การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย - บทที่ 582 สูญเสีย
บทที่ 582 สูญเสีย
หร่วนปี้เฟิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
เธอคิดว่าตนเองมีพลังเพียงพอจะต่อกรกับตระกูลเฮ่อ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกสิ่งที่เธอคิดมันจะไม่เป็นแบบนั้น แม้ผู้คนที่มาคราวนี้จะมากด้วยทักษะ แต่ตระกูลเฮ่อก็ยังเก่งกาจกว่า อีกทั้งถังซวงก็แข็งแกร่ง โหดเหี้ยม ไม่สามารถเข้าใกล้หล่อนได้เลย
คุณชายจูและจูเหลียนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เห็นว่าหร่วนปี้เฟิงไม่มีโอกาสชนะแน่นอน
หลังคิดอย่างนั้นแล้ว คุณชายจูอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิด หากเธอยอมฟังตั้งแต่ต้น พวกเขาอาจจะได้ออกจากตระกูลเฮ่อนานแล้ว
นอกจากนั้น…
คนรับใช้เหล่านี้ก็รับเงินจากเขา แต่กลับเชื่อฟังคำสั่งของหร่วนปี้เฟิงมากกว่า แบบนี้ควรจะเก็บไว้งั้นหรือ? ไม่มีทาง เขาจะไล่พวกมันออกทั้งหมด
แต่ไม่ว่าจะโกรธแค่ไหน คุณชายจูก็ทราบดีว่าตนต้องแก้ไขปัญหาตรงหน้าก่อน
เขาพยายามฝืนยิ้มกล่าวกับเฮ่อจื่อกุยด้วยความรู้สึกผิด “คุณเฮ่อ วันนี้พวกเราหยาบคายมากเกินไป ผมต้องขอโทษด้วย ผมจะพาพวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้ เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครับ”
หร่วนปี้เฟิงรู้ดีว่าเธอจะต้องออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เธอรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะร่นถอยออกไป
ถังซวงมองหร่วนปี้เฟิงด้วยแววตาเย็นชา
เพียงถูกจ้องมองเล็กน้อยจากสายตานั้น หร่วนปี้เฟิงก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว เธอไม่กล้าแม้แต่จะขยับ หากเธอถูกถังซวงทุ่มลงพื้นอีกครั้ง ชีวิตของเธอจะพบจุดจบจริง ๆ คุณชายจูที่เห็นท่าทางอย่างนั้นของภรรยา ก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนใจ แม้จะโกรธที่หล่อนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่พวกเขาคือฝ่ายเดียวกัน ทำได้เพียงหันมากล่าวกับถังซวง “คุณถัง ทุกอย่างเป็นความผิดของเราเอง ผู้ใหญ่ย่อมไม่ถือสาผู้น้อย โปรดให้อภัยพวกเราด้วย”
ถังซวงยกยิ้ม “แต่ฉันยังเด็ก ไม่สามารถแบกรับความรู้สึกนี้ได้ไหวหรอกค่ะ”
แม้ว่าคุณชายจูจะสาปแช่งหล่อนในใจ แต่เขาไม่ได้เปิดเผยออกมาผ่านสีหน้า ทำได้แค่เสนอค่าเสียหายให้อย่างใจกว้าง
“คุณถัง ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเราเองนี่เป็นคำขอโทษเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผม หวังว่าคุณจะรับมันไว้” เขาหยิบเช็คที่ติดตัวออกมายื่นให้ ตัวเลขบนเช็คคือหนึ่งล้านหยวน แต่ทว่าถังซวงไม่แม้แต่จะชายตามองเช็คใบนั้น
“คุณจู ฉันได้ยินว่าตระกูลของคุณเพิ่งซื้อที่ดินผืนหนึ่ง สิ่งที่ฉันต้องการไม่มีอะไรมาก ขอแค่ที่ดินผืนนั้นก็พอค่ะ”
คุณชายจูประหลาดใจหลังได้ยินอย่างนั้น
พวกเขาได้ที่ดินผืนหนึ่งมาก็จริง แต่ถังซวงรู้เรื่องเหล่านี้ได้ยังไง? ที่ดินตรงนั้นอยู่ในทำเลไม่ค่อยดีนัก แต่มันก็ไม่ได้เล็กเลย อีกทั้งในช่วงเริ่มพัฒนาอาจจะต้องทุ่มเงินลงไปจำนวนมากด้วย
หร่วนปี้เฟิงเองก็ทราบเกี่ยวกับที่ดินผืนนั้น เธอจึงปฏิเสธออกไปทันที
“ไม่ได้ เราจำเป็นต้องใช้ที่ดินผืนนั้นทำอย่างอื่น เราจะมอบมันได้ยังไง? อีกอย่างเงินหนึ่งล้านหยวนก็มากพอแล้ว อย่าโลภให้มาก” ที่ดินผืนนั้นมูลค่าห้าล้านหยวน จะให้ไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?
ถังซวงเหลือบมองหร่วนปี้เฟิงก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าสมองคุณจะจดจำอะไรไม่ได้เลยสินะ” เธอเดินเข้าหาหร่วนปี้เฟิงอีกครั้ง
“กรี๊ด… อย่าเข้ามานะ”
หร่วนปี้เฟิงถอยหลังกลับไป เพราะไม่อยากจะถูกทุบตีอีกแล้ว
คุณชายจูเห็นก็ไม่ได้พูดอะไร อีกอย่างเขาเองก็ไม่อยากจะยกที่ดินนั้นให้ด้วย
ส่วนเฮ่อจื่อกุยอยากรู้ว่าที่ดินนั้นเป็นแบบไหน และเมื่อเห็นว่าหลานสาวของเขาสนใจที่ดินผืนนี้ เขาจึงช่วยเหลือเธออีกแรง
“คุณจู มันก็แค่ที่ดินไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ซวงเอ๋อร์สนใจมัน คุณก็แค่หยิบยกมันออกมา ถ้าหากคุณคิดได้เร็วกว่านี้เรื่องราวทั้งหมดคงจบลงไปตั้งนานแล้ว แต่คุณกลับทำให้ทุกอย่างบานปลาย และครอบครัวจูเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ตระกูลจูจะเป็นศัตรูของตระกูลเฮ่อทันที และไม่ว่าตระกูลจูทำธุรกิจอะไร ตระกูลเฮ่อก็จะแย่งชิงมันมา คุณก็ลองไตร่ตรองถึงความสามารถของตัวเองดูนะครับ”
“คุณ…”
คุณชายจูไม่คิดมาก่อนว่าเฮ่อจื่อกุยจะกล้ากล่าวออกมาอย่างนี้ ในใจของเขายิ่งลังเล
ถังซวงหัวเราะออกมา “คุณลุง ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าวันนี้คุณจูไม่เต็มใจ ก็แค่ขังพวกเขาไว้ที่นี่”
ถังซวงส่งสัญญาณ ทันใดนั้นถังสือก็ปรากฏตัวขึ้น
“ท่านผู้นำตระกูล”
เมื่อเห็นคนแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้น ทุกคนในตระกูลจูตื่นตระหนกทันที แม้แต่เฮ่อจื่อกุย พานลี่ฮวา ยังหันมองถังสือด้วยความสงสัย
ถังซวงมองถังสือพร้อมยกยิ้ม “คนพวกนี้ ฉันจะปล่อยให้นายจัดการ แค่สองสามคน คงจะไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
ถังสือกล่าวตอบ “ไม่มีปัญหาครับ ผู้นำตระกูลต้องการให้พวกเขาตายหรือว่าหายสาบสูญครับ?”
เห็นสีหน้าจริงจังของถังสือแล้ว ในใจของหร่วนปี้เฟิงและจูเหลียนก็สั่นสะท้าน ทั้งสองรู้สึกว่าถังสือตรงหน้านี้ทรงพลังมาก
แม้คุณชายจูจะไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะฆ่าคนจริง ๆ แต่เขาก็ยังกังวล
ส่วนเฮ่อจื่อกุยและพานลี่ฮวาพอจะคาดเดาตัวตนของถังสือได้ และรู้ว่าพวกเขาคงจะมาจากตระกูลทางสายเลือดของถังหลาน และตอนนี้ถังซวงเพียงข่มขู่ให้ตระกูลจูหวาดกลัว เพราะที่แห่งนี้ยังมีคนอยู่มากมาย
หลังจากถังซวงได้ยินคำถามของถังสือ เธอไตร่ตรองก่อนจะพูดว่า “หากจะทำให้พวกเขาหายไปคงจะลำบาก เราจะจัดการฝังเขาไว้ที่นี่”
“ครับ”
ถังสือตอบรับ ก่อนจะหยิบมีดออกมาแทงเข้าที่ร่างกายของผู้คุ้มกันตระกูลจูที่อยู่ใกล้เคียง จนอีกฝ่ายล้มลงในทันที
“เฮ้ย…”
เฮ่อจื่อกุยตระหนักได้ว่าถังสือไม่ใช่คนธรรมดา หลานสาวของเขาก็เช่นกัน พวกเขาไม่แยแสกับชีวิตคนตรงหน้าเลย และสามารถจัดการได้จริง ๆ
แน่นอนว่าถังสือไม่สนใจเสียงเรียกร้องของเฮ่อจื่อกุย เขามีเจ้านายเพียงคนเดียวคือถังซวง ไม่สนใจฟังคำพูดของคนอื่น
หลังจากนั้นทุกคนได้เห็นถังสือฆ่าคนเพิ่มอีกหนึ่งคน
“กรี๊ด…”
หร่วนปี้เฟิงและจูเหลียนกรีดร้องออกมา พวกเธอไม่เคยพบเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ร่างกายของทั้งสองอ่อนปวกเปียก ถังซวงเอาจริงแล้ว หากพวกเขาไม่ยอมมอบที่ดินให้ พวกเขาจะตายอยู่ที่นี่จริง ๆ
คุณชายจูที่อยู่ข้าง ๆ ตะโกนเสียงหลง แต่เสียงของเขาถูกเสียงของหร่วนปี้เฟิงและจูเหลียนกลบหมดสิ้น จึงไม่มีใครเห็นว่าเขาเองก็หวาดกลัว แม้จะเสียดาย แต่มันก็เพียงที่ดินหนึ่งผืนเท่านั้น มอบไปให้จบ ๆ
“ตกลง ตกลง ฉันยอมแล้ว ฉันจะให้”
คุณชายจูพยักหน้าอย่างเร่งรีบเพราะหวาดกลัวว่าชีวิตของเขาจะจบสิ้น
ส่วนเฮ่อจื่อกุยมองถังซวงด้วยความตื่นตระหนก เด็กสาวที่พวกเขามองว่าเป็นเด็กดีเสมอมากลับมีด้านนี้ด้วย
ถังซวงโบกมือให้ถังสือ “เอาละ หยุดก่อน”
“ครับ”
ถังสือยืนขึ้นก่อนจะหันกลับมาหยุดยืนด้านหลังของถังซซง
คุณชายจูไม่เคยต้องรีบร้อนมากขนาดนี้มาก่อน เวลานี้เขาใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนี้ให้เป็นชื่อของถังซวงอย่างรวดเร็ว
“คุณถัง อย่างนั้น… พวกเราไปได้หรือยัง?”
“ไปได้ค่ะ”
ถังซวงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจนัก
คุณชายจูพาครอบครัวออกไป และแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่กลับมาเหยียบตระกูลเฮ่อตลอดชีวิต