของเธออยู่ในมือของหัวสือหลิน
หัวโย่วเฉิงเองก็ทราบดีว่านี่คือจี้หยกของลูกสาว ใบหน้าของเขามืดครึ้ม พูดขึ้นว่า “หัวอวี้เหวิน เมื่อครู่ลูกบอกว่าถังเซวี่ยขโมยไปไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมมันถึงไปอยู่กับสือหลิน?”
หากจี้หยกถูกถังเซวี่ยขโมยไปจริง ๆ พวกเขาจะได้เปรียบแน่นอน แต่ตอนนี้จี้หยกไม่ได้อยู่กับถังเซวี่ย และยังอยู่ในมือของหัวสือหลินด้วย เรื่องนี้พวกเขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว
หัวเทียนอวี้ หัวเฟยหลง และคนอื่น ๆ ก็จำได้ว่านี่คือจี้หยกของหัวอวี้เหวิน
แล้วตอนนี้จะพูดอะไรได้อีก? หัวอวี้เหวินทั้งใส่ร้ายถังเซวี่ย ที่เธอถูกตบตีมันก็สมควรแล้ว เพราะไม่มีใครบอกให้เธอมาใส่ร้ายคนอื่นอย่างนี้
“นี่… หัวอวี้เหวิน มีอะไรจะพูดอีกไหม?”
หัวเฟยเฟิ่งไม่ได้คิดว่าเรื่องราวจะดำเนินมาเช่นนี้ เธอเชื่อว่านี่คือแผนการที่มีไว้ใช้จัดการกับถังเซวี่ย และคิดว่าจี้หยกคงจะอยู่ในห้องของหลานสาว ไม่คิดเลยว่ามันจะไปอยู่ในมือของหัวสือหลินได้ แม้จะสับสนแต่ก็รู้สึกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องที่ดี จึงกล่าวดักหัวอวี้เหวินทันที
แน่นอนว่าหัวอวี้เหวินไม่สามารถพูดอะไรได้
ในใจของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ทุกอย่างถูกตระเตรียมไว้หมดแล้วแท้ ๆ แต่สถานการณ์กลับพลิกผันเสียได้
ส่วนอีกคนที่หดหู่คือหัวยี่ฮวน
เพราะช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอวางแผนเรื่องนี้กับหัวอวี้เหวิน แต่มันพังทลายลงไม่เป็นท่า
หัวเฟยหลงมองหลานชายของตนก่อนจะถามว่า “สือหลิน หลานไปเอาจี้หยกนี้มาจากไหน?”
หัวสือหลินตอบกลับสบาย ๆ “ผมเก็บมันได้บนทางเดินน่ะ และรู้สึกคุ้น ๆ จำได้ว่าเป็นของอวี้เหวิน เลยจะเอามาคืนให้ แต่ไม่คิดว่า… จะได้พบกันที่นี่”
หัวอวี้เหวินหน้าซีดเมื่อได้ยินคำพูดของหัวสือหลิน
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ
“ขอโทษซะ ขอโทษเสี่ยวเซวี่ยเดี๋ยวนี้!”
ถังซวงไม่สนใจอะไรแล้ว เธอหันกลับมาพูดกับหัวอวี้เหวินทันที
หัวอวี้เหวินเห็นใบหน้าเย็นชาของถังซวง ก็เหลือบมองพ่อกับปู่ของตัวเอง “ฉัน… ฉันคิดว่าจี้หยกจะอยู่กับถังเซวี่ย แต่ฉันไม่รู้ว่าเรื่องจะลงเอยอย่างนี้ อีกอย่างฉันก็ถูกตบตีแล้วด้วย ทำไมฉันต้องขอโทษอีกล่ะ”
หัวโย่วเฉิงมองแก้มที่บวมแดงของลูกสาวแล้วหันมองถังซวง “เธอก็สั่งสอนอวี้เหวินไปแล้ว จะเอาอะไรอีก?”
“ฮ่าฮ่า… ดูเหมือนคุณจะมองว่าลูกสาวของตัวเองทำถูกสินะ”
ถังซวงเหลือบมองหัวโย่วเฉิงด้วยสายตาเย็นชา และเมื่อกำลังจะลงมือ หัวเฟยหลงกลับเอ่ยปากขึ้นมาก่อนว่า “หัวอวี้เหวิน ขอโทษเสี่ยวเซวี่ยเดี๋ยวนี้ ถ้าหากเธอไม่ยอมขอโทษ ตระกูลจะตัดเบี้ยเลี้ยงของเธอ!”
หัวเทียนจางพยักหน้า “ใช่ รีบขอโทษซะ ไม่อย่างนั้นเบี้ยเลี้ยงทุกอย่างจะถูกพักไว้!”
“ไม่… อย่าตัดเบี้ยเลี้ยงของฉันนะ”
หากเธอไม่มีเงินที่ครอบครัวมอบให้ คงเป็นเรื่องยากที่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
หัวเทียนอวี้และหัวโย่วเฉิงเองก็ไม่คิดมาก่อนว่าบทลงโทษจะรุนแรงมากขนาดนี้ พวกเขากำลังจะพูดบางอย่าง แต่หัวเทียนจางกลับจ้องทั้งสองคนเขม็ง “นี่เป็นเรื่องของพวกเธอ พวกเราคนแก่จะไปยุ่งอะไร? ปล่อยให้เธอจัดการซะ!”
หัวอวี้เหวินสูญเสียทั้งหัวเทียนอวี้และหัวโย่วเฉิง อีกทั้งเมื่อถูกสายตาของทุกคนรอบข้างจับจ้อง ร่างกายของเธอก็เหงื่อท่วม
แม้แต่หัวยี่ฮวนเองก็ยังไม่กล้าพูดอะไร เพราะกลัวว่าตัวเองจะเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้
หลังจากถูกสายตาหลายคู่กดดัน หัวอวี้เหวินก็ไม่กล้าดื้อรั้น กล่าวขอโทษถังเซวี่ย “ฉันขอโทษ ฉัน… ทำผิดไปแล้ว”
ถังเซวี่ยมองหัวอวี้เหวินอย่างเย็นชาก่อนจะพูดเน้นย้ำ “อย่างนั้นในอนาคตก็อย่าทำพลาดอีก และ… อย่าคิดว่าเพียงเพราะฉันดูอ่อนโยนแล้วจะรังแกได้ เพราะถ้ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง มันจะไม่จบลงง่าย ๆ แบบนี้แน่”
หัวอวี้เหวินเม้มปากก่อนจะพยักหน้ารับด้วยความอึดอัดใจ
ส่วนหัวเทียนอวี้มองหลานสาวของเขาอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะพากันออกไปพร้อมความขุ่นเคืองในใจ
…………………………………………………